สยามรัฐยืนหยัดอยู่บนบรรณภิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาณ “นิคฺคณฺเห นิคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม” …*…
อา...หลังจากกระชุ่นเรื่องไม่มี สส.หญิงออกมาปกป้องนายกฯ คราวต้องเจอสงครามน้ำลายกับ “ป้าปากแซ่บ” ที่ชอบยักลงต่ำ วันนี้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจะได้อ่านคอลัมน์ของ ศรพระราม กันหรือเปล่าที่เขียนท้วงติงไปวันนั้น เพราะไม่บังอาจไปเคลม ...*...
แต่วันนี้เมื่อ “นายกฯอิ๊งค์” ที่ถูกรุมเรื่องเตรียมแถลงผลงานรัฐบาล ก็ได้เห็น “เพื่อนหญิงพลังหญิง” สส.หญิงและนักการเมืองหญิง ออกมาเป็นปากเป็นเสียง ให้กับ “นายกอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร บ้างแล้ว ไม่ปล่อยให้องครักษ์ขาประจำต้องรับบทเดิมซ้ำๆ ไม่ว่าจะเป็น “ดร.หญิง” ลินธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ และ “สส.เดียร์” ขัตติยา สวัสดิผล ออกมาสวนหมัดกับพรรคประชาชนปกป้องนายกฯอิงค์บ้างแล้ว ...*...
จริงอยู่ การขับเคลื่อนการบริหารประเทศ ไม่ใช่ “เวทีโต้วาที” แต่การอธิบายสาระของนโยบายสำคัญ กรอบความคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ...*...
แม้สัจธรรมข้อหนึ่ง ที่ต้องยอมรับ โดยเฉพาะในสังเวียนการเมืองก็มีคน “ได้ดีเพราะปาก” และ “ปากพาจน” ก็เยอะ แต่การปล่อยให้ “นายกฯอิ๊งค์”โดยรุมขย้ำอย่างเดียวดาย ไม่มีใครออกมาเป็น “หนังหน้าไฟ” หรือรีแอ็คช้าไป นั่นต่างหากที่ไม่ใช่ปกติวิสัย ...*...
ยิ่งหนทางข้างหน้า หลังเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 12 ธันวาคม พรรคฝ่ายค้าน และฝ่ายแค้น เตรียมหงายปังตอรอเชือดรัฐบาลหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น หัวหน้าพรรคประชาชน ที่ต้องเร่งทำคะแนน อย่าง “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ที่ยังสะกดคำว่า “ชนะ” ในการเลือกตั้งซ่อม สส.และการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่เป็น จะต้องหันมามุ่งคว้าคะแนนในสภาฯให้ได้ ...*...
เช่นเดียวกับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดนดาบปักหลังจึกๆ ไป 2 เล่ม ไม่ว่าจะเป็นกรณีคนใกล้ชิดโดนหางเลขคดีดิไอคอนกรุ๊ป และล่าสุดกับการถูกโยงเส้นเงินรุกที่ สปก. กระทบชิ่งไปถึงหวานใจ ซึ่งกลายเป็น “ไฟลามทุ่ง” ...*...
ยิ่ง ทีมตรวจสอบไร่ภูนับดาว มีกำหนดจะลงพื้นที่ช่วงเดียวกันกับเปิดสภาฯพอดี ก็จะได้เห็นการดึง “ซีน” ออกไปนอกสภาฯ ก็ยิ่งน่าจับตาว่า พรรคพลังประชารัฐจะออกอาวุธในสภาฯได้มากน้อย แค่ไหน แม้จะยังมองเห็นอาการดิ้นสู้ ยิบตา ส่งโฆษกพรรคออกมา เป็นกระบอกเสียงให้ “ลุงป้อม” โหนถล่มประเด็นเรื่อง ภาษีก็ตาม ...*...
ส่วนฝนตกที่เกาหลีใต้ หนาวถึงเมืองไทย เรื่องวุ่นๆของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ประกาศกฎอัยการศึกอายุสั้น แค่ 6 ชั่วโมงโดนรัฐสภาคว่ำไม่เป็นท่า กำลังจะโดนสอบฐาน “กบฏ” ทำเอานักการเมืองไทยไปห้อยโหนเชียร์รัฐสภาเกาหลีใต้ที่ออกมาต่อต้าน ...*...
ถัดมาไม่กี่วัน สส.พรรครัฐบาลอุ้มประธานาธิบดีให้รอดญัตติถอดถอนเฉย แต่ไม่รู้จะพ้นข้อหากบฏหรือไม่ แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น การเมืองเกาหลีใต้ กับการเมืองไทยนั้น คนละ “เลเยอร์”กัน ...*...
ที่มา:ศรพระราม (10/12/67)