วันที่ 6 มี.ค.68 นายชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิสโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต ระบุว่า...
เปิดให้จองผลงานกลอนเล่มใหม่ลำดับที่ 11 ชุด "เจ้าหญิงแห่งรัตติกาล" เสมือนบันทึกการเดินทางในประเทศญี่ปุ่นด้วยกลอน 72 สำนวน ตอนนี้ได้รับน้ำใจไมตรีเมตตาสั่งจองประเดิมเล่มเข้ามาแล้ว เลยหยิบเอากลอนสักสำนวนมาชวนอ่านเผื่อว่าจะมีเห็นเมตตาสั่งจองเพิ่มเติม ถือเอาสัญลักษณ์ญี่ปุ่นในสำนวนนี้ ท่านใดจะเมตตาสั่งจองติดต่อทางกล่องข้อความได้เลยครับ
... ภูเขาฟูจิ...
๏ขุนเขาสูงเกินการประมาณวัด
แจ่มจำรัสแนวเขินเนินไศล
เมฆกระจายแอร่มแซมฟ้าไกล
หิมะคลุมห่มไว้บนยอดภู
๏ชะวากวุ้งคุ้งเวิ้งเป็นเชิงขอบ
ทะเลสาบร่ายรอบเป็นกรอบอยู่
ชื่นพุกพุ่มชุ่มทุกพรูอยู่พรั่งพรู
สุดตาดูดาษดื่นผืนแผ่นดิน
๏ดั่งบุปผามีใจในธารี
ขุนคีรีหวั่นไหวใจถวิล
เผ่นผงาดสง่าสมเหนือลมริน
ระรื่นกลิ่นหอมอยู่มิรู้วาย
๏ยังแว่วลมหายใจเขาไพรครึ้ม
แดดทึบทึมฟ้าใสไอหมอกสาย
ผู้สัญจรผ่านทางค่อยย่างพราย
ต่างจุดหมายพักร้อนผ่อนสำราญ
๏เมฆขาวพลิ้วผ่านผามิราเลือน
กี่ปีเคลื่อนกี่เดือนคล้อยปล่อยให้ผ่าน
แดนศักดิ์สิทธิ์คงอยู่แต่บูราณ
จักรวาลอสงไขยใจผูกพัน
๏สัญลักษณ์แห่งลูกพระอาทิตย์
ส่องทุกทิศคงอยู่เป็นคู่ขวัญ
ตำนานแห่งใจเมืองเรื่องสำคัญ
ยังคงมั่นเป็นภูผาแกร่งถาวร ๚ะ๛
มหา สุรารินทร์
ศ.21 เมษายน 2566
ทะเลสาบคาวาคูจิโก๊ะ
1 ใน 5 ทะเลสาบภูเขาฟูจิอำเภอฟูจิโชซิดะ เมืองยามานาจิ ประเทศญี่ปุ่น
ภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาไฟที่สูงที่สุดในประเทศ คนญี่ปุ่นเรียกว่า ฟูจิซัง ซึ่งในหนังสือในสมัยก่อนเรียกว่า ฟูจิยามะ ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิซูโอกะและจังหวัดยามานาชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของ โตเกียว ด้วยระดับความสูง 3,776 เมตร (12,388 ฟุต) รายล้อมด้วยทะเลสาบทั้ง 5บริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งมีทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบ Yamanaka (ยามานากะ), ทะเลสาบ Kawaguchiko (คาวากูชิโกะ), ทะเลสาบ Sai (ไซ), ทะเลสาบ Shoji (โชจิ) และทะเลสาบ Motosu (โมโตสึ) ซึ่งล้วนเป็นทะเลสาบที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฟูจิในอดีต
วรรณกรรมท้องถิ่นเกี่ยวกับภูเขาไฟลูกนี้ นิทานพื้นบ้านเรื่องหนึ่ง ที่ชื่อว่า “Kachi Kachi Yama” หรือ “ภูเขาคาจิคาจิ” โดยเฉพาะจุดชมวิวที่ต้องนั่งกระเช้าไฟฟ้าคาจิคาจิ เชื่อว่า ทุกคนน่าจะได้เห็นเจ้ามาสคอต ทานุกิ และ กระต่าย ที่แสนน่ารักอยู่ไปทั่วทุกที่
