ศึกศักดิ์ศรี  “อบจ.เชียงราย” เพื่อไทย ส่ง “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ชน “อทิตาธร วันไชยธนวงศ์” ที่ประกาศตัวลงอิสระ?

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย หรือ นายก อบจ.เชียงราย จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ล่าสุดเริ่มมีการเคลื่อนไหวของผู้ที่คาดว่าจะลงชิงชัย นายก อบจ.เชียงราย  ซึ่งคนปัจจุบันจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 19 ธันวาคม 2567

ในฟากผู้ท้าชิงมี “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ซึ่งหลังจากหายหน้าหายตาไปจากวงการการเมืองหลายปี วันนี้หวนคืนเวทีการเมืองอีกครั้ง

“สลักจฤฎดิ์” ชื่อเดิม สลักจิต เป็นภรรยาของ “ยงยุทธ ติยะไพรัช”  อดีตเคยเป็นนายก อบจ. เชียงราย อย่างไรก็ตามเนื่องจากกระทำผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2557 ศาลฎีกาจึงได้มีคำพิพากษาให้จำคุกและเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 10 ปี ฐานกระทำการอันเป็นเท็จ กลั่นแกล้งคู่แข่งเพื่อให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา (มาตรา 114 พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ) หลังจากนั้นจึงห่างหายไปจากวงการการเมืองไป

ผ่านมา 10 ปี วันนี้ได้กลับมาสวมเสื้อ "เพื่อไทย" เป็นที่เรียบร้อย ถึงแม้จะไม่ได้ประกาศว่าจะลงสมัคร นายก อบจ. เชียงราย อย่างชัดเจน แต่กระแสข่าวที่หนาหู ว่า "เพื่อไทย" จะส่งลงสมัครอย่างแน่นอน เพราะได้มีการพูดคุยกันภายในพรรค (กับนายใหญ่) เป็นที่เรียบร้อย โดยมี “ยงยุทธ ติยะไพรัช” เป็นผู้เปิดเส้นทางเดินนี้ให้

ฟากคู่แข่ง “อทิตาธร วันไชยธนวงศ์” หรือ "นายก นก"  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย คนปัจจุบัน ได้ประกาศชัดเจนเช่นกันว่า “ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด” และคาดว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เช่นเดิม เพราะยังมีความมั่นใจในฐานคะแนนที่ได้รับเมื่อครั้งก่อน  และถึงแม้ว่าจะมีกรแสข่าวว่า จะลาออกจากตำแหน่งก่อนหน้านี้ แต่ก็เปลี่ยนใจ รอให้หมดวาระ 

ส่วนสาเหตุที่ประกาศว่า "นก..ไม่สังกัดพรรคการเมือง" อาจมากจากการที่ผ่านมา ตระกูล “วันไชยธนวงศ์” ที่มี “เสี่ยโป้ย” สมบูรณ์ วันไชยธนวงศ์ บิดาของ “อทิตาธร วันไชยธนวงศ์” หรือ "นายก นก"  เคยเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ขั้วพรรคไทยรักไทย-พลังประชาชน-เพื่อไทย 6 สมัย แต่ได้ย้ายไปซบขั้วสีน้ำเงิน-พรรคภูมิใจไทย เมื่อปี 2554 แล้วจึงสอบตก ต่อมาการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2566 "รังสรรค์ วันไชยธนวงศ์" หลานชาย "เสี่ยโป้ย" ก็ย้ายจากพรรคเพื่อไทย เข้าพรรคภูมิใจไทย ก็สอบตกอีกเช่นกัน ดังนั้นเพื่อเป็นกันกันครหาว่าสังกัดพรรคสีน้ำเงิน จึงตัดสินในประกาศตัวลงในนามอิสระ ก็เป็นได้

วิเคราะห์ในเชิงเปรียบเทียบ สนามนี้ถือว่าแข่งขันกันดุเดือด เพราะหากวิเคราะห์ในเรื่องคะแนนเสียง หากย้อนกลับไปในอดีต สมัยที่ “สลักจฤฎดิ์” ได้รับเลือกตั้งในปี 2555 ในนามพรรคเพื่อไทย เมื่อเทียบกับ นายก อบจ.เชียงราย คนปัจจุบัน แล้วคะแนนยังห่างกันมากโข โดย ปี 2563 “อทิตาธร วันไชยธนวงศ์” ได้คะแนน 239,622 คะแนน ชนะคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย อย่าง “วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์” ที่ได้คะแนน 211,956 คะแนน 

