ปี 2024 (พ.ศ. 2567) ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ ถือเป็นปีที่เลวร้ายต่อเหล่าบรรดาเจ้าหน้าที่สายงานบรรเทาทุกข์ หรือช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกันเลยก็ว่าได้ เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ
ทั้งนี้ เพราะยังไม่หมดปีเลยด้วยซ้ำ บรรดาเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ ก็ถูกเด็ดชีพไปแล้วถึง 281 ราย เข้าไปแล้ว ทำลายสถิติของปี 2023 (พ.ศ. 2566) หรือปีที่แล้ว ไปเป็นที่เรียบร้อย ตามการบันทึกในรายงาน “ฐานข้อมูลความปลอดภัยของผู้ช่วยเหลือด้านมนุษธรรม” หรือ “เอดับเบิลยูดีเอส (AWDS : Aid Worker Security Database)” ซึ่งสำรวจติดตามภายใต้การสนับสนุนด้านเงินทุนจาก “ยูเอสเอด (USAID)” อันมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่อาคาร “โรนัลด์ เรแกน บิลดิง” ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา
รายงาน “เอดับเบิลยูดีเอส” ก็สำรวจจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการเสี่ยงภัย ถึงขั้นเสี่ยงตาย ของเหล่าเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในประเทศต่างๆ เป็นประจำทุกปี
ผลปรากฏว่า ในปี 2024 (พ.ศ. 2567) เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 19 ประเทศ ถูกคร่าชีวิตรวมกันแล้ว 281 ราย แซงหน้าของปี 2023 (พ.ศ. 2566) ที่จำนวน 280 ราย และนับเป็นจำนวนเจ้าหน้าที่บรรชเทาทุกข์ที่เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่ “เอดับเบิลยูดีเอส” เริ่มจัดทำรายงานเมื่อปี 1997 (พ.ศ. 2540) เป็นต้นมา
รายงาน “เอดับเบิลยูดีเอส” ยังระบุด้วยว่า ในจำนวน 281 รายของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์เสียชีวิตไปข้างต้น ปรากฏว่า เป็นเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ที่ปฏิบัติหน้าที่ใน “ฉนวนกาซา” จำนวนมากถึง 178 ราย ซึ่งต้องถือเป็นส่วนใหญ่ คือ เกือบ 2 ใน 3 เลยทีเดียว ของจำนวนเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ที่เอาชีวิตไปทิ้ง หรือสละชีพ ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก
จนกล่าวได้ว่า “ฉนวนกาซา” ไม่ผิดอะไรกับแดนประหัตถ์ประหารผลาญชีวิตเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์
ทั้งนี้ ก็ด้วยฉนวนกาซา เป็นสมรภูมิรบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ เช่น ฮามาส ของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ซึ่งเริ่มสู้รบกันมาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้วเป็นต้นมา ถึง ณ ชั่วโมงนี้
โดยเมื่อกล่าวถึงสมรภูมิสงครามในฉนวนกาซาแล้ว หากนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้วเป็นต้นมา คาบเกี่ยวถึง ณ ปัจจุบัน ก็เป็นสถานที่ที่คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 333 ราย คาดว่า กว่าจะถึงสิ้นปี 2024 นี้ จำนวนเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ที่เสียชีวิตในพื้นที่แห่งนี้ จะเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ที่นำโดยฮามาส ยังคงสู้รบกันต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองทัพอิสราเอล ที่ยังคงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซาไม่เว้นแต่ละวัน พร้อมกับนำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตของผู้คนพลเมืองชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา รวมถึงเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ อย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้ง
ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ภาคส่วนต่างๆ นอกเหนือจากหน่วยงานสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เร่งหามาตรการอะไรสักอย่าง เพื่อพิทักษ์ปกป้องชีวิตของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในยามที่พวกเขากำลังทำหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้คนที่กำลังเดือดร้อนจากภัยของสงครามในฉนวนกาซา
สำหรับ พื้นที่ที่มีการสู้รบ และภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่นๆ จนส่งผลกระทบต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์มากเป็นอันดับรองๆ ลงไปจากฉนวนกาซา ได้แก่
ซูดาน 25 ราย
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก หรือดีอาร์คองโก จำนวน 11 ราย
ยูเครน 11 ราย
ซูดานใต้ หรือเซาท์ซูดาน 9 ราย
เอธิโอเปีย 8 ราย
ไนจีเรีย 8 ราย
เมียนมา 5 ราย
โซมาเลีย 5 ราย
ซีเรีย 5 ราย
บูร์กินาฟาโซ 4 ราย
เลบานอน 4 ราย
มาลี 2 ราย
ชาด 1 ราย
เฮติ 1 ราย
อิรัก 1 ราย
โมซัมบิก 1 ราย
ไนเจอร์ 1 ราย
เยเมน 1 ราย
สำหรับ การปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ ก็มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ได้แก่ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นประการต่างๆ เช่น อาหาร ที่พักพิง การศึกษา การรักษาพยาบาล ดูแลสุขภาพ ป้องกันควบคุมโรค แก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยสารพัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้ง ที่ถึงขั้นจับอาวุธสู้รบกันในทางการสงครามกันขึ้น และภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ น้ำท่วม ดินโคลนถล่ม แผ่นดินไหว เป็นต้น ซึ่งหลายครั้งกลับปรากฏว่า เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ ต้องกลับกลายอยู่ในสถานภาพเป็น “ผู้ประสบภัยเสียเอง” หรือถึงขั้นเอาชีวิตไปทิ้ง ในพื้นที่ที่พวกเขาเดินทางเพื่อเข้าไปช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้คนที่กำลังประสบทุกข์ภัย แบบสละความสุขส่วนตัวอย่างน่ายกย่อง