เรื่องมันมีอยู่ว่า มีตายายคู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ภูเขาคาจิคาจิ คุณตาคุณยายก็ได้ทำสวนผักเอาไว้ข้างบ้าน แต่ว่าที่ภูเขาคาจิคาจินี้ ก็มีทานุกิจอมเกเรอยู่ตัวหนึ่ง เมื่อคุณตาคุณยายเผลอ มันจะชอบแอบมาขโมยผักในสวนเป็นประจำ วันนึงมันถูกคุณตาจับได้ คุณตาจึงนำเจ้าทานุกิ ไปให้คุณยายและบอกว่าช่วยเอาเจ้าทานุกิตัวนี้ ไปทำซุปให้ที จากนั้นคุณตาก็ไปทำงานนอกบ้านต่อ เจ้าทานุกิเมื่อรู้ว่าตัวเองจะถูกนำไปทำซุป จึงออกอุบายกับคุณยายว่าถ้าคุณยายยอมปล่อยมันไป มันจะมาช่วยคุณยายตำข้าวแล้วจะไม่มาขโมยผักในสวนอีก ด้วยความสงสารคุณยายจึงหลงเชื่อมัน และเมื่อคุณยายเผลอมันก็ใช้ไม้ตำข้าวตีหัวคุณยายจนตาย เสร็จแล้วมันก็นำคุณยายไปทำซุปและปลอมตัวเป็นคุณยายอีกที เมื่อคุณตากลับมาจากทำงานก็ทานซุปเข้าไปโดยที่ไม่รู้ว่านั่นคือซุปที่ทำจากคุณยาย
ภายหลังเมื่อคุณตาทราบเรื่องก็เสียใจมาก ขณะที่คุณตากำลังนั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าบ้านก็มีกระต่ายผู้รักความยุติธรรม เดินผ่านมาพอดี เจ้ากระต่ายจึงถามคุณตาว่า “คุณตาเป็นอะไรทำไมมานั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้?” คุณตาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เจ้ากระต่ายฟัง เมื่อได้ฟังเรื่องทั้งหมด เจ้ากระต่ายคิดว่า เรื่องนี้ต้องได้รับความเป็นธรรม มันจึงอาสาจะไปจัดการกับเจ้าทานุกิให้คุณตาเอง เจ้ากระต่ายออกอุบายหลอกเจ้าทานุกิว่า “ ถ้าจะเอาช่วยข้าขนฟืน ข้าจะแบ่งเมล็ดถั่วให้กับเจ้า“ เจ้าทานุกิได้ ฟังแบบนั้นก็หลงเชื่อรีบเข้าไปช่วยแบกฟืน ระหว่างทางเมื่อเจ้าทานุกิเผลอ เจ้ากระต่ายก็เข้าไปจุดไฟที่ฟืน ด้วยหินไฟทำให้เกิดเสีย “คาจิ คาจิ” (คือเสียง ตอนที่หินไฟกระทบกัน) หลังของเจ้าทานุกิ จึงถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บ
วันต่อมาเจ้ากระต่ายทำทีไปขอโทษเจ้าทานุกิ โดยอาสาที่จะทายาที่หลังให้ แต่จริงๆแล้ว ยาที่เอามาทานั้นไม่ใช่ยา แต่เป็น คารามิโซะ หรือ เต้าเจี้ยวเผ็ด ถ้าเป็นที่บ้านเราก็คงประมาณทาด้วยพริก ทาด้วยเกลือ จึงทำให้แผลของเจ้าทานุกิ ปวดแสบปวดร้อนได้รับความทรมาณอย่างมาก พอเวลาผ่านไปแผลของเจ้าทานุกิ หายดีแล้ว เจ้ากระต่ายก็ออกอุบายอีกว่า โดยชวนเจ้าทานุกิ ออกไปพายเรือเล่นกันที่ทะเลสาบ โดยที่เรือของเจ้ากระต่ายนั้นทำจากไม้ แต่เรือของเจ้าทานุกิ นั้นทำมาจากดินเหนียว เมื่อพายไปได้ไม่นานดินเหนียวก็ค่อยๆ ละลาย เจ้าทานุกิ ก็ค่อยๆ จมน้ำตายไปในที่สุด
ปัจจุบัน ภูเขาไฟฟูจิและบริเวณโดยรอบ กลายเป็นพื้นที่ยอดนิยมของนักปีนเขา ตั้งแคมป์ พักผ่อน ไม่เพียงเท่านั้นองค์การ UNESCO ได้ประกาศให้ภูเขาไฟฟูจิ เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ถือเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 13 และเป็นมรดกโลกแห่งที่ 17 ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย