“สมศักดิ์” ชี้ อนาคต "เวลเนสไทย" สดใส เทรนด์เศรษฐกิจสุขภาพโลกกำลังมาแรง หนุนภาครัฐ-เอกชน จับมือผลักดันไทย สู่ Medical & Wellness Hub สร้างโอกาสในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เร่งเครื่องยกระดับนวดแผนไทย อัดทักษะด้านภาษาวัฒนธรรม เพิ่มรายได้อีกเท่าตัว ส่งออกตลาดต่างประเทศ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ
วันที่ 9 ก.พ.2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร Wellness Business and Beyond (WBB) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างมูลนิธิทุนแพทย์เพื่อปวงประชา สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ทำให้เห็นถึงโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของผู้นำด้านสุขภาพและธุรกิจเวลเนส ให้มีความรู้ความสามารถ สร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพของประเทศ ขณะนี้ อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพทั่วโลก มีมูลค่ารวมกว่า 6.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อุตสาหกรรมดูแลสุขภาพของประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 40,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายที่จะเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพ สู่ Medical และ Wellness Hub เพื่อส่งเสริมโอกาสในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ตามนโยบายของรัฐบาล
“เชื่อมั่นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลาง ด้าน Medical และ Wellness Hub ของโลก เนื่องจากเรามีความโดดเด่น หลายประการ เช่น มีโรงพยาบาลและคลินิกที่มีมาตรฐานระดับโลก มีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีค่ารักษาพยาบาลอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ นอกจากนี้ คนไทยยังมีจิตวิญญาณด้านการให้บริการที่ดี รวมถึงมีภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศอีกด้วย ซึ่งภาครัฐและเอกชนจึงต้องร่วมมือกัน ในการยกระดับมาตรฐานธุรกิจสุขภาพของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน”นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการแพทย์แผนไทย โดยเฉพาะนวดแผนไทย กำลังขับเคลื่อนยกระดับฝีมือของหมอนวดเพิ่มความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้าไป โดยเฉพาะใน 7 กลุ่มอาการ ประกอบด้วย 1.ปวดกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ หรือออฟฟิศซินโดรม 2.หัวไหล่ติด 3.นิ้วล็อก 4. กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทหรือปวดสลักเพชร 5.หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท 6.อัมพฤกษ์ อัมพาตและ7.กลุ่มระบบสืบพันธุ์ ให้มีการอบรมตามหลักสูตรเพื่อให้มีความชำนาญ ทั้งทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จากเดิมเป็นหลักสูตร 150 ชั่วโมง แต่หลักสูตรใหม่ 207 ชั่วโมง โดยชั่วโมงที่เพิ่มเข้ามาจะเป็นหมวดวิชาความรู้พื้นฐาน และเพิ่มเติมหมวดภาษาและวัฒนธรรมเดิมทีไม่มีหมวดนี้ หมอนวดแผนไทยเป็นที่ต้องการในต่างประเทศทั้งตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกา จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น เมื่อมีความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้น รายได้ของก็จะปรับเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว รายได้ของหมอนวดอาชีพและหมอนวดวิชาชีพ ธุรกิจสถานประกอบการ มูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพร มีเม็ดเข้าสู่รัฐหลักพันหลักหมื่นล้าน โดยในปีนี้จะมีการออกบูธที่ประเทศซาอุดิอาระเบียและโอซาก้าประเทศญี่ปุ่นด้วย