เพราะความเหนื่อยล้าของสมองและอาการง่วงนอน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาล “แบรนด์ซุปไก่สกัด” โดย บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) ผู้นำตลาดอาหารเสริมสุขภาพภายใต้ตราผลิตภัณฑ์แบรนด์ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย จัดกิจกรรมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ ผ่านโครงการ “ขับขี่ปลอดภัย สมองล้า อย่าขับพักดื่มแบรนด์” ผนึกกำลัง “กองบังคับการตำรวจทางหลวง” และ “กองบังคับการตำรวจจราจร” ลุยแจกแบรนด์ซุปไก่สกัด 7 จุด ทั่วถนนสายหลัก ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2567 ถึง 3 มกราคม 2568 

นางจุฑามาศ งามจิตรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัด บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า จากความยึดมั่นในค่านิยมองค์กรด้าน “การตอบแทนกลับคืนสู่สังคม” (Giving Back to Society) แบรนด์ซุปไก่สกัดยังคงสานต่อกิจกรรมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนมาอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ปีที่ 17 โดยในปีนี้ โครงการ “สมองล้า อย่าขับพักดื่มแบรนด์” มอบแบรนด์ซุปไก่สกัดให้กับพันธมิตร “กองบังคับการตำรวจทางหลวง” และ “กองบังคับการตำรวจจราจร” จำนวนกว่า 45,000 ขวด พร้อมคูปองส่วนลด 10 บาท พิเศษสำหรับแบรนด์ซุปไก่สกัด 42 มล. (ยกเว้นสูตรผสมสมุนไพร) สามารถนำมาเป็นส่วนลดเพิ่มเติมได้ที่ 7-11 ทุกสาขา จนถึงวันที่ 23 มกราคม 2568 และที่มินิ บิ๊กซีทุกสาขาจนถึงวันที่ 29 มกราคม 2568 โดยเตรียมแจกให้กับประชาชนที่ต้องขับรถทางไกลในช่วงเทศกาลปีใหม่ ณ 7 จุดบริการประชาชนบนทางหลวงสายหลัก ได้แก่ กองบังคับการตำรวจทางหลวง 4 แห่ง ได้แก่สถานีตำรวจทางหลวง 4 กองบังคับการ 5 (กก. 4 บก.บล.) เชียงใหม่, สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองบังคับการ 1 (กก.1 บก.ทล.)พระนครศรีอยุธยา, สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองบังคับการ 8 (กก.1 บก.ทล.) อ่อนนุช ลาดกระบัง, สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองบังคับการ 2 (กก.2 บก.ทล.) ประจวบคีรีขันธ์ และ กองบังคับการตำรวจจราจร 3 แห่ง ได้แก่ สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก (จตุจัตร), สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทางด่วนประชาชื่นขาออก, และสถานีบริการน้ำมัน ปตท. จุดพักข้างทางขาออก

“แบรนด์ซุปไก่ ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยบนท้องถนนมาโดยตลอด ซึ่งตอบรับกับนโยบายภาครัฐ ผ่านโครงการ “สมองล้า อย่าขับพักดื่มแบรนด์” โดยปีนี้ เราได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 6 ล้านบาท เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเตรียมตัวเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุ ที่นำไปสู่สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ผ่านช่องทาง Social media และ OOH (Out Of Home) ควบคู่กับการสื่อสารที่ตอกย้ำถึงคุณประโยชน์ของแบรนด์ซุปไก่สกัด ซึ่งมีคาร์โนซีน และวิตามินบี 12 ที่มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของสมองและระบบประสาท เพื่อให้สมองทำงานได้อย่างเต็มที่ เพิ่มสมาธิและความพร้อมในการขับขี่ได้ตลอดเส้นทาง กิจกรรมดังกล่าวมุ่งสร้างประสบการณ์ตรงให้กับกลุ่มเป้าหมายในการเพิ่มความพร้อมให้ร่างกายตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ ยังจับมือกับ 7-11 จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดดันยอดขายโค้งสุดท้าย ซื้อแบรนด์ซุปไก่สกัด 42 มล. (ยกเว้นสูตรผสมสมุนไพร) 2 ขวด เพียง 65 บาท (จากปกติ 78 บาท) สมาชิก All Member รับเพิ่ม 100 คะแนน ตั้งแต่วันที่ 5-11 ธันวาคม 2567 และซื้อแบรนด์ซุปไก่สกัด 70 มล. (ยกเว้นสูตรผสมสมุนไพร) 2 ขวด 103 บาท (จากปกติ 120 บาท) สมาชิก All Member รับเพิ่ม 700 คะแนน ตั้งแต่ 24 พฤศจิกายน 2567 ถึง 3 มกรคาคม 2568”

