"พิพัฒน์"’ มอบ "ปลัดบุญสงค์" เร่งติดตามสิทธิประโยชน์กรณีผู้ฝึกงานเสียชีวิตในญี่ปุ่น สั่งทูตแรงงานประสานสถานกงสุลนำอัฐิกลับไทย
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.68 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีผู้ฝึกปฏิบัติงานด้านเทคนิคเสียชีวิตในประเทศญี่ปุ่นว่า ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตในครั้งนี้ ในส่วนของการติดตามความช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์เพื่อให้แก่ทายาทพึงได้รับตามกฎหมายนั้น ผมได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงแรงงานติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ และประสานดำเนินการตามความประสงค์ของครอบครัวในการส่งอัฐิกลับประเทศไทย
โดยกรณีดังกล่าวผมได้รับรายงานจากอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่นตรวจสอบ พบว่า แรงงานไทยที่เสียชีวิตชื่อ นายกรณพัฒน์ พรมฮุ่ง เป็นผู้ฝึกปฏิบัติงานด้านเทคนิคญี่ปุ่นที่หายตัวไป ซึ่งญาติได้ร้องเรียนผ่านสื่อ ในส่วนของกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่นได้ติดตาม พบว่า นายกรณพัฒน์ มีภูมิลำเนาเป็นชาวจังหวัดเลย เดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทจัดหางาน ไทยอัศวเลิศ จำกัด และมีองค์กร cooperative society Hiroshima sokeizai center เป็นองค์กรกำกับดูแล จากนั้นเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2567 นายกรณพัฒน์ และเพื่อนรวม 9 คน ได้เดินทางไปสังสรรค์ที่ร้านอาหารในเมือง Hiroshima โดยในช่วงเวลาประมาณ 05.00 ของวันที่ 22 ธันวาคม 2567 ขณะกำลังเตรียมกลับที่พักได้พบว่า นายกรณพัฒน์ ได้หายตัวไป
ทั้งนี้ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 สำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่น ได้ติดตามสอบถามความคืบหน้าเป็นการภายในไปยังสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ โดยวันที่ 6 มกราคม 2568 สถานกงสุลใหญ่ ได้สอบถามไปยังสถานีตำรวจ Yamagata ซึ่งทางองค์กรกำกับดูแลฯ ได้แจ้งความไว้ทราบว่า ยังไม่พบตัวนายกรณพัฒน์ โดยหนังสือเดินทางและสมุดบัญชีต่างๆ ยังคงอยู่ที่ห้องพัก นอกจากนี้ นายจ้างได้โอนเงินเดือนเข้าบัญชีนายกรณพัฒน์ ช่วงก่อนสิ้นเดือนธันวาคม 2567 แต่ไม่พบการเคลื่อนไหวของบัญชี สำหรับข้าวของและสัมภาระของนายกรณพัฒน์ นายจ้างยังคงเก็บไว้ที่บ้านพักเช่นเดิม ต่อมาเช้าวันที่ 7 มกราคม 2568 บริษัท ไทยอัศวเลิศ ได้ขอทราบแนวทางติดตามนายกรณพัฒน์ ซึ่งสำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่นได้แจ้งข้อมูลความคืบหน้าให้บริษัททราบในเบื้องต้น จนกระทั่งวันที่ 23 มกราคม 2568 สำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่น ได้รับการประสานแจ้งจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ ว่าได้รับแจ้งจากองค์กรกำกับดูแล พบว่า นายกรณพัฒน์ เสียชีวิตแล้ว โดยพบร่างเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 บริเวณบันไดหนีไฟ ระหว่างชั้น 2 และ ชั้น 3 ของอาคารร้านอาหาร ซึ่งองค์กรกำกับดูแล ได้แจ้งให้ญาติที่ประเทศไทยทราบเรื่องการเสียชีวิตแล้ว
