หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 8 ม.ค.68 ทรงพระเจริญ …*…
เนื่องในวโรกาส คล้ายวันประสูติ ของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้า นสพ.สยามรัฐ ขอน้อมเกล้าฯถวายพระพรชัยมงคล ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม …*…
“บารอน” พาตัวเองหนีหายไปจากพื้นที่ตรงนี้ ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ ขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวหลายจังหวัดภาคเหนือ ปลายทางที่จังหวัดเชียงใหม่ ฉลองส่งท้ายปีเก่า และ กลับกรุงเทพฯมาต้อนรับปีใหม่ ยังไม่สายไปที่จะกล่าว สวัสดีปีใหม่ ต้อนรับปีมะเส็ง กับผู้อ่านสยามรัฐทุกท่าน ได้อ่านข่าว รู้ลึก รู้จริง ก่อนใคร ...*...
เป็นของขวัญปีใหม่ มอบให้ คนไทยทั้งประเทศ เมื่อ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ไปเชียงรายหาเสียง ให้ นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย ขายนโยบายลดค่าไฟฟ้า ให้ต่ำกว่า 4 บาท ใจจริงอยากให้เหลือ 3.50 บาท แต่ คงได้ 3.70 บาท ที่นี่ บารอน ยกธงเชียร์เต็มที่ครับ ค่าไฟถูกลงยูนิตละตั้ง 45 สตางค์ ทำให้ ครัวเรือนชนชั้นกลางลงล่าง ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ประหยัดค่าไฟเดือนละหลักสิบหลักร้อย เอาไปจับจ่ายใช้สอย หมุนเวียนในตลาด กระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่าแจกเงินหมื่นเป็นไหนๆ ...*...
ระหว่างรอคอย นโยบายลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาท ของ ทักษิณ ชินวัตร บรรทัดนี้ บารอน ชื่นชม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ ถูกนายทุนพลังงานตัดขาด งดให้การสนับสนุน เพราะมีนโยบายลดต้นทุนพลังงาน ตั้งแต่ ตรึงราคาค่าไฟฟ้า ปีที่ผ่านมา ตรึงราคาไว้ที่ 4.18 บาท ปีใหม่นี้ ยังลดลงอีก 3 สตางค์ ตึงราคาไว้ที่ 4.15 บาท จนถึงเดือนเมษายนนี้ ...*...
ที่ต้องเฝ้าติดตาม ผลงานโบว์แดง ของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค คือ ร่างกฎหมายกำกับกิจการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง และ กฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ ร่างเสร็จแล้ว และ กำลังแก้ไขต้นร่างให้สมบูรณ์ ก่อนที่จะ เสนอเข้าสภาฯพิจารณา ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ และ เสนอในนามรัฐบาลด้วย เพราะ ได้รับการสนับสนุน จาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แล้วเสร็จเมื่อไหร่ ใช่แต่ค่าไฟฟ้าจะถูกลงอีก เท่านั้น ค่าน้ำมันจะถูกลงอีกลิตรละ 2.50 บาท ถึง 4 บาท ...*...
ยังเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง ต่อเนื่องมาถึงปีใหม่ การไต่สวน 12 ผู้ถูกกล่าวหา จาก ป.ป.ช. ว่า การส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร ออกนอกเรือนจำ ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เป็นเวลา 181 วัน เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ คอการเมือง กำลังลุ้นกัน ว่า ผลการสอบสวนของ ป.ป.ช. จะออกมาอย่างไร? ...*...
ประสา บารอน เห็นด้วยว่า 12 ผู้ถูกกล่าวหา ได้เอื้อประโยชน์ให้ นายทักษิณ ชินวัตร จริงๆ และ หากผลสอบว่าเป็นการป่วยทิพย์ หรือ ไม่ได้ป่วยสาหัสสากรรจ์ ถึงขนาด ต้องนอนรักษานาน 181 วัน ที่ ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ ก็คือ เจ้าหน้าที่รัฐจากกรมราชทัณฑ์ และ เจ้าหน้าที่รัฐโรงพยาบาลตำรวจ ที่ถูกกล่าวหาทั้ง 12 ราย และเผลอๆ อาจรวมไปถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรียุติธรรม ที่ให้ความเห็นชอบ ส่วน นายทักษิณ ชินวัตร เป็นเพียงแค่ ผู้ได้รับประโยชน์ จาก การทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ เท่านั้น หากจะมีความผิดอยู่บ้าง ก็แค่ ผู้ให้การสนับสนุน ...*...
ส่วนข้อสังเกตของ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ที่เตรียมจะร้องว่า การออกนอกเรือนจำ ต้อง เป็นคำสั่งศาลเท่านั้น ไม่ใช่ใช้ระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ที่นี่ บารอน อยากให้ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ไปทบทวนอ่านกฎหมายให้ละเอียดอีกนิด เผื่อจะมองเห็นเหมือน บารอน ที่เห็นว่า ผู้ต้องขังตามหมายศาล แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ หนึ่ง ผู้ต้องขังตามคำสั่ง ที่ อยู่ในระหว่างพิจารณาคดี อันนี้ ถือว่าเป็นผู้ต้องขังอยู่ในความควบคุมของศาล แต่เพราะศาลไม่มีที่คุมขัง จึงฝากไว้ให้ราชทัณฑ์นำไปควบคุมไว้ในเรือนจำ เมื่อ จะออกนอกเรือนจำ จึงต้องเป็นคำสั่งศาลเท่านั้น ...*...
และ สอง เป็นผู้ต้องขังในคดีที่ถือว่าที่สุดแล้ว ให้เรือนจำนำตัวไปดำเนินการตามคำพิพากษา เท่ากับ ส่งจำเลยให้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์ ที่ มีอำนาจพิจารณาลดชั้นนักโทษได้เอง และเมื่อ กระทรวงยุติธรรม ออกกฎกระทรวงใดๆออกมา เช่น ย้ายนักโทษเด็ดขาดออกนอกเรือนจำได้ กรมราชทัณฑ์สามารถทำได้ หาก ออกนอกเรือนจำเกิน 120 วัน ก็ต้อง แจ้งให้รัฐมนตรียุติธรรมให้ความเห็นชอบ ...*...
ใกล้เป็น ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ทุกที ของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 20 นี้ โลกใบนี้ก็สับสนกับนโยบายการเมืองของทรัมป์ ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไล่ตั้งแต่ นโยบายต่อต้านสินค้าจีน แต่ ทรัมป์ยังส่งหนังสือเชิญ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ให้มาร่วมงานในพิธีสาบานตน แต่ถูก นายสี จิ้น ผิง ตอบปฏิเสธ ...*...
ขนาดนโยบายอเมริกันต้องมาก่อน ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ ไม่ต้อนรับคนต่างชาติที่อพยพเข้าอเมริกา พออภิมหาเศรษฐีโลก นายอีลอน มัสก์ ยกย่องชาวต่างชาติหัวกะทิทำงานอยู่ในสหรัฐฯ ว่า เป็นผู้มีคุณูปการต่ออเมริกา เท่านั้น นายโดนัลด์ ทรัมป์ ถึงกับ กลับหลังหันนโยนบาย ประกาศให้กรีนการ์ด ซิติเซ่นกันเลย หลงไหลได้ปลื้ม อีลอน มาสก์ อย่างชนิดออกหน้าออกตา