สยามรัฐยืนหยัดอยู่บนบรรณภิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาณ “นิคฺคณฺเห นิคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม” …*…
พ้นคุกออกมาอีกคนสำหรับบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ทำให้ถูกจับตาว่าจะเป็นการปูทางการกลับมาประเทศไทยของ “ปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วยเขาถูกศาลตัดสินจำคุก เป็นเวลา 42 ปี จากคดีจำนำข้าว ในสมัยที่ “ยิ่งลักษณ์” เป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่ก่อนหน้านี้ ทักษิณ ชินวัตร เพิ่งประกาศผ่านสื่อนอกว่า ยิ่งลักษณ์อาจจะกลับมาก่อนสงกรานต์ …*…
“บุญทรง” จะยังต้องถูกคุมประพฤติที่บ้านอีก 3 ปี กับ 6 เดือนก็ตาม แต่ในห้วง 7 ปีที่ผ่านมาในคุก ถูกบีบให้ตัดสินใจย้ายขั้ว จากพรรคเพื่อไทย จากการที่ส่งลูกชายไปอยู่กับพรรคอนาคตใหม่ และกระทั่งไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ แม้จะไม่ได้รับการเลือกตั้งทั้ง 2 ครั้งก็ตาม การที่เขาพ้นคุกออกมาด้วยดีกรีอดีต สส.เชียงใหม่หลายสมัย นัยหนึ่งจึงถูกมองว่าเป็นการเอื้อต่อการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ของพรรคเพื่อไทย ที่ถือว่าเป็น “ศึกศักดิ์ศรี” ของตระกูลชินวัตร …*…
ส่วนเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ล่าสุด ดูทรงน่าจะผ่านด่านประชามติไปได้ยาก ข้อสรุป กรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ เห็นชอบกับร่างกฎหมายประชามติของวุฒิสภาที่ให้ใช้เสียงข้างมากสองชั้นทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญคือ ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียง และมีคะแนนเสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง โดย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ในฐานะประธาน กมธ.ลงนามในรายงานฉบับนี้แล้ว จะเสนอไปยังสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาในวันที่ 4 ธ.ค. เบื้องต้นทราบว่า สว.จะนำเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาในวันที่ 17 ธ.ค. ขณะที่ สส.จะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 18 ธ.ค. หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับความเห็นของทั้งสองสภา เชื่อว่า สส. และ สว.จะยืนยันจุดยืนตัวเอง ส่งผลให้ร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ จะถูกแขวน 180วัน จากนั้นหากสส.ยังยืนยันในหลักการของตัวเองจึงประกาศบังคับใช้ได้ …*…
และชัดเจนว่า หากแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่ทันสภาฯชุดนี้แน่ นอกจากต้องรอ 180 วันแล้ว ต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้งออกอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องอีก 1เดือน จึงจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ขณะที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีต้องเชิญ กกต. และสำนักงบประมาณมาหารือจะใช้งบประมาณทำประชามติเท่าใด เพื่อส่งให้ ครม.ลงมติ จึงเข้าสู่ขั้นตอนทำประชามติ รวมแล้วใช้เวลาเกือบปี คาดว่าจะทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญได้ ช่วงปลายเดือน ธ.ค.2568 ถึงต้นเดือน ม.ค. 2569 จึงได้แก้รัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 จึงไม่น่าจะมีรัฐธรรมนูญใหม่ทันรัฐบาลชุดนี้ …*…
ที่มา:ศรพระราม (6/12/67)