กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับ มูลนิธิศิลปะและวัฒนธรรมโมกิจิ โอกาดะ และมูลนิธิเอ็มโอเอไทย ได้ดำเนินการโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นขึ้น อย่างต่อเนื่องมากว่า 18 ปี เพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยความหมายและแรงบันดาลใจ ในการเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำความเข้าใจต่อศิลปะวัฒนธรรม ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเด็กและเยาวชน อันเป็นการเสริมสร้างระบบการคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และการเสริมสร้างด้านจิตใจให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม มีสุนทรียภาพในจิตใจ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาเด็กและเยาวชนได้รับการพัฒนาสมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาให้มีการทำงานที่สมดุล โดยมอบหมายให้ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต เป็นเจ้าภาพดำเนินการ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ถ่ายทอดจินตนาการผ่านการประกวดวาดภาพตามความสนใจ หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ประทับใจ เช่น วิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีดาราศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ การท่องเที่ยว สังคมธรรมชาติ หรืออื่น ๆ ถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานศิลปะที่แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ อารมณ์ความรู้สึก ความสมบูรณ์ รูปแบบที่มีลักษณะเฉพาะตนและคุณค่าความงามทางศิลปะ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จตามลำดับ จากจำนวนความสนใจจากเด็กและเยาวชน ที่เดิมเป็นเฉพาะนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 (ภาครัฐและเอกชน) ที่มีอายุระหว่าง 6 - 12 ปี จากในสถาบันการศึกษา รวมถึงผู้ปกครองที่สนับสนุนให้นักเรียนร่วมส่งภาพวาดเข้าประกวดแข่งขันในระดับประเทศตามคุณสมบัติที่กำหนด ส่งผลให้การส่งเสริม สนับสนุนเด็กในการส่งภาพวาดเข้าร่วมประกวดในระดับประเทศเป็นจำนวนมาก และปรากฏว่าภาพวาดของเด็กไทยที่ส่งไป เข้าร่วมประกวดในระดับนานาชาติ ณ ประเทศญี่ปุ่นก็ได้รับรางวัลในทุกๆ ปี 
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้มีการทบทวนและทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศด้านศิลปะและวัฒนธรรมขึ้นใหม่ ระหว่าง กรมส่งเสริมการเรียนรู้  มูลนิธิศิลปะและวัฒนธรรมโมกิจิ โอกาดะ และมูลนิธิเอ็มโอเอไทย ณ MOA International Association ประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาและวิชาการบูรณาการเพื่อพัฒนาชีวิต ศิลปะ วัฒนธรรมและสุขภาพของเด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยเกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์ ในการนี้กรมส่งเสริมการเรียนรู้ มูลนิธิศิลปะและวัฒนธรรมโมกิจิ โอกาดะ และมูลนิธิเอ็มโอเอไทย ​​​​​​​ เพื่อเปิดโอกาสให้กับนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 (อายุ 6 - 13 ปี) ของศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”(ศศช.) หรืออื่นๆ ในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ได้มีโอกาสในการเรียนรู้และมีเวทีสร้างสรรค์ความสามารถทางศิลปะในการประกวดครั้งที่ 19/2567 ตามหลักเกณฑ์คุณสมบัติผู้ส่งภาพวาดเข้าประกวดแข่งขันในระดับประเทศ แบ่งเป็น 2 ประเภท โดยทั้ง 2 ประเภท แบ่งการประกวดออกเป็น 6 ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 6 ประเภทที่ 1 เป็นนักเรียน ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 (ทั้งภาครัฐและเอกชน)
ประเภทที่ 2 เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 (อายุ 6 - 13 ปี) ของศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”(ศศช.) หรืออื่นๆ ในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ 
สำหรับการประกวดวาดภาพในระดับประเทศในปีนี้ มีผลงานส่งเข้าประกวดทั้ง 2 ประเภท ทั้งสิ้น 735 ภาพ ซึ่งได้การประกาศผลเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 และมอบรางวัลเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 โดยผลงานที่ได้รับรางวัลในระดับประเทศ ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 ​​​​​​​และรองชนะเลิศอันดับ 2 ของทุกระดับทั้ง  2 ประเภท รวม 35 ภาพ ได้ถูกส่งเข้าประกวดต่อไปในระดับนานาชาติ ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ประเทศญี่ปุ่น  ​​​​​​​
การประกวดภาพวาดในระดับนานาชาติ ในปี 2567 มีภาพวาดที่ส่งเข้าประกวด ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ประเทศญี่ปุ่น ทั้งสิ้น 132,000 ผลงาน โดยเป็นผลงานของเด็กนักเรียนทั้งในประเทศญี่ปุ่นและจากต่างประเทศ รวม 13 ประเทศ ​​​​​​​ ซึ่งนับว่าเป็นการจัดประกวดและจัดนิทรรศการภาพวาดระดับประถมศึกษาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น และเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ได้ประกาศผลการประกวดภาพวาดเด็กระดับนานาชาติ ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ประเทศญี่ปุ่น โดยผลการประกวดภาพวาดระดับนานาชาติ นักเรียนไทยได้รับรางวัล 2 รางวัล และได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมแสดงนิทรรศการภาพวาดเด็ก 2 ภาพ จากทั้ง 2 ประเภท ได้แก่  ​​​​​​​
รางวัลโล่เงิน ด.ญ.นิชาภา พิชัยกาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนดอนบอสโกวิทยา จังหวัดอุดรธานี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) ชื่อภาพ  “ลำปาวสุขอุดม” และรางวัลชมเชยพิเศษ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ด.ญ.บุญนุช อาญาศักดิ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3  ​​​​​​​ ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านแม่ละมุ้งคี สกร.ระดับอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ชื่อภาพ “ วัฒนธรรมสองสายเลือด” 
ภาพวาดได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมแสดงนิทรรศการภาพวาดเด็ก ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ​​​​​​​
ด.ช.คุณธรรม  ชัยจินดา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศิลปะ จังหวัดอุดรธานี ชื่อภาพ  “จับ”
และ ด.ญ.ชาลิสา เป่าสร้อย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านลำแดงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาชื่อภาพ  “ลุยโคลนจับปลา”
และนักเรียนที่ได้รับรางวัลดังกล่าวได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อรับโล่รางวัล ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA และทัศนศึกษา ณ ประเทศญี่ปุ่น  ​​​​​​​
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2568 ที่ผ่านมานายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ มอบหมายให้ นางสาวเอื้อมพร ศรีภูวงศ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ นายพงษ์สวัสดิ์ จ่างจิตต์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต นางสาวสุนทรี เตินขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงาน สกร.ประจำจังหวัดตากและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการฯ สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ นำนักเรียนเข้ารับรางวัล และร่วมหารือแนวทางการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ตามโครงการดังกล่าวต่อไป  ​​​​​​​
นายธนากร  ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้  กล่าวว่า “ ขอขอบคุณ MOA Interna
tional Association มูลนิธิศิลปะและวัฒนธรรมโมกิจิ โอกาดะ และมูลนิธิเอ็มโอเอไทย เป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนไทยได้มีเวทีแห่งการเรียนรู้ ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นของการสร้างโอกาสในการพัฒนาตนเองผ่านผลงานทางศิลปะโดยการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การได้เปิดโอกาสในการเรียนรู้และเปิดโลกทัศน์ ให้สำหรับเด็กและเยาวชนในพื้นที่สูงและถิ่นทุรกันดาร ในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ได้มีเวทีชีวิตได้มีโอกาสสร้างแรงบันดาลใจให้กับตนเองและผู้อื่น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับพวกเขา ตลอดจนเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเด็กๆกับครอบครัวและชุมชนได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน อันจะส่งผลให้พวกเขามีความสุขกับการมองโลกในแง่ดีและเรียนรู้การใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่เปลี่ยนแปลง และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพกายและจิตใจที่ดีในอนาคต นอกจากนี้การดำเนินโครงการประกวดดังกล่าวยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และวัฒนธรรมอันดีงามระหว่างประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่นได้อย่างดีเยี่ยม ” ​​​​​​​
