เมื่อคุณกำลังขับรถอยู่ แล้วพบว่ามีน้ำหยดใต้ท้องรถ ถ้าเป็นรถใหม่อาจยังอุ่นใจได้เพราะมีประกันชั้น 1 คุ้มครอง แต่สำหรับรถที่ใช้งานมานาน ไม่ได้มีประกันที่ครอบคลุมอีกต่อไปแล้ว เจ้าของรถหลายคนอาจจะกระวนกระวายใจ ยิ่งไม่ทราบสาเหตุก็ยิ่งกังวล บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับสาเหตุของน้ำหยดใต้ท้องรถ ว่าแบบไหนปกติ แบบไหนที่ผิดปกติ? ตามไปหาคำตอบกันเลย!

น้ำหยดใต้ท้องรถ เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง?

น้ำที่หยดจากใต้ท้องรถอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ สามารถแยกแยะได้จากลักษณะของน้ำที่หยด ดังนี้

  • การระบายน้ำจากระบบปรับอากาศ
  • การรั่วซึมของระบบหล่อเย็น
  • การรั่วของน้ำมันเครื่อง
  • การรั่วของน้ำมันเกียร์
  • การรั่วของน้ำในหม้อน้ำฉีดกระจก
  • ปัญหาซีลยางเสื่อมสภาพ
  • การกระแทกหรือความเสียหายที่ใต้ท้องรถ

น้ำหยดใต้ท้องรถ แบบไหนปกติ

น้ำหยดใต้ท้องรถที่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ มีลักษณะดังนี้

  • น้ำจากระบบปรับอากาศ
    • มีลักษณะใส ไม่มีสี
    • ไม่มีกลิ่น
    • มีความเย็น
    • หยดเฉพาะเวลาเปิดแอร์
    • หยดในปริมาณพอประมาณ
  • น้ำฝนที่ขังอยู่ตามซอกมุม
    • หยดใส ไม่มีสี
    • หยดหลังจากฝนตกหรือล้างรถ
    • หยดในปริมาณน้อยและหยุดหยดเมื่อแห้ง

น้ำหยดใต้ท้องรถ แบบไหนผิดปกติ

อาการผิดปกติที่ควรรีบตรวจสอบ มีดังนี้

  • น้ำหล่อเย็นรั่ว
    • มีสีเขียวหรือชมพู
    • มีกลิ่นคล้ายโลหะ
    • อาจมีสนิมปน
    • รถอาจมีอาการร้อนผิดปกติ
  • น้ำมันเครื่องรั่ว
    • มีสีน้ำตาลหรือดำ
    • ข้นเหนียว
    • มีกลิ่นน้ำมัน
    • อาจเกิดควันจากใต้ท้องรถ
  • น้ำมันเกียร์รั่ว
    • มีสีแดง
    • ข้นหนืด
    • หยดบริเวณกลางท้องรถ
    • อาจมีอาการเข้าเกียร์ติดขัด
  • น้ำในหม้อน้ำฉีดกระจกรั่ว
    • มีฟองและกลิ่นน้ำยาล้างรถ
    • หยดบริเวณด้านหน้ารถ
    • สังเกตเห็นคราบน้ำยา

สรุปบทความ 

จะเห็นได้ว่าการสังเกตน้ำที่หยดใต้ท้องรถเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้การดูแลรักษารถยนต์ด้านอื่น ๆ ถ้าพบว่าเป็นน้ำจากระบบปรับอากาศ ไม่ต้องกังวลเพราะเป็นการทำงานปกติของระบบ แต่ถ้าพบของเหลวที่มีสี กลิ่น หรือความข้นผิดปกติ ควรรีบนำรถเข้าตรวจสอบทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจลุกลามต่อไปได้