วันที่ 7 ก.พ.2568 ที่รัฐสภา นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะหัวหน้าผู้แทนผู้ทำหน้าที่กระบวนการธรรมทูต สายประเทศศรีลังกา เมียนมา และ สปป.ลาว   เปิดเผยว่า ได้นำคณะธรรมทูต และผู้แทนมูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา อาทิ นายปรีชา บัววิรัตน์เลิศ นายจิรชัย มูลทองโร่ย อดีต สว.เข้าพบนายคำพัน อั่นลาวัน เอกอัครราชทูต สปป.ลาว ประจำประเทศไทย โดยอัญเชิญองค์รูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัยขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว และมอบชุดประกาศเกียรติคุณครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้แก่เอกอัครราชทูต สปป.ลาว เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ วัดองค์ตื้อมหาวิหาร นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนุนเสริมการเผยแพร่และประกาศเกียรติคุณองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ขององค์กรยูเนสโก ในวาระครบรอบ 150 ปี ชาตกาล โดยก่อนหน้านี้ได้มอบให้แก่ประเทศศรีลังกา และเมียนมา ไปแล้ว

นายอุปกิต กล่าวว่า ในโอกาสเดียวกัน ได้มอบพระพุทธรูปสำคัญที่สูญหายในช่วงสงครามอินโดจีน ส่งคืนสู่มาตุภูมิ โดยพระพุทธรูปดังกล่าวเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 38.5 ซม.สูง 74 ซม.เป็นรูปแบบตามศิลปะล้านช้างในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19-24 หรือประมาณ 200-700 ปีมาแล้ว ได้มาจากพ่อค้าซึ่งประมูลมาจากพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวในประเทศฝรั่งเศส และต่อมาได้ร่วมกับกรมศิลปากร ค้นคว้าจากหลักฐานต่างๆ เช่น รูป ภาพสเก็ตช์ จารึกบนฐานพระพุทธรูป ทราบว่าเป็นพระพุทธรูปสำคัญที่เคยประดิษฐานในวัดเพียวัด เมืองคูณ แขวงเชียงขวาง สปป.ลาว จึงมีความประสงค์ที่จะส่งคืนเพื่อให้เป็นสมบัติและเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ ตลอดจนมีคุณค่าทางจิตใจที่ได้เก็บรักษาภูมิปัญญาของบรรพบุรุษชนชาติลาวต่อไป

นายคำพัน อั่นลาวัน กล่าวว่า ขอขอบใจคณะผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมผลักดันเรื่องนี้กันมาเกือบ 1 ปีจนสำเร็จลุล่วง ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมในโอกาสเฉลิมฉลอง 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - สปป.ลาว ซึ่งพระพุทธรูปโบราณจะนำไปประดิษฐาน ณ สถานที่เดิมคือ วัดเพียวัด