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้รับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่น ติดตามการช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์และประสานสถานกงสุลในการนำอัฐิกลับมาประเทศไทยตามความประสงค์ของญาติ ในส่วนของสิทธิประโยชน์นั้น สำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่นได้ประสานกับองค์กรกำกับดูแลฯ เพื่อติดตามสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับทางฝ่ายญี่ปุ่น กรณีนายกรณพัฒน์เสียชีวิต พบว่า นายกรณพัฒน์ เป็นผู้ประกันตนระบบประกันสังคมญี่ปุ่น ประกอบด้วย 1) ประกันสุขภาพ กรณีผู้ประกันตนเสียชีวิต ทายาทจะได้รับเงินค่าทำศพ จำนวน 50,000 เยน หรือประมาณ 11,000 บาท โดยบริษัทจัดหางานฯ และสหกรณ์บริษัทตกลงที่จะดำเนินการและช่วยเหลือออกค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการฌาปนกิจและการส่งอัฐิให้
2) ประกันเงินบำนาญ ทายาทผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินบำนาญตกทอด โดยมีเงื่อนไขในการเป็นผู้ประกันตนเป็นระยะเวลา 25 ปีขึ้นไป กรณีผู้เสียชีวิตไม่มีภรรยาและบุตร บิดาหรือมารดาจะเป็นผู้มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ โดยมีเงื่อนไขว่าบิดาหรือมารดาต้องมีอายุ 55 ปี ในกรณีนายกรณพัฒน์ ทายาทจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จากประกันเงินบำนาญดังกล่าว เนื่องจากเป็นผู้ประกันตนไม่ครบตามระยะเวลาที่กำหนด
3) สิทธิประโยชน์จากประกันภัยของบริษัทเอกชน ทั้งนี้ จะได้รับเงินชดเชยหรือไม่ เป็นจำนวนเงินเท่าใด ต้องรอผลการชันสูตรประกอบการพิจารณาของบริษัทประกัน
4) เงินคงเหลือในบัญชีธนาคารญี่ปุ่น จำนวน 176,868 เยน หรือประมาณ 38,910 บาท ซึ่งรวมกับค่าจ้างงวดสุดท้ายของเดือนธันวาคม 2567 ที่นายจ้างได้โอนให้แล้ว เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 จำนวน 175,940 เยน
5) สิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนงานไปทำงานในต่างประเทศ กรมการจัดหางาน กรณีสมาชิกกองทุนฯเสียชีวิตในต่างประเทศ จะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นเงินสงเคราะห์แบบเหมาจ่าย จำนวน 40,000 บาท
โดยในส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับร่างผู้เสียชีวิตนั้น ล่าสุดเมื่อวานนี้ (29 ม.ค.68) เวลาประมาณ 16.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น ได้รับแจ้งผลการชันสูตรจากสถานีตำรวจฮิโรชิมาจูโอว่า ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้ เนื่องจากสภาพศพที่ไม่สมบูรณ์ แต่ไม่น่าจะเกิดจากการถูกทำร้ายจนเสียชีวิต เนื่องจากไม่พบร่องรอยการถูกแทง ถูกทุบตี หรือรอยฟกช้ำ เลือดตกในร่างกาย และจากการทำ CT Scan ไม่พบร่องรอยกระดูกหักหรือแตกแต่อย่างใด หลังจากนี้ ตำรวจจะมอบเอกสารรายงานผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการให้แก่องค์กรดูแลนายกรณพัฒน์ฯ ตามแนวปฏิบัติ เพื่อองค์กรนำไปใช้ในการแจ้งการเสียชีวิตกับหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ ทั้งนี้ สำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่น จะประสานกับสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ เพื่อดำเนินการมอบอำนาจในการยื่นเรื่องขอออกใบมรณะบัตรต่อไป
#กระทรวงแรงงาน #ข่าววันนี้ #สิทธิประโยชน์ #ญี่ปุ่น #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์