อย่างไรก็ตาม การเมืองนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากจะวิเคราะห์สนามนี้ จะต้องวิเคราะห์ปัจจัยเสริมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคะแนนเสียงในฝั่งสมาชิกสภาจังหวัด หรือ สจ. ในทีมมาประกอบกัน

สำหรับเชียงรายมี สจ. ทั้งหมด  36 เขตเลือกตั้ง ล่าสุดพบว่า สจ.ในปัจจุบันส่วนใหญ่เตรียมประกาศตัวจะร่วมงานกับฝั่ง “อทิตาธร วันไชยธนวงศ์” และอีกส่วนหนึ่งยังอยู่ในมือของตระกูล “จงสุทธานามณี”  ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ต้องมาดูว่า ทางฟากฝั่งพรรคเพื่อไทยที่คาดว่าจะส่ง  “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ลงนั้น จะมี สจ.ที่จะเทคะแนนไปอยู่ด้วยกี่คน 

ตระกูล “จงสุทธานามณี” จึงถือเป็นอีกหนึ่ง "ตัวแปร" สำคัญ เพราะ “วันชัย จงสุทธานามณี” เป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงราย คุมเสียงในเขตอำเภอเมืองเชียงรายอยู่ในมือ  และต้องอย่าลืมว่าในอดีต “รัตนา จงสุทธานามณี” เคยดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย มาแล้ว โดยปี 2551 ได้คะแนนสูงถึง 263,973 คะแนน แม้ที่ผ่านมา บุตรชายจะลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคเพื่อไทย และคราวนี้ “นายใหญ่” เพื่อไทย ก็ลงมากำกับเอง แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า "รัตนา" และ "สลักจฤฎดิ์" นั้นมีคดีกันมาก่อน โดนมีการฟ้องร้องหลายคดี และทาง "สลักจฤฎดิ์" ถูก “รัตนา” ฟ้องกลับ และเป็นที่มาของการเว้นวรรคทางการเมืองของ “สลักจฤฎดิ์” ในช่วงที่ผ่านมานั่นเอง

งานนี้จึงเป็นที่น่าสนใจและต้องจับตาเป็นอย่างมากว่า ตระกูล “จงสุทธานามณี” จะเทใจไปให้ “แชมป์เก่า” หรือ “ผู้ท้าชิง” เพราะหากฝั่งใดได้คะแนนส่วนนี้มาเสริมก็เชื่อว่า ตำแหน่ง "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย" คงไม่ไกลเกินเอื้อม อย่างแน่นอน

นอกจากตระกูล “จงสุทธานามณี” แล้ว พรรคเพื่อไทยในจังหวัดเชียงราย ยังประกอบไปด้วย ”พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน“ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนปัจจุบัน และ “วิสาร เตชะธีราวัฒน์“ อดีต รมช.มหาดไทย อีกด้วย

เป็นที่ชัดเจนว่า “พิเชษฐ์” กับตระกูล “ติยะไพรัช” นั้นไม่ลงรอยกัน ส่วน “วิสาร”นั้นก็เคยประกาศตัวเป็นผู้ท้าชิง นายก อบจ. ก่อนจะถูก “ยงยุทธ” เดินเกมส์ใช้นายกใหญ่มาสยบจนชวดการเป็นผู้สมัคร นายก อบจ. ไป 

ว่ากันว่าเมื่อครั้งที่ส่งลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนอย่าง "ยิ้ม วิสาระดี" ลงสมัครนายก อบจ. ก็ถูก “บ้านใหญ่แม่จัน” หักจน “ยิ้ม วิสาระดี“ พลาดเก้าอี้นายก อบจ. มาแล้วเช่นกัน
รอยร้าวในเพื่อไทยเชียงราย ที่ปรากฎชัด ในขณะที่ “วันไชยธนวงศ์” ภายใต้เงาของ “พรรคสีน้ำเงิน” ที่สลัดไม่หลุด ทำให้สนามเลือกตั้ง อบจ. เชียงราย เป็นอีกสนามหนึ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก.