วันที่ 31 ธ.ค.67 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุกส่วนตัว Paisal Puechmongkol ระบุว่า...

เรื่องการนำนักโทษออกนอกเรือนจำโดยไม่ขออนุญาตศาล บานปลาย

* มีผู้ยื่นคำร้อง ขอพึ่งบารมีประธานศาลฎีกา ให้พิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของศาล และใช้อำนาจศาลทำการไต่สวน การนำ นักโทษ ออกไปนอกเรือนจำโดยไม่ขออนุญาตศาล เพื่อออกหมายจับและออกหมายขังนักโทษไว้ตามคำพิพากษาต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ เป็นที่จับตาของประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทั่วประเทศ

* จับตาว่าวันไหน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส หลายสมัยของพรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้ทำการตรวจสอบไต่สวนเรื่องนี้

* ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เป็นกฎหมายที่มีศักดิ์สูงเป็นลำดับที่ 3 รองจากรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ฐานะของกฎหมายเหนือกว่าพระราชบัญญัติ กฎกระทรวง และพระราชกฤษฎีกา ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 246 บัญญัติว่า การนำนักโทษออกนอกเรือนจำต้องขออนุญาตจากศาลก่อน และมาตรา 6 ได้บัญญัติห้ามมิให้ ออกกฎกระทรวงหรือพระราชกฤษฎีกา โดยขัดหรือแย้งกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

ดังนั้น การที่กระทรวงยุติธรรม และคณะรัฐมนตรี ฝ่าฝืนกฎหมาย เห็นชอบให้มีการออกกฎกระทรวง ให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สามารถส่งตัว ผู้ต้องขังออกไปนอกเรือนจำซึ่งเป็นการขัดกับหมายขังของศาลครับกับคำพิพากษาของศาลที่ให้จำคุกจึงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรงด้วย นอกจากมีโทษทางอาญาแล้ว ผู้ทำผิดทั้งหมดจะต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งทางการเมืองด้วย

ดังนั้น การส่งตัวนักโทษออกไปนอกเรือนจำโดยไม่ขออนุญาตจากศาล และอ้างกฎกระทรวง ยุติธรรม จึงเป็นการผิดกฎหมาย และไม่สามารถลบล้างการกระทำความผิดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามหมายขังของศาลได้ ผู้ฝ่าฝืนทั้งหมดต้องรับโทษทางอาญา และต้องรับผิดทางการเมืองด้วย

ในขณะเดียวกันศาลก็มีอำนาจออกหมายจับ นักโทษนั้น ไปขังไว้ตามคำพิพากษาต่อไปได้ด้วย