คณะคุรุศาสตร์ ม.สวนดุสิต เปิดแนวการศึกษารูปแบบใหม่ เน้นผลิตครูชั้นยอด พ่วงทักษะการสอนหลากหลายรูปแบบ สื่อสารด้วยภาษาไทย-ภาษาอังกฤษ ผนวกกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าและจัดกิจกรรม ตอบโจทย์เรียนไปทำงานไปได้เงินเดือนด้วย แห่งแรกของประเทศ

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต หนึ่งในสถาบันที่มีเกียรติประวัติการผลิตครูวิชาชีพมาอย่างยาวนาน และเป็นสถาบันอันดับต้นๆ ที่ได้ผลิตครูคุณภาพเข้าสู่ระบบการศึกษาไทยจนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในหน่วยงานราชการและภาคเอกชน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดยคณะครุศาสตร์ ได้นำแนวทางการศึกษารูปแบบใหม่ “สหกิจศึกษา” เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย สำหรับนักศึกษาที่จบออกไปเป็นครูเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ รองรับกับระบบการศึกษาไทยและการศึกษาในระดับสากล ที่ก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง “สหกิจศึกษา”คืออะไร? สหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (Cooperative and Work Integrated Education: CWIE) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “สหกิจศึกษา” หมายถึง การจัดการศึกษาเชิงประสบการณ์ (Experiential Education) อิงฐานสมรรถนะ (Competencies – based) ซึ่งสถาบันอุดมศึกษาและสถานประกอบการร่วมกันออกแบบและร่วมพัฒนา (Co-design) โดยให้นักศึกษาได้เรียนในสถาบันอุดมศึกษาควบคู่กับการไปปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการ (Workplace) เพื่อให้นักศึกษามีสมรรถนะพร้อมสู่โลกแห่งการทำงานจริงได้ทันทีหลังสำเร็จการศึกษา (Ready to Work) เริ่มบัญญัติศัพท์ โดย ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน เข้ามาใช้ในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ.2536

ศาสตราจารย์ ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน ที่ปรึกษาอธิการบดีด้านบริหาร มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวถึง การนำเอาสหกิจศึกษามาใช้ที่ ในคณะครุศาสตร์ โดยเน้นการผลิตบุคคลากรวิชาชีพครู ที่มีคุณภาพ และเน้นให้มีทักษะทั้งการสอน และ การทำงาน รวมถึงทักษะในด้านภาษาเพื่อรองรับกับการศึกษายุคใหม่ ว่า “จุดเริ่มต้นของการนำเอาระบบสหกิจศึกษามาใช้ อยู่ในช่วงปี 2562 มีการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรศึกษาศาสตร์ ประกอบด้วยสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย โดยมีวิชาโทภาษาอังกฤษ เพื่อตอบโจทย์ห้องเรียน 2 ภาษา และสาขาวิชาการประถมศึกษา โดยมีวิชาโท 5 ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ประกอบด้วย วิชาโทภาษาไทย วิชาโทภาษาอังกฤษ วิชาโทคณิตศาสตร์ วิชาโทวิทยาศาสตร์ทั่วไป และวิชาโทสังคมศึกษา

ทั้งนี้นักศึกษาทุกคนต้องใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนการสอน รวมถึงเรื่องของการบ่มเพาะนิสัยและจิตสำนึกของความเป็นครูอย่างข้มข้น เพื่อรองรับกับการไปประกอบอาชีพครู และเป็นครูที่มีคุณภาพในอนาคต มีโรงเรียนสาธิตละอออุทิศ ซึ่งมี 4 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ ลำปาง นครนายก และสุพรรณบุรี เป็นแหล่งฝึกปฏิบัติการสอน ซึ่งเดิมทีจะเป็นการใช้คำว่า ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ปัจจุบันเข้ามาสู่ระบบสหกิจศึกษาจะไม่ใช่คำนี้แล้ว จะใช้คำว่า ฝึกปฏิบัติการสอน โดยการเป็นครูผู้ช่วยที่สอนจริง ซึ่งตรงนี้จะมีทั้งเรื่องของการฝึกสอนจริงๆ ในรูปแบบของครูผู้ช่วย และมีระบบงานจริงรองรับคือ มีระบบสวัสดิการ เลี้ยงอาหารกลางวัน มีเงินเดือนให้จริง 5,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องสอบผ่านโทอิค (TOEIC 500 ) หรือเทียบเท่าให้ผ่านก่อน

“ในระบบสหกิจศึกษา จะเน้นให้นักศึกษาใช้วิชาโท คือทักษะภาษาอังกฤษ ให้เป็นประโยชน์ให้ได้มากที่สุด รวมถึงการเข้าถึงเครื่องมือทางการศึกษาที่มีเทคโนโลยี ทุกคนต้องใช้ไอแพดเป็นและมีติดตัวตลอดโดยในระหว่างการศึกษา จะมีการติดตามประเมินผลจากระบบการศึกษาอย่างเข้มข้น มีการวัดผลในเชิงวิชาการ มีการประเมินตัวผู้เรียนตลอดเวลา ซึ่งในระบบสหกิจศึกษาสำหรับการผลิตบุคลากรในด้านการศึกษา ก็น่าจะมีที่คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เพียงที่เดียวในเวลานี้” ที่ปรึกษาอธิการบดี ม.สวนดุสิตกล่าว