อาจารย์มูโรเซ คาซูมิ ศิลปินแห่งชาติ สาขาการลงรัก และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิศิลปะวัฒนธรรม โมกิจิ โอกาดะ ได้กล่าวเปิดงานในพิธีมอบรางวัลงานนิทรรศการภาพวาดเด็ก ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ตอนหนึ่งว่า “ การจัดนิทรรศการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบ่มเพาะสุนทรียภาพและสร้างจิตใจที่สมบูรณ์ให้กับเด็กๆ โดยแสดงออกในสิ่งที่เด็กสนใจผ่านการวาดภาพและการคัดลายมือด้วยพู่กันจีนตาม "หลักสูตรการเรียนการสอน" ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สังคม และการมีส่วนร่วมกับผู้อื่น  นอกจากนี้ยังเป็นกิจกรรมการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังในการคิดและการกระทำ เพื่อมุ่งสู่ความฝันและเป้าหมาย หรือที่เรียกว่า "พลังในการมีชีวิต" และในขณะเดียวกันยังเพิ่มความสนใจในประเพณีและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ งานนิทรรศการภาพวาดนี้ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงดูเด็กในสังคมโดยรวม โดยมีการร่วมมือกับบุคคลและองค์กรต่างๆ รวมถึงการจัดแสดงผลงานหมุนเวียนในสถาบันการแพทย์และสวัสดิการ และกิจกรรมส่งเสริมศิลปะตลอดทั้งปีที่เชื่อมโยงโรงเรียน บ้าน และชุมชน เราหวังว่าเรื่องนี้จะช่วยเสริมสร้างความผูกพันของชุมชน และสร้างชุมชนเข้มแข็งที่มีสุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจต่อไป ” 
อาจารย์มูรากามิ ฮิซาโนริ หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินภาพวาด อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัย International Pacific" และ "อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่น"  ได้กล่าววิพากษ์ผลงานภาพวาดในความประทับของคณะกรรมการคัดเลือก จำนวน 3 ภาพ โดยหนึ่งในนั้นมีผลงานของนักเรียนจากประเทศไทย คือ ภาพวาดรางวัลชมเชยพิเศษ ของ ด.ญ.บุญนุช อาญาศักดิ์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านแม่ละมุ้งคี ในหัวข้อ“ วัฒนธรรมสองสายเลือด” ว่า “ ถึงแม้ผมจะไม่ได้อ่านแนวคิดของผลงานภาพวาดของบุญนุช นักเรียนหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ของประเทศไทย แต่สังเกตได้ว่าทางด้านขวาของภาพวาดนั้นมีภูเขาฟูจิ หอเจดีย์ห้าชั้น และไม้ไผ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดและสะท้อนความเป็นตัวแทนของญี่ปุ่น ส่วนทางด้านซ้าย    มีช้างและอาคารแบบไทยๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ บุคคลในภาพยังใส่ชุดกิโมโน และชุดพื้นเมืองประจำท้องถิ่นของไทย การนำเสนอภาพวาดนี้จึงบ่งบอกถึงความรู้สึกของผู้วาดที่ต้องการเป็นเพื่อนกับชาวญี่ปุ่น สะท้อนถึงความรู้สึกที่อบอุ่น อ่อนโยน ปราศจากการปรุงแต่งและไร้เดียงสา ตามช่วงวัยและจินตนาการ ซึ่งผู้วาดตั้งใจต้องการสื่อสารผ่านองค์ประกอบ 5 ภาพในภาพวาด ซึ่งงานศิลปะที่ดีไม่จำเป็นต้องมีคำพูด แต่ต้องสามารถสื่อสารและถ่ายทอดความรู้สึกอย่างเป็นธรรมชาติผ่านภาพวาดได้ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”  ​​​​​​​
กิจกรรมครั้งนี้ นักเรียนจะสามารถนำองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน และสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมทั้งเป็นแนวทางในการพัฒนาผลงานทางศิลปะให้มีชีวิตด้วยจิตวิญญาณสู่การสร้างสรรค์ด้านอื่นๆในชีวิตตามความถนัดและความสนใจต่อไป โดยโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น กำหนดจัดขึ้นทุกปีในห้วงเดือนกันยายน ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ที่ เว็บไซต์กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (www. https://dole.
