แพทย์ห่วงภาวะมะเร็งต่อมลูกหมากพุ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของมะเร็งในผู้ชายไทย อันดับ 1 และเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งในผู้ชายจากทั่วโลก แนะสังเกตสัญญาณเสี่ยง อาทิ ปัสสาวะผิดปกติหรือมีเลือดปน ปวดรุนแรงตามบั้นเอวอุ้งเชิงกราน หรือต้นขา เตือนโรคนี้อาจถ่ายทอดทางพันธุกรรม ผู้ชายอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองเป็นประจำ เพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม ปัจจุบันมีพัฒนาการของยาต้านฮอร์โมนรุ่นใหม่ (Novel Hormonal Therapy; NHT) ในมะเร็งระยะลุกลาม และวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง ผลข้างเคียงน้อย ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ป่วย
จากสถานการณ์ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเสียชีวิตจากโรคนี้เพิ่มสูงขึ้น ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ปี 2565 ชี้ให้เห็นว่ามะเร็งต่อมลูกหมากในไทยพบมากเป็นอันดับ 4 ของมะเร็งที่พบทั้งหมดในเพศชาย (รองจาก มะเร็งตับ มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก) โดยแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 3,829 ราย และมีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 7,830 ราย (1) ในขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมาก 397,430 ราย และมีผู้ป่วยรายใหม่ 1,467,854 ราย พบมากเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งที่พบทั้งหมดในเพศชาย (รองจากมะเร็งปอด) (2)
วันที่ 24 ม.ค.2568 เวลา 13.30 น. ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด
มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและสร้างการตระหนักรู้เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดี จึงได้จัดงานเสวนาหัวข้อ รอบรู้เรื่องมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาให้ความรู้ ได้แก่ ผศ.นพ.ปองวุฒิ ด่านชัยวิจิตร อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาลศิริราช และ ศ.นพ.กิตติณัฐ กิจวิกัย ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลรามาธิบดี มาแลกเปลี่ยนความรู้ ทั้งบทบาทของต่อมลูกหมาก สัญญาณเตือน การตรวจคัดกรอง การรักษา และนวัตกรรมยาต้านฮอร์โมนที่ช่วยยืดอายุผู้ป่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดย พญ. ปานียา สูตะบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ
โดยผศ.นพ.ปองวุฒิ กล่าวว่า “ต่อมลูกหมาก” เป็นอวัยวะของเพศชายมีรูปร่างคล้ายเกาลัด ขนาดเล็ก อยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะและด้านหน้าทวารหนัก ทำหน้าที่สร้างของเหลวที่เป็นส่วนประกอบของน้ำอสุจิ ฮอร์โมนเพศชายเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญของต่อมลูกหมาก แต่หากเซลล์ในต่อมลูกหมากความผิดปกติและแบ่งตัวไม่หยุดยั้ง จะกลายเป็นก้อนมะเร็งในที่สุด ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก คือ อายุที่มากขึ้น พันธุกรรม หากมีญาติสายตรง (พ่อ ปู่ พี่ชาย หรือน้องชายที่มีพ่อแม่เดียวกัน) เป็นโรคนี้ ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น ส่วนสาเหตุอื่น ๆ ได้แก่ เชื้อชาติ ชาวยุโรปและสหรัฐฯ มีอุบัติการณ์มากกว่าคนเอเชีย อีกทั้งภาวะโรคอ้วน พฤติกรรมการใช้ชีวิต และฮอร์โมนเพศชายสูงผิดปกติ เช่น การใช้ฮอร์โมนเสริมโดยไม่จำเป็น
ผศ.นพ.ปองวุฒิ กล่าวว่า มะเร็งต่อมลูกหมาก แบ่งเป็น 4 ระยะ ระยะแรกมะเร็งจะอยู่ภายในต่อมลูกหมาก ขนาดเล็กมาก มักไม่แสดงอาการ ระยะที่ 2 เซลล์มะเร็งมีการเติบโตมากขึ้น แต่ยังจำกัดในต่อมลูกหมาก ระยะที่ 3 เซลล์มะเร็งกระจายออกไปถึงชั้นนอกของต่อมลูกหมาก และระยะที่ 4 เซลล์มะเร็งกระจายเข้าสู่ระบบเลือด ระบบน้ำเหลือง ไปยังอวัยวะอื่น ๆ เช่น กระดูก โดยผู้ป่วยบางรายอาจตรวจพบในระยะที่มะเร็งแพร่กระจายแล้ว จึงทำให้การรักษายากขึ้น
ผศ.นพ.ปองวุฒิ กล่าวอีกว่า “ฮอร์โมนเพศชาย” เป็นตัวกระตุ้นหลักให้มะเร็งต่อมลูกหมากเติบโต สำหรับมะเร็งระยะลุกลามหรือแพร่กระจาย จำเป็นต้องใช้ “การกดฮอร์โมนเพศชาย” หรือ “ADT (Androgen Deprivation Therapy)” เพื่อยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็งลุกลามไปอวัยวะอื่น ๆ ปัจจุบันมี “ยาต้านฮอร์โมนรุ่นใหม่” (Novel Hormonal Therapy; NHT) แบบรับประทานที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม โดยใช้ร่วมกับการกดฮอร์โมนเพศชาย สามารถออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนเพศชายได้หลายกลไก จึงช่วยชะลอการลุกลามของโรคได้อย่างมีนัยสำคัญ มีประสิทธิภาพสูง และผลข้างเคียงต่ำ เมื่อเทียบกับวิธีการรักษาอื่น ๆ ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสมีชีวิตยืนยาวขึ้นพร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ดี