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วีณัฐ สกุลหอม คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวถึงแนวทางการศึกษาแบบสหกิจศึกษาว่า “ สำหรับวิธีการจัดเรียนการสอนโดยคณะครุศาสตร์จะเน้นเรื่องของการเข้าสู่ประสบการณ์จริงของตัวนักศึกษาตั้งแต่ปีที่ 1โดยมีโรงเรียนสาธิตลอะอออุทิศเป็นแหล่งฝึกปฏิบัติการสอน จึงต้องบ่มเพาะนักศึกษาให้พร้อมด้วยการสร้างพื้นฐานของความเป็นครูด้วยประสบการณ์จริง ปฏิบัติจริง รวมถึงการเข้าไปเรียนรู้ในทุกๆ รายละเอียด ของสถานที่จริง โดยเริ่มจาก ชั้นปีที่ 1 สังเกตการดูแลเด็กในโรงเรียน สังเกตการสอนของครูประจำชั้น สังเกตสภาพแวดล้อมในโรงเรียน และระบบการบริหารจัดการในชั้นเรียน ชั้นปีที่ 2 ทดลองปฎิบัติกิจกรรมร่วมกับครูประจำชั้นในโรงเรียนโดยมีอาจารย์และครูประจำชั้นเป็นครูพี่เลี้ยง ชั้นปีที่ 3 ฝึกปฏิบัติการจัดกิจกรรมให้เด็กในโรงเรียนจากการออกแบบและการจัดการของนักศึกษา ชั้นปีที่ 4 ฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาอย่างเต็มรูปแบบในบทบาท “ครูผู้ช่วย” การบูรณาการด้วยศาสตร์และศิลป์ด้านการจัดการศึกษาหลักสูตรศึกษาศาสตร์ โดยใช้โรงเรียนสาธิตละอออุทิศเป็นฐาน เน้นให้เกิดความรู้ควบคู่ประสบกาณ์จริงซึ่งสามารถนำไปใช้ในวิชาชีพได้จริง อย่างเรื่องของการฝึกปฎิบัติการสอนในฐานะครูผู้ช่วย ในชั้นปีที่ 4 ที่ผ่านเงื่อนไขภาษาอังกฤษแล้ว มีค่าตอบแทนเป็นรายเดือน เดือนละ 5,000บาท ยังมีโครงการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เชื่อมั่นในศักยภาพนักศึกษาให้ปฏิบัติงานตามลักษณะวิชาชีพ โดยนักศึกษาชั้นปีที่ 2-4 ที่เข้าร่วมโครงการได้ค่าตอบแทนเฉลี่ย 15,000 บาท/เดือน ในช่วงปิดเทอม

นอกจากนี้ยังมีทุนการศึกษาจากหลากหลายแหล่งทุนที่สามารถขอรับได้ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1-4 นอกจากนี้คณะครุศาสตร์ยังมีศูนย์ให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยา EDU Wellness Center ระบบคัดกรองและให้คำปรึกษาทางสุขภาพจิต เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับสถานศึกษา จึงมีระบบการให้คำปรึกษาที่เหมาะกับนักศึกษา ครู อาจารย์ ผู้ปกครอง หรือผู้ที่สนใจ เพื่อเป็นการคืนครูดี สู่สังคม (ดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ)

“ครูที่มีความอดทน รอบรู้ มีความรอบด้าน เท่าทันเทคโนโลยี และที่สำคัญต้องเป็นครูที่เป็นครูโดยจิตสำนึกอย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งกับระบบการศึกษาไทย ตัวนักศึกษาในวิชาชีพครู เอง และตัวของผู้เรียน นี่คือความสำคัญของแนวทางการศึกษาแบบสหกิจศึกษา” คณบดีคณะครุศาสตร์ กล่าว

ทั้งหมดนี้คือแนวทาง “สหกิจศึกษา” ที่มุ่งเน้นการผลิตครูมืออาชีพ หรือ สร้างครูพรีเมียม พร้อมสำหรับการเข้าสู่ระบบการศึกษาไทย และก้าวทันการศึกษายุคใหม่ของโลก ที่ปักธงเริ่มต้นโดยคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ซึ่งในอนาคตอาจได้เห็นความแตกต่างระหว่าง “อาชีพครู กับ ครูมืออาชีพ” ผ่านผลผลิตจากระบบสหกิจศึกษา ที่บูรณาการ การเรียนและการทำงานเข้าด้วยกัน จบแล้วทำงานได้ทันที ซึ่งจะเป็นการนำไปต่อยอดพัฒนาระบบการผลิตครู เพื่อพัฒนาต่อยอดระบบการศึกษาไทยภาพรวมต่อไป