go.th)  หรือ เว็บไซต์ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต (www.rscience.go.th)

กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับ มูลนิธิศิลปะและวัฒนธรรมโมกิจิ โอกาดะ และมูลนิธิเอ็มโอเอไทย ได้ดำเนินการโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นขึ้น อย่างต่อเนื่องมากว่า 18 ปี เพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยความหมายและแรงบันดาลใจ ในการเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำความเข้าใจต่อศิลปะวัฒนธรรม ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเด็กและเยาวชน อันเป็นการเสริมสร้างระบบการคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และการเสริมสร้างด้านจิตใจให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม มีสุนทรียภาพในจิตใจ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาเด็กและเยาวชนได้รับการพัฒนาสมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาให้มีการทำงานที่สมดุล โดยมอบหมายให้ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต เป็นเจ้าภาพดำเนินการ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ถ่ายทอดจินตนาการผ่านการประกวดวาดภาพตามความสนใจ หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ประทับใจ เช่น วิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีดาราศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ การท่องเที่ยว สังคมธรรมชาติ หรืออื่น ๆ ถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานศิลปะที่แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ อารมณ์ความรู้สึก ความสมบูรณ์ รูปแบบที่มีลักษณะเฉพาะตนและคุณค่าความงามทางศิลปะ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จตามลำดับ จากจำนวนความสนใจจากเด็กและเยาวชน ที่เดิมเป็นเฉพาะนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 (ภาครัฐและเอกชน) ที่มีอายุระหว่าง 6 - 12 ปี จากในสถาบันการศึกษา รวมถึงผู้ปกครองที่สนับสนุนให้นักเรียนร่วมส่งภาพวาดเข้าประกวดแข่งขันในระดับประเทศตามคุณสมบัติที่กำหนด ส่งผลให้การส่งเสริม สนับสนุนเด็กในการส่งภาพวาดเข้าร่วมประกวดในระดับประเทศเป็นจำนวนมาก และปรากฏว่าภาพวาดของเด็กไทยที่ส่งไป เข้าร่วมประกวดในระดับนานาชาติ ณ ประเทศญี่ปุ่นก็ได้รับรางวัลในทุกๆ ปี

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้มีการทบทวนและทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศด้านศิลปะและวัฒนธรรมขึ้นใหม่ ระหว่าง กรมส่งเสริมการเรียนรู้ มูลนิธิศิลปะและวัฒนธรรมโมกิจิ โอกาดะ และมูลนิธิเอ็มโอเอไทย ณ MOA International Association ประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาและวิชาการบูรณาการเพื่อพัฒนาชีวิต ศิลปะ วัฒนธรรมและสุขภาพของเด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยเกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์ ในการนี้กรมส่งเสริมการเรียนรู้ มูลนิธิศิลปะและวัฒนธรรมโมกิจิ โอกาดะ และมูลนิธิเอ็มโอเอไทย จึงได้เห็นชอบให้มีการดำเนินการร่วมมือกันจัดโครงการประกวดภาพวาดส่งเสริมวัฒนธรรมความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการสร้างโอกาส ความเสมอภาคลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างแรงบันดาลใจการเรียนรู้ให้แก่เด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษาในพื้นที่สูงและถิ่นทุรกันดาร ได้เห็นชอบร่วมกันในการปรับหลักเกณฑ์ตามประเภทของคุณสมบัติผู้ส่งภาพวาดเข้าประกวดแข่งขันเพิ่มขึ้นเป็นปีแรก เพื่อเปิดโอกาสให้กับนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 (อายุ 6 - 13 ปี) ของศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”(ศศช.) หรืออื่นๆ ในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ได้มีโอกาสในการเรียนรู้และมีเวทีสร้างสรรค์ความสามารถทางศิลปะในการประกวดครั้งที่ 19/2567 ตามหลักเกณฑ์คุณสมบัติผู้ส่งภาพวาดเข้าประกวดแข่งขันในระดับประเทศ แบ่งเป็น 2 ประเภท โดยทั้ง 2 ประเภท แบ่งการประกวดออกเป็น 6 ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 6 ประเภทที่ 1 เป็นนักเรียน ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 (ทั้งภาครัฐและเอกชน) ประเภทที่ 2 เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 (อายุ 6 - 13 ปี) ของศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”(ศศช.) หรืออื่นๆ ในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้

