เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันที่ 10 ธ.ค.67 นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง พร้อมด้วย นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการรื้อถอนโครงสร้างเหล็ก Launching Gantry (LG) และชิ้นส่วนสะพานคอนกรีตที่ได้รับความเสียหายบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) อย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ยังได้มีการสอบถามถึงสภาพการจราจรบนถนนพระราม 2 พร้อมแผนการปฏิบัติงานในแต่ละวัน โดยเฉพาะช่วงที่มีปริมาณรถหนาแน่นทั้งขาเข้าและขาออกกรุงเทพฯ ส่วนภาพรวมของการดำเนินงานนั้น ขณะนี้ทีมวิศวกรและเจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อถอนโครงสร้างเหล็ก Launching Gantry (LG) และชิ้นส่วนสะพานคอนกรีต มีความคืบหน้าแล้ว 70% คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดการจราจรได้ตามปกติภายในวันที่ 14 ธันวาคม 2567 นี้ โดยล่าสุดวันนี้ ทางด้านฝั่งขาออกกรุงเทพฯ ทีมวิศวกรได้รื้อถอนโครงสร้างเหล็ก LG ส่วนหน้าและส่วนหลังเรียบร้อยแล้ว และกำลังดำเนินการตัดโครงสร้างส่วนกลางที่เชื่อมกับชิ้นส่วน Segment ส่วนทางฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ทีมวิศวกรได้ทำการปลด Segment ทั้งหมด และเลื่อนโครงสร้าง LG ไปยังจุดที่ปลอดภัย พร้อมติดตั้งเครื่องตรวจวัดการเคลื่อนตัวเพื่อความปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า การดำเนินงานที่ผ่านมาทีมวิศวกรได้เตรียมการอย่างละเอียดและดำเนินงานทุกขั้นตอนโดยเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ประกอบกับการติดตามผลของระบบตรวจวัดและควบคุมการเคลื่อนตัวของโครงสร้างตลอดการดำเนินงาน ทำให้มั่นใจว่าการรื้อถอนจะแล้วเสร็จตามกำหนด ซึ่งเหตุที่บางวันมีการทำงานที่ล่าช้ากว่าแผนที่ได้วางไว้ ก็เนื่องจากเมื่อลงมือปฏิบัติจริงแล้วพบจุดที่ต้องปรับแก้ไข ก็ต้องมีการปรับแผนกันทันทีและต้องให้มั่นใจก่อนว่าการปฏิบัติงานเกิดความปลอดภัยอย่างแท้จริง จึงจะลงมือทำ แต่อย่างไรก็จะไม่เกินจากห้วงระยะเวลาที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน
อธิบดีกรมทางหลวง ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในส่วนของการจราจรนั้น กรมทางหลวง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจในพื้นที่ได้วางแผนบริหารการจราจร โดยเมื่อช่วงเช้าของวันนี้มีการเปิดช่องจราจรพิเศษเพิ่มอีก 1 ช่องทาง เพื่อระบายปริมาณรถขาออกกรุงเทพฯ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน รวมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอำนวยความสะดวก และขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง หากมีความจำเป็นต้องสัญจร โปรดเผื่อเวลาในการเดินทางด้วย
ด้าน พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สารวัตรทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวงนครปฐม ได้เปิดเผยด้วยว่า สำหรับสภาพการจราจรตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ถึงเวลาประมาณ 12.00 น. การจราจรฝั่งขาออกกรุงเทพฯ เป็นไปด้วยความคล่องตัว โดยภายหลังจากที่ได้มีการยก Segment ทั้งหมด และเลื่อนโครงสร้าง LG ไปยังจุดที่ปลอดภัยในฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ แล้ว ก็ได้มีการเปิดช่องทางพิเศษเพิ่มขึ้นอีก 1 ช่องทาง ทำให้รถเล็กฝั่งขาออกกรุงเทพฯ สามารถใช้ช่องทางพิเศษได้ 2 ช่องจราจร ส่วนรถขนาดใหญ่ยังคงให้ใช้ทางเบี่ยงเข้าถนนเอกชัยเหมือนเดิม แต่ทั้งนี้หากว่าในช่วงเย็นหรือชั่วโมงเร่งด่วนปริมาณรถฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ มีจำนวนมากจนเกิดการสะสมหนาแน่น ทำให้รถติดเป็นระยะทางยาว ก็อาจจะมีการปรับช่องทางพิเศษที่เปิดให้เป็นช่องทางขาออกนั้น มาเป็นช่องทางสำหรับรถเข้ากรุงเทพฯ 1 ช่องจราจร และเหลือให้กับทางฝั่งขาออก 1 ช่องจราจร ซึ่งก็จะต้องมีการหารือแผนการปรับช่องจราจรร่วมกับทางแขวงการทาง รวมถึงต้องดูสถานการณ์ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกในแต่ละชั่วโมง เพื่อปรับเส้นทางการเดินรถให้เหมาะสมกับสภาพการจราจรในขณะนั้น ในการนี้ก็ขอให้ประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนหากหลีกเลี่ยงเส้นทางนี้ได้ ก็ขอให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นก่อนอีกสัก 2 – 3 วัน จนกว่าการดำเนินการในส่วนตรงที่เกิดเหตุจะแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย สภาพการจราจรก็จะกลับมาเป็นปกติดังเดิม