เมื่อวันที่ 29 ม.ค.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปผ่านเพจเฟซบุ๊กระบุว่าข้อความว่า "งงจริงหรือแกล้งงง โง่จริงหรือแกล้งโง่" โค้งสุดท้ายการหาเสียงนายก อบจ.ในหลายจังหวัด นายทักษิณ ชินวัตรในฐานะผู้ช่วยหาเสียงนายกอบจ.ของพรรคเพื่อไทย ได้จัดโปรแกรม"ทักษิณออนทัวร์" ลงพื้นที่หาเสียงนายกอบจ. โค้งสุดท้ายวันที่ 29 ม.ค.ขึ้นเวที จ. เชียงราย วันที่ 30 ม.ค ขึ้นเวทีปราศรัย จ.ลำพูน และ จ.เชียงใหม่ เป็นการลงพื้นที่หาเสียงครั้งที่2ทั้งจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ อาจจะเป็นเพราะผลการสำรวจของนิด้าโพล ระบุว่า 2จังหวัดนี้คะแนนสูสีกันมาก และอาจจะทำให้พ่ายแพ้แก่คู่แข่งได้ ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงต่อเครดิตทางการเมืองของนายทักษิณ จึงจำเป็นต้องลงพื้นที่ซ้ำอีกครั้งในช่วงสุดท้าย หวังกู้คะแนนนิยมกลับมาให้ได้รับชัยชนะให้จงได้
เมื่อมีผู้สื่อข่าวถาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าทำไมนายทักษิณ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ในช่วงโค้งสุดท้ายปราศรัยค่อนข้างดุเดือด นางสาวแพทองธารตอบว่า “ตัวจริงนายทักษิณใจดี แต่เวลาหาเสียงดุเดือดทุกที งงเหมือนกัน”
ผมไม่ทราบว่า นางสาวแพทองธาร งงจริงหรืองงปลอม แกล้งโง่หรือโงจริง ถ้างงจริงหรือโง่จริง ก็จะอธิบายให้ตาสว่างเลยว่า การลงพื้นที่หาเสียงของนายทักษิณในหลายจังหวัด ไม่ว่าจะมีเป้าหมายช่วยเหลือผู้สมัครนายกอบจ.ในนามพรรคเพื่อไทยก็ตาม แต่เป้าหมายหลักของนายทักษิณ มีมากกว่าการเมืองระดับท้องถิ่น นั่นก็คือ
1.นายทักษิณต้องการหาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทยในการเมืองระดับชาติ มีการโฆษณาแผนงานโครงการของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับทราบ เพราะนายทักษิณรู้ดีว่าการพูดบนเวทีหาเสียงนายกอบจ. จังหวัดใดก็ตาม แต่คำปราศรัยของนายทักษิณอยู่ในพื้นที่ข่าวของสื่อมวลชนซึ่งแพร่กระจายไปทั่วทั้งประเทศหวังให้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยกลับคืนมาให้ได้
2.นายทักษิณกำลังสร้างบทบาทตัวเอง ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน และหัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์นิยมให้เห็นศักยภาพการเป็นผู้นำทางการเมือง เพื่อแข่งขันกับฝ่ายพรรคประชาชน ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมไม่ต้องการให้ชนะเลือกตั้ง และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นายทักษิณจึงแสดงตัวให้เห็นว่า มีแต่ตัวเองเท่านั้น ที่สามารถเอาชนะพรรคประชาชนได้ จึงทำให้นายทักษิณทำทุกวิถีทาง จึงเห็นการปราศรัยบนเวทีหาเสียงนายกอบจ.ศรีสะเกษ มีคำปราศรัยตอนหนึ่ง ที่นายทักษิณพูดถึงการเจรจากับพระเจ้า ขอกลับมาทำงานรับใช้ประชาชนอีก17ปี เท่ากับจำนวน17ปี ที่หนีคดีไป
3.นายทักษิณบอกว่า ตอนนี้อายุ 75 ปี รวมอีก 17 ปี จะมีอายุ 92 ปี เหมือนกับ ดร.มหาธีร์ ที่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซียครั้งที่ 2ตอนอายุ 92 ปี ซึ่งนายทักษิณต้องการส่งสัญญาณ บอกนัยยะทางการเมืองว่า ตัวเองจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับ ดร.มหาธีร์ นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย
การพูดในลักษณะเช่นนี้ทำให้ประชาชนสงสัยว่า สิ่งที่นายทักษิณบอกว่า ได้ตกลงกับพระเจ้าแล้วนั้น ความหมายคืออะไร หมายถึงพระเจ้าองค์ไหน หรือพระเจ้าอยู่ที่ใด ซึ่งนายทักษิณพยายามพูดคลุมเครือ กำกวม เป็นประเด็นให้ประชาชนเข้าใจผิด ตีความไปต่างๆนานา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อส่วนรวม
จึงอยากจะให้นายทักษิณได้พูดออกมาให้ชัดเจนว่า คำว่าพระเจ้าในความหมายของนายทักษิณคืออะไร อย่าพูดแบบสร้างความสับสนให้กับประชาชน หรือให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า นายทักษิณเป็นคนมีเส้น เป็นคนของพระเจ้า
ขอบคุณ เพจเฟซบุ๊ก เทพไท - คุยการเมือง