การประกวดภาพวาดในระดับนานาชาติ ในปี 2567 มีภาพวาดที่ส่งเข้าประกวด ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ประเทศญี่ปุ่น ทั้งสิ้น 132,000 ผลงาน โดยเป็นผลงานของเด็กนักเรียนทั้งในประเทศญี่ปุ่นและจากต่างประเทศ รวม 13 ประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นการจัดประกวดและจัดนิทรรศการภาพวาดระดับประถมศึกษาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น และเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ได้ประกาศผลการประกวดภาพวาดเด็กระดับนานาชาติ ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ประเทศญี่ปุ่น โดยผลการประกวดภาพวาดระดับนานาชาติ นักเรียนไทยได้รับรางวัล 2 รางวัล และได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมแสดงนิทรรศการภาพวาดเด็ก 2 ภาพ จากทั้ง 2 ประเภท ได้แก่ รางวัลโล่เงิน ด.ญ.นิชาภา พิชัยกาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนดอนบอสโกวิทยา จังหวัดอุดรธานี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) ชื่อภาพ “ลำปาวสุขอุดม” และรางวัลชมเชยพิเศษ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ด.ญ.บุญนุช อาญาศักดิ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านแม่ละมุ้งคี สกร.ระดับอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ชื่อภาพ “ วัฒนธรรมสองสายเลือด”

ภาพวาดได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมแสดงนิทรรศการภาพวาดเด็ก ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ด.ช.คุณธรรม ชัยจินดา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศิลปะ จังหวัดอุดรธานี ชื่อภาพ “จับ” และ ด.ญ.ชาลิสา เป่าสร้อย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านลำแดง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชื่อภาพ “ลุยโคลนจับปลา”

และนักเรียนที่ได้รับรางวัลดังกล่าวได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อรับโล่รางวัล ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA และทัศนศึกษา ณ ประเทศญี่ปุ่น 

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2568 ที่ผ่านมานายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ มอบหมายให้ นางสาวเอื้อมพร ศรีภูวงศ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ นายพงษ์สวัสดิ์ จ่างจิตต์ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต นางสาวสุนทรี เตินขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงาน สกร.ประจำจังหวัดตากและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการฯ สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ นำนักเรียนเข้ารับรางวัล และร่วมหารือแนวทางการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ตามโครงการดังกล่าวต่อไป

นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กล่าวว่า “ ขอขอบคุณ MOA International Association มูลนิธิศิลปะและวัฒนธรรมโมกิจิ โอกาดะ และมูลนิธิเอ็มโอเอไทย เป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนไทยได้มีเวทีแห่งการเรียนรู้ ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นของการสร้างโอกาสในการพัฒนาตนเองผ่านผลงานทางศิลปะโดยการถ่ายทอดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การได้เปิดโอกาสในการเรียนรู้และเปิดโลกทัศน์ ให้สำหรับเด็กและเยาวชนในพื้นที่สูงและถิ่นทุรกันดาร ในสังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ได้มีเวทีชีวิตได้มีโอกาสสร้างแรงบันดาลใจให้กับตนเองและผู้อื่น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับพวกเขา ตลอดจนเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเด็กๆกับครอบครัวและชุมชนได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน อันจะส่งผลให้พวกเขามีความสุขกับการมองโลกในแง่ดีและเรียนรู้การใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่เปลี่ยนแปลง และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพกายและจิตใจที่ดีในอนาคต นอกจากนี้การดำเนินโครงการประกวดดังกล่าวยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และวัฒนธรรมอันดีงามระหว่างประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่นได้อย่างดีเยี่ยม ”

อาจารย์มูโรเซ คาซูมิ ศิลปินแห่งชาติ สาขาการลงรัก และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิศิลปะวัฒนธรรม โมกิจิ โอกาดะ ได้กล่าวเปิดงานในพิธีมอบรางวัลงานนิทรรศการภาพวาดเด็ก ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ตอนหนึ่งว่า “ การจัดนิทรรศการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบ่มเพาะสุนทรียภาพและสร้างจิตใจที่สมบูรณ์ให้กับเด็กๆ โดยแสดงออกในสิ่งที่เด็กสนใจผ่านการวาดภาพและการคัดลายมือด้วยพู่กันจีนตาม "หลักสูตรการเรียนการสอน" ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สังคม และการมีส่วนร่วมกับผู้อื่น นอกจากนี้ยังเป็นกิจกรรมการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังในการคิดและการกระทำ เพื่อมุ่งสู่ความฝันและเป้าหมาย หรือที่เรียกว่า "พลังในการมีชีวิต" และในขณะเดียวกันยังเพิ่มความสนใจในประเพณีและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ งานนิทรรศการภาพวาดนี้ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงดูเด็กในสังคมโดยรวม โดยมีการร่วมมือกับบุคคลและองค์กรต่างๆ รวมถึงการจัดแสดงผลงานหมุนเวียนในสถาบันการแพทย์และสวัสดิการ และกิจกรรมส่งเสริมศิลปะตลอดทั้งปีที่เชื่อมโยงโรงเรียน บ้าน และชุมชน เราหวังว่าเรื่องนี้จะช่วยเสริมสร้างความผูกพันของชุมชน และสร้างชุมชนเข้มแข็งที่มีสุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจต่อไป ”

อาจารย์มูรากามิ ฮิซาโนริ หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินภาพวาด อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัย International Pacific" และ "อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่น" ได้กล่าววิพากษ์ผลงานภาพวาดในความประทับของคณะกรรมการคัดเลือก จำนวน 3 ภาพ โดยหนึ่งในนั้นมีผลงานของนักเรียนจากประเทศไทย คือ ภาพวาดรางวัลชมเชยพิเศษ ของ ด.ญ.บุญนุช อาญาศักดิ์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านแม่ละมุ้งคี ในหัวข้อ“ วัฒนธรรมสองสายเลือด” ว่า “ ถึงแม้ผมจะไม่ได้อ่านแนวคิดของผลงานภาพวาดของบุญนุช นักเรียนหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ของประเทศไทย แต่สังเกตได้ว่าทางด้านขวาของภาพวาดนั้นมีภูเขาฟูจิ หอเจดีย์ห้าชั้น และไม้ไผ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดและสะท้อนความเป็นตัวแทนของญี่ปุ่น ส่วนทางด้านซ้าย มีช้างและอาคารแบบไทยๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ บุคคลในภาพยังใส่ชุดกิโมโน และชุดพื้นเมืองประจำท้องถิ่นของไทย การนำเสนอภาพวาดนี้จึงบ่งบอกถึงความรู้สึกของผู้วาดที่ต้องการเป็นเพื่อนกับชาวญี่ปุ่น สะท้อนถึงความรู้สึกที่อบอุ่น อ่อนโยน ปราศจากการปรุงแต่งและไร้เดียงสา ตามช่วงวัยและจินตนาการ ซึ่งผู้วาดตั้งใจต้องการสื่อสารผ่านองค์ประกอบ 5 ภาพในภาพวาด ซึ่งงานศิลปะที่ดีไม่จำเป็นต้องมีคำพูด แต่ต้องสามารถสื่อสารและถ่ายทอดความรู้สึกอย่างเป็นธรรมชาติผ่านภาพวาดได้ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”  ​​​​​​​กิจกรรมครั้งนี้ นักเรียนจะสามารถนำองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน และสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมทั้งเป็นแนวทางในการพัฒนาผลงานทางศิลปะให้มีชีวิตด้วยจิตวิญญาณสู่การสร้างสรรค์ด้านอื่นๆในชีวิตตามความถนัดและความสนใจต่อไป โดยโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น กำหนดจัดขึ้นทุกปีในห้วงเดือนกันยายน ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ที่ เว็บไซต์กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (www. https://dole.go.th) หรือ เว็บไซต์ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต (www.rscience.go.th)