วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกลุ่มสว.เพื่อประชาชน ได้เรียกร้องให้ DSI เข้ามาร่วมเร่งรัดดำเนินการ สืบเนื่องจากการเลือก ส.ว. ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ภายหลังการเลือกมีการร้องเรียนและร้องคัดค้านว่าการเลือกไม่เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรมมีการฮั้วและบล็อกโหวตในการลงคะแนนรวมทั้งการร้องคัดค้านเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ว. เป็นจำนวนมาก
และต่อมาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 กกต.ก็ได้ประกาศรับรองรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกเป็น ส.ว. 200 คนและ ส.ว. สำรองจำนวน 100 คน โดยอ้างว่าการเลือก ส.ว. เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรมแล้ว ในขณะที่ในวันประกาศรับรอง(10 กรกฎาคม 2567) นายแสวง บุญมี เลขาฯกกต.ได้แถลงว่ายังมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรมอยู่อีก 47 เรื่องโดยอ้างว่าจะประกาศไปก่อนแล้วค่อยสอบสวนและสอยที่หลังซึ่งไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ ขัดต่อ(มาตรา 42 พรป ส.ว.61) และได้ขอความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติกรมสอบสวนคดีพิเศษและ ปปง. มาร่วมสืบสวน
โดยอ้างว่าต้องมีการสืบสวนข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ และทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวก็ได้ตอบสนอง โดยส่งรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่จะไปร่วมปฏิบัติงานให้ทาง กกต.โดยทันที แต่ปรากฏว่า กกต.มิได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวดำเนินการสืบสวนหรือแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ของ กกต.แต่อย่างใดและได้ทำการสืบสวนสอบสวนโดยลำพังเรื่อยมาอย่างเชื่องช้า
บัดนี้เวลาได้ล่วงเลยมาถึง 210 วันนับจากการเลือก ส.ว. เมื่อ 26 มิถุนายน 2567 ซึ่งจะเหลือเวลาไม่ถึง 90 วันก่อนที่ครบกำหนด (ตามระเบียบการสืบสวนสอบสวนของ กกต.มีระยะเวลาในการดำเนินทุกขั้นตอนประมาณ 300 วัน) มีการร้องคัดค้านในการเลือก ส.ว. จำนวนทั้งสิ้น 500 กว่าเรื่องโดยที่ผู้ร้องเกือบทุกรายได้มีการติดตามทวงถามมาโดยตลอดพร้อมทั้งนำข้อมูลพยานหลักฐานมอบให้ กกต.อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนแต่ต่อมาก็ได้รับแจ้งจาก กกต.ว่ายกคำร้อง/ยุติเรื่อง จำนวนถึง 200 เรื่อง โดยไม่ได้ให้เหตุผลใดๆเพิ่มเติมว่ายกคำร้องเพราะเหตุใด จึงทำให้ผู้ร้องคลางแคลงใจและไม่มั่นใจต่อการดำเนินงานของ กกต.เป็นอย่างมาก ประกอบกับยังมีคำร้องที่อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่อีกมากกว่า 300 เรื่องและใช้เวลาดำเนินการมาแล้ว 210 วัน เหลือเพียง 90 วัน จึงไม่มั่นใจในการคาดหวังได้ว่า กกต. จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเสร็จสมบูรณ์และสามารถผดุงไว้ซึ่งความสุจริตเที่ยงธรรมได้
ความล่าช้าในการดำเนินการของ กกต.ที่ผ่านมาไม่ได้มีผลกระทบต่อการตรวจสอบในความสุจริตและเที่ยงธรรมของการเลือก ส.ว. ที่ผ่านมาเท่านั้นแต่ยังทำให้ ส.ว. ที่ได้รับเลือกไปแล้วและกำลังปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางข้อกังขาของสังคมทั่วไป ว่ามีการฮั้วและโกงดำเนินการผ่านการเลือกมาโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรมต่างๆและสังคมสื่อมวลชนให้ฉายาต่างๆนานา โดยชี้ชัดเจนว่าอยู่ภายใต้อาณัติของกลุ่มการเมืองซึ่งส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของส.ว. อย่างชัดแจ้ง ดังที่ประจักษ์ต่อสังคมที่ผ่านมาทั้งแนวทางในการลงคะแนนในการเลือกและการลงมติต่างๆ โดยเฉพาะที่ส่งผลต่อการลงมติรับรองต่อการเลือกองค์กรอิสระที่จะไม่บรรลุเจตนารมณ์ในการเลือกองค์กรอิสระอย่างอิสระที่แท้จริง แต่จะตกอยู่ภายใต้การครอบงำของเครือข่ายและกลุ่มการเมืองที่เกี่ยวข้องเป็นอันตรายต่อระบบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง
ดังนั้นกลุ่ม ส.ว. เพื่อประชาชน ซึ่งประกอบด้วย ส.ว.สำรองและผู้ที่สมัคร ส.ว. อื่นๆอีกหลายราย ซึ่งได้เข้าร่วมการเลือก ส.ว.ครั้งนี้ได้พบและเห็นข้อมูลการทุจริตการเลือก ส.ว.ครั้งนี้อย่างชัดแจ้ง จึงได้รวมตัวกันเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีผู้สมัคร ส.ว. ได้ไปร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีในการฮั้วและโกงการเลือก ส.ว. ครั้งนี้ไว้แล้ว ได้เข้ามาดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีอย่างจริงจัง เนื่องจากกลุ่มขบวนการมีการวางแผนที่สลับซับซ้อน กระทำการมิได้เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลจำนวนมาก จำเป็นต้องใช้วิธีการรวบรวมหลักฐานเป็นพิเศษ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความพร้อมด้านบุคลากร และเครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีที่จะใช้ในการรวบรวมพยานหลักฐาน
ทั้งนี้ขอเรียกร้องและกระตุ้นเตือนให้ กกต.รีบเร่งดำเนินการให้สำเร็จภายในกรอบระยะเวลาที่เหลือ เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสุจริตและเที่ยงธรรมและไม่ขัดต่อกฎหมายดังเช่นคำขวัญในการปฏิบัติของกกต. เพื่อสร้างและรักษาไว้ซึ่งความเชื่อถือเชื่อมั่นและศรัทธาต่อกกต. และสังคมต่อไป