"สืบเมืองพิษณุโลก" จับมือ "สืบภาค 6" ลุยทลายคอกม้าแก๊งคอลฯ-เว็บพนันออนไลน์ รวบหนุ่มบางกระทุ่มหลอกคนบ้านเดียวกันเปิดบัญชี-พาสแกนหน้าถึงปอยเปต
วันที่ 23 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจภูธรภาค 6 ภายโต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 , พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ, พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.นิคม เครือนพรัตน์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก , พล.ต.ต.เดชพล เปรมศิริ ผบก.สส.ภ.6 , พ.ต.อ.จาตุรนต์ บุษปะเกศ , พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก, พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรณ์ ช่วยราชการ บก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน รอง ผบก.สส.ภ 6 , พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก, พ.ต.อ.ศุภณัฐ ศตะกูรมะ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.6 , พ.ต.อ.สุเมธ สุนะ ผกก.สภ.บางกระทุ่ม , พ.ต.ท.วรการ กาศเกษม รอง ผกก. สส.สภ.เมืองพิษณุโลก พ.ต.ท.ทวิช ถึงจันทร์ รองผกก.ป.สภ.บางกระทุ่ม และ พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ สุดหอม สว.สส.สภ.เมืองพิษณุโลก
สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 6 จับกุมนายวินัย หรือนัย อายุ 37 ปี อยู่ ม.8 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน "ร่วมกันเป็นธุระจัดหาโฆษณา หรือ ไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือ ให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ความผิดทางอาญาอื่นใด
พฤติการณ์ผู้ต้องหารายนี้ คือ หลอกลอกชาวบ้านภายในเขตพื้นที่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ให้ทำการเปิดบัญชีธนาคาร ก่อนนำไปขายต่อให้กับมิจฉาชีพ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์, เว็บพนันออนไลน์) และ ยังเป็นธุระจัดหาคนขับรถรับ-ส่ง คนไปทำงานที่ปอยเปตประเทศกัมพูชากว่า 50 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอให้ออกหมายจับนายวินัย ฯ ในข้อหา "ร่วมกันเป็นธุระจัดหาโฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด"
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ระดมกำลังหลายหน่วยลงพื้นที่ สืบหาที่กบดาบดานของผู้ต้องหาคนดังกล่าว ใช้เวลา 2 วัน จึงทราบว่า ผู้ต้องหากบดานอยู่ในบ้านเช่า ภายในพื้นที่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก จึงได้นำกำลังทำการบุกเข้าจับกุม นายวินัย (ผู้ต้องหา) ได้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง ม.5 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก สอบถามนายวินัยฯ ให้การรับสารภาพว่า ได้ชักชวนชาวบ้านให้มาเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) และจัดหาคนไปทำงานให้กับมิจฉาชีพ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์, เว็บพนันออนไสน์) ที่ปอยเปต ประเทศกันพูชา จริง โดยนายวินัย ทำมานานกว่า 2 ปี ได้ชักชวนคนในหมู่บ้านเปิดบัญชีธนาคารไปแล้วกว่า 50 ราย โดยจะเปิดคนละ 5-6 บัญชี และ นำพาทุกคนข้ามฝั่งไปทำงานสแกนใบหน้าที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา
เบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธว่า ตนนั้นไม่มีร่วมขบวนการแต่อย่างใด โดยตนได้กระทำการนี้แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผล ขุดรากถอนโคนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องให้ถึงต้นต่อต่อไป
จากการสืบค้นประวัติอาชญากรรมของ นายวินัยฯ พบว่า ผู้ต้องหาเคยมีประวัติเกี่ยวพันกับยาเสพติด ถูกจับกุมและต้องโทษในคดีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 1,800 เม็ด เมื่อปี 2558 ก่อนจะพ้นโทษแล้วผันตัวมาเป็นนายหน้าจัดหาบัญชีม้าจนตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบและระวังป้องกันภัยมิให้ตกเป็นเหยื่อจาการถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคาร รวมถึงตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์, เว็บพนันออนไลน์) โดยตำรวจภูธรภาค 6 จะดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุนผู้ต้องหาที่กระทำความผิด โดยใช้มาตราการลงโทษทางกฎหมายในฐานความผิดขั้นสูงสุด เพื่อเป็นแบบอย่างมิให้การกระทำความผิด และ จะดำเนินการจับกุมการกระทำความผิดลักษณะดังกล่าวอย่างจริงจังและ ต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนสืบไป