“แม็คกรุ๊ป” ท็อปฟอร์มต่อเนื่อง ไตรมาส 2 ปีบัญชี 2568 กำไรสุทธิ 305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 130% จากไตรมาสแรก และเพิ่มขึ้น 7.6% เทียบงวดเดียวกัน ปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 283 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังสูงที่ระดับ 65% อัตรากำไรสุทธิพุ่ง 22.5% ยอดช้อปผ่านออนไลน์คึกคัก ดันงวดครึ่งปีโกยรายได้ 2,178 ล้านบาท  บอร์ดอนุมัติปันผลงวดกลางปี 0.55 บาท

เมื่อวันที่ 14 ก.พ.68 นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ “แม็คยีนส์” เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปีบัญชี 2568(1ตุลาคม-31ธันวาคม 2567) ว่า กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 130% จากไตรมาสแรกปีบัญชี 2568  ที่มีกำไรสุทธิ 133 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 7.6% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 283 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่   22.5% เมื่อเทียบงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 21.5%  

ขณะที่งวด 6 เดือนแรก ปีบัญชี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1 % เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 412 ล้านบาท โดยอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น  19.6 % เมื่อเทียบงวดเดียวกันปี 18.6% ซึ่งอัตรากำไรสุทธิที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นผลจากยอดขายที่เติบโตและบริษัทมีการบริหารต้นทุนการขายและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ   

“MC ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ได้ดีต่อเนื่อง โดยงวดไตรมาส 2 มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 64.9% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 64% ขณะที่งวดครึ่งปีแรกปีบัญชี 2568 อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 65.1% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 64.8%“  นายเจมส์ ริชาร์ด กล่าว 

ทั้งนี้งวดไตรมาส 2 ของปีบัญชี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า 1,336 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  2.6% เป็นผลจากการเติบโตต่อเนื่องของรายได้จากช่องทางขายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น โดยในไตรมาสนี้ บริษัท มีรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทางร้านค้าออนไลน์ ทั้งสิ้น 212 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 83 ล้านบาทหรือ 63.9% ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปีบัญชี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,178 ล้านบาท ลดลง 0.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากกำลังซื้อในช่องทางออฟไลน์ที่ ลดลง แต่มีรายได้จากช่องทางออนไลน์เติบโตดีมาก โดยงวดครึ่งปี มีรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทางร้านค้าออนไลน์ 337ล้านบาทเพิ่มขึ้น 108 ล้านบาทหรือ 47.3%  

“ช่องทางขายผ่านร้านค้าออนไลน์(E-Commerce)ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น หลังแบรนด์แม็คยีนส์ติดอันดับหนึ่งแบรนด์ที่มียอดขายมากที่สุดใน TIKTOK โดย งวดครึ่งแรกของปีบัญชี 2568 สัดส่วนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16% จาก 10% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนช่องทางขายอื่นๆสัดส่วนลดลง โดยช่องทางออฟไลน์อันได้แก่ ช่องทางร้านค้าปลีกของตนเอง(Free-standing Shop) มีสัดส่วน 65% ลดลงจาก 68% มีรายได้ 1,426 ล้านบาท ,ห้างสรรพสินค้า (Department Store) 17% จาก 19% มีรายได้ 379 ล้านบาท และช่องทางอื่นๆคิดเป็น 1% จาก 3%“ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แม็คกรุ๊ปกล่าว  

นายเจมส์ริชาร์ด กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์หลัก ที่มุ่งเน้นคุมเข้มต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ที่ทำมาต่อเนื่องส่งผลให้ กำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องและ หนุนให้ผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ขึ้นไปอยู่ที่ 19.2% ณ สิ้นธันวาคม 2567 อย่างไรก็ตาม แม็คกรุ๊ป ยังคงสถานะการเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้เงินกับสถาบันการเงิน ขณะที่เงินสดในมือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ณ สิ้น ธันวาคม 2567 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด และเงินลงทุนชั่วคราว   1,896  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162 ล้านบาท จากสิ้นเดือนมิถุนายน 2567 ที่มีเงินสด 1,734 ล้านบาท

โดยผลดำเนินงานและฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสำหรับผลดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปีบัญชี 2568 ในอัตราหุ้นละ 0.55 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเกือบ 100% ของกำไรสุทธิ และสูงกว่านโยบายที่จะจ่ายไม่น้อยกว่า 40% อีกทั้งงวดครึ่งแรกปีนี้บริษัทจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่จ่ายหุ้นละ 0.50 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมายวันที่ 27 ก.พ.68 และจะจ่ายเงินในวันที่ 13 มี.ค.68