เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 พล.ต.ท. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รรท.จตช. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รองผบก.สอท.1  เปิดปฎิบัติการยุทธการ “ Gateway laundering จีน - มาเล “  ฟอกเงิน payment gateway นำกำลังปูพรมค้น 5 จุดใน4 จว. ประกอบไปด้วย กทม.นนทบุรี สมุทรปราการ และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็น เครือข่ายฟอกเงินของขบวนการพนันออนไลน์

โดยจุดที่น่าสนใจเป็นการนำหมายค้นศาลอาญาที่ 1126/2567 ลง 16 ธ.ค.2567 เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง เลขที่98/48 ม.3 หมู่บ้าน Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ ถ.ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี  ก่อนจับกุม น.ส.ปัทมา ทองย้อย และ นาย KIA LIM HAO สองสามีภรรยา ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 6126,6142/2567 ลง 16 ธ.ค.2567 พร้อมของกลาง เงินสด 4 ล้านบาท,สร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท,สร้อยคอทองคำ พร้อมพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ)เลี่ยมทอง มูลค่า 5 แสนบาท นาฬิกาข้อมือโรเล็กซ์ รุ่นจีเอ็มที รูทเบียร์ ราคา 600,000 บาท, นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ ปาเต๊ะ ฟิลิป รุ่น 5726 ราคา 2,000,000 บาท  กระเป๋าแบรนด์เนมหรูกว่า 16 ใบ ,สุราต่างประเทศ ,รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด ทะเบียน ฆย 1414 กรุงเทพ และสมุดบัญชีธนาคาร รวมมูลค่ากว่า 13,313,000 บาท

จากการสอบสวน น.ส.ปัทมา ให้การว่า ได้อยู่กินกับ นาย HAO ประมาณ 3 ปี โดยร่วมประกอบธุรกิจด้วยกัน เปิดบริษัท ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท โดยเมื่อกลางปี 2566 ได้เปิดร้านเหล้า อยู่ที่ซอยเอกมัย ต่อมาได้ย้ายกิจการไปเปิดร้านเหล้าที่ ซ.รามคำแหง 122  ก่อนปิดกิจการไปและเปลี่ยนกิจการมาเป็นร้าน บ่อตกกุ้ง ตั้งอยู่ในซอย รามคำแหง 122  ร่วมกับนายเจฟเพื่อนชาวมาเลเซียด้วยกัน ซึ่งเป็นสามีของนางเสาวลักษณ์ ผายกลาง แต่ปัจจุบันถอนหุ้นไปแล้ว  เนื่องจากมีปัญหากัน

พล.ต.ท.ธัชชัช  เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้มีการมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นบริษัทอำพรางโดยบริษัทมีการจดทะเบียนถูกต้อง แต่ภายใต้บริษัทนี้มีการทำธุรกิจหลาย เพื่ออำพรางซ่อนเร้น อย่างล่าสุดก็มีการไปเปิดบ่อตกกุ้ง อยู่ย่านลาดพร้าว แต่ในข้อเท็จจริงคนร้ายได้ใช้บริษัทในการฟอกเงินเกี่ยวกับเรื่องพนันออนไลน์ ซึ่งมีการเชื่อมโยงไปยังบริษัทต่างๆและมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก ตำรวจจะขยายผล และออกหมายจับ ซึ่งมองว่าก็เป็นอีกคดีนึงที่เป็นน่าสนใจที่คนต่างชาติแต่มาแต่งงานกับคนไทยเพื่อจะได้สิทธิ์ในการถือครองหุ้นในบริษัท และใช้ใน การกระทำความผิด

พล.ต.ท. ไตรรงค์ เปิดเผยว่า คดีนี้จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการรับจ้างฟอกเงินให้กับเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่จะเปิดบริษัทต่างๆบังหน้าเพื่อทำการฟอกเงิน อาทิเช่น สถานบันเทิงย่านเอกมัย ,สถานบันเทิงที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และร้านอาหารทะเลที่ย่านลาดพร้าว และบริษัทอื่นๆรวมแล้วมากกว่า 10 บริษัทในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บางบริษัทที่จดแจ้งมาก็ไม่ได้มีการประกอบการจริง กรรมการบริษัทก็เป็นนอมินีทั้งสิ้น ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาจะมีการโอนเงินกันไปมาทำหน้าที่เหมือนเป็น payment gateway เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ และเชื่อว่าขบวนการนี้น่าจะมีการรับฟอกเงินให้กับขบวนการอื่นๆที่กระทำผิดกฎหมายหลายอย่าง ทั้งเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือเว็บไซต์พนันออนไลน์เว็บไซต์อื่น สถานีอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนและขยายผลในเรื่องของเส้นทางการเงิน

โดยการปฏิบัติการในครั้งนี้ชุดสืบสวนได้ออกหมายจับ 27 ราย จับกุมได้ 7 ราย อยู่ระหว่างการขยายผลติดตามจับกุม ซึ่งจุดนี้ จากการซักถามเบื้องต้น ทราบว่า สามีเป็นชายชาวมาเลเซีย เชื้อสายจีน มาแต่งงานกับหญิงไทย และได้มีการจดแจ้งบริษัท โดยให้ภรรยาเป็นนอมินีและแบ่งหุ้นส่วนให้ 51% ส่วนภรรยาที่เป็นชาวไทย บอกว่า รู้ว่าตัวเองถูกออกหมายจับ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามีทำงานรับฟอกเงินให้กับเว็บไซต์พนันออนไลน์  ซึ่งจากการตรวจค้นบ้านตรวจยึดทรัพย์สินได้เป็นกระเป๋าแบรนด์เนม สินค้าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู เงินสด 4 ล้านบาท และพระเครื่อง ส่วนบ้านที่เข้าค้นนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นบ้านของผู้ต้องหาหรือเป็นบ้านที่เช่าอยู่ แต่เบื้องต้นทราบว่าเช่าเดือนละ 8 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าว ว่าหญิงชาวไทยที่เป็นภรรยาได้รับ สารภาพว่า สามีได้จ้างให้เปิดบัญชีและเปิดบริษัทและคอยดูแลบริษัทให้เป็นเงินเดือนหลักแสนบาทต่อเดือน ซึ่งหญิงชาวไทยรายดังกล่าวอ้างว่าไม่รู้ว่าบริษัทที่สามีเปิดนั้นทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรบ้าง

นอกจากนี้ในจุดอื่นๆ ยังสามารถจับกุม ผู้ต้องหาในคดีนี้อีก 5 ราย  ประกอบไปด้วย น.ส.เสาวลักษณ์ ผายกลาง  จับกุมได้ที่คอนโดแอสปาย อโศก-รัชดา แขวงดินแดงเขตดินแดง , จับกุมนางสาวเบญพรรณ เที่ยงสัตย์ ได้ที่คอนโดนิซ โมโนรามคำแหง เขตบางกะปิ,จับกุมนายอธิป ตรีวรชัย ได้ที่บ้านเลขที่ 133 / 2 หมู่ที่ 4 อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจับกุมนางสาวหนึ่งฤทัย เทียนหอม ได้ที่ บ้านเลขที่ 470 / 40 หมู่ที่2 อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