ด้าน ศ.นพ.กิตติณัฐ กล่าวว่า ขอแนะนำให้ผู้ชายสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณเตือนมะเร็งต่อมลูกหมาก ประกอบด้วย 1. การปัสสาวะที่ผิดปกติ ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะลำบาก 2. อาการปวดรุนแรง บริเวณบั้นเอว อุ้งเชิงกราน ต้นขาอยู่ตลอดเวลา 3. อาการอื่นที่เกิดขึ้นได้ในระยะแพร่กระจาย ได้แก่ อ่อนเพลีย ปวดตามร่างกาย ชา หรืออ่อนแรง กระดูกเสื่อม น้ำหนักลด เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น อย่างไรก็ตามผู้ป่วยบางรายอาจไม่แสดงอาการ ผู้ป่วยอาจคิดไม่ถึงว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก เพราะอาการใกล้เคียงกับภาวะต่อมลูกหมากโตในผู้สูงวัย หรือกระเพาะปัสสาวะมีปัญหาหรือภาวะเป็นนิ่ว ดังนั้น เพื่อให้ชัดเจนควรตรวจคัดกรองเบื้องต้น 2 วิธีควบคู่กัน ได้แก่ 1. การซักประวัติ ตรวจร่างกายโดยการให้แพทย์คลำต่อมลูกหมากผ่านทางทวารหนัก และ 2. การตรวจเลือดหา ค่า PSA (Prostatic Specific Antigen) หรือสารคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากในเลือด ซึ่งโดยทั่วไป ค่า PSA ควรน้อยกว่า 4 ng/mL และหากค่า PSA มากกว่า 10 ng/mL จะยิ่งเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ดังนั้นแพทย์จะแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม เช่น การทำ MRI หรือการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจเพื่อทำการวินิจฉัย
ศ.นพ.กิตติณัฐ กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยระยะแรกจะมีก้อนขนาดเล็กในต่อมลูกหมาก และมักไม่แสดงอาการที่ชัดเจน เมื่อเข้าสู่ระยะที่รุนแรงขึ้นก้อนมะเร็งจะมีขนาดใหญ่ขึ้น แพร่กระจายตามระบบเลือดและน้ำเหลือง ส่วนใหญ่มะเร็งต่อมลูกหมากจะแพร่กระจายไปยังกระดูก หากตรวจพบเร็วมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ แต่หากเจอในระยะที่มะเร็งกระจายนอกต่อมลูกหมากแล้วการรักษาจะมีความซับซ้อนมากขึ้น และอาจต้องให้การรักษาเป็นสหสาขาวิชาชีพ (multidisciplinary team) เพื่อประคับประคองให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้นานที่สุดอย่างมีคุณภาพ
สำหรับแนวทางการรักษาขึ้นกับระยะของโรคและความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย โดยระยะแรกที่มะเร็งยังไม่ลุกลามจะเน้นรักษาเฉพาะที่ และการเฝ้าระวังเชิงรุก ติดตามการเจริญเติบโตของมะเร็งอย่างใกล้ชิด โดยการรักษาเฉพาะที่ทำได้ทั้งการฉายรังสีและการผ่าตัดต่อมลูกหมากซึ่งปัจจุบันสามารถผ่าตัดผ่านกล้องและการผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์ช่วย แต่ถ้าโรคเริ่มลุกลามและแพร่กระจายการใช้ยาจะมีบทบาทมากขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง และอาจทำการรักษาหลายวิธีร่วมกัน
"สำหรับผู้ป่วยระยะแรกที่ได้รับการผ่าตัดแพทย์จะติดตามตรวจค่า PSA หากอยู่ในมาตรฐานแสดงว่าการผ่าตัดมีประสิทธิภาพหายจากโรคมะเร็ง แต่ถ้าค่า PSA ยังสูงต้องใช้วิธีการฉายรังสี เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น กระดูก และให้ยาเข้ามาเสริมผสมผสานกับการผ่าตัดด้วย" ศ.นพ.กิตติณัฐ กล่าว
"มีผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากที่ไม่พบปัจจัยเสี่ยงหรือยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ดังนั้นผู้ชายควรเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี โดยเริ่มคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไปโดยไม่ต้องรอให้มีอาการ แต่หากมีประวัติครอบครัวสายตรงป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ก็ควรคัดกรองแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่อายุ 40-45 ปี"ศ.นพ.กิตติณัฐ กล่าว
ด้าน ผศ.พญ. ปานียา กล่าวว่า สำหรับไบเออร์ ในฐานะหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านเภสัชกรรมระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก สนับสนุนการรณรงค์สร้างการตระหนักรู้เพื่อให้ผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากเป็นประจำ เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทันท่วงที เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขมากที่สุด
"มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นภัยเงียบที่ผู้ชายควรใส่ใจ รู้เร็ว รักษาไว ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและเพิ่มคุณภาพชีวิตได้อย่างชัดเจน แม้จะมีผลข้างเคียงจากการรักษา แต่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมยาต้านฮอร์โมนรุ่นใหม่ (NHT) ทำให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละราย"ผศ.พญ.ปานียา กล่าว