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนส่วนมากจะเดินทางกลับภูมิลำเนา ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัวและขนส่งมวลชน ทำให้มีปริมาณรถยนต์และผู้เดินทางจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดความหนาแน่นของการจราจรและความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ กองบังคับการตำรวจจราจร ซึ่งรับผิดชอบการจราจรในกรุงเทพฯ ได้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยการจัดกำลังสนับสนุนบริเวณสถานีขนส่งสาธารณะฯ และจุดที่มีการจราจรหนาแน่น  อีกทั้ง บก.จร. ได้จัด “โครงการตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยตลอดเส้นทาง” ตรวจสภาพความพร้อมของรถยนต์ จำนวน 10 รายการที่จำเป็นสำหรับการขับขี่ระยะทางไกลให้กับประชาชนทั่วไป ณ งานช่างเครื่องยนต์ ตรวจพิสูจน์ กก. 5 บก.จร. อาคารประสารราชกิจ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย  

โดยปีนี้ กองบังคับการตำรวจจราจรได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ซุปไก่สกัด ซึ่งร่วมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ผ่านโครงการ “สมองล้า อย่าขับพักดื่มแบรนด์” สร้างความปลอดภัยในการเดินทางให้กับผู้ขับขี่รถยนต์ทางไกล ที่ต้องเผชิญกับการจราจรที่หนาแน่น อาจส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า และง่วงนอน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ การส่งเสริมการดื่มแบรนด์ซุปไก่เพื่อเพิ่มความสดชื่น เป็นการสนับสนุนให้ผู้ขับขี่มีสติและความพร้อมในการขับขี่ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้าหรือการหลับในขณะขับรถ

ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.จร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนใหญ่อุบัติเหตุในช่วงเทศกาลมักมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ เมาแล้วขับ, การขับขี่เร็วกว่ากฎหมายกำหนด,  สภาพรถยนต์ไม่พร้อม เนื่องจากการใช้งานมานาน ขาดการบำรุงรักษาหรือตรวจสภาพ เช่น ระบบเบรก, ยางรถยนต์, หรือไฟหน้า อาจทำให้เกิดปัญหาขณะขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเดินทางไกล หรือ ผู้ขับขี่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร เช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย ใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร รวมถึงอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ที่เกิดจากการขับขี่ระยะไกล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญของสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน

พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) เปิดเผยว่า ตำรวจทางหลวงได้เตรียมความพร้อมก่อนเทศกาล โดยให้หน่วยเตรียมกำลังพล อุปกรณ์ ยานพาหนะ สำรวจความพร้อมต่างๆ ซักซ้อมการปฏิบัติโดยเฉพาะการเปิดช่องทางพิเศษในจุดที่จราจรติดขัด โดยนำการถอดบทเรียนของการดำเนินงานเมื่อปีที่แล้วมายกระดับการดำเนินงานในปีนี้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เตรียมห้องพักฟรีให้กับประชาชนได้เข้าพักตามหน่วยบริการตำรวจทางหลวงทั่วประเทศ 205 หน่วย หากมีอาการเหนื่อยล้า ผู้ขับขี่สามารถติดต่อเข้าพักได้ทันที สำหรับการดำเนินการช่วงเทศกาล ทางหน่วยได้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการจราจรที่มีระดับ รอง ผบก. เป็นผู้ควบคุม โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT system) กล้องวงจรปิดมาใช้ในการวิเคราะห์การจราจร เพื่อให้เห็นภาพรวม และสามารถสั่งการไปยังหน่วยให้เตรียมพร้อมดำเนินการ ส่งต่อมวลรถเป็นระยะๆ เพื่อส่งเสริมการทำงานแบบสัมพันธ์กัน โดยได้เน้นย้ำว่า ต้องแก้ไขปัญหาก่อนรถจะติดขัด 

“ในปีใหม่นี้ ตำรวจทางหลวงได้เตรียมความพร้อมในการดูแลพี่น้องประชาชน ขอฝากพี่น้องประชาชน ให้เตรียมความพร้อมของตนเองและยานพาหนะ หากใครที่จะเดินทางไกล ต้องมีการตรวจสอบสภาพรถให้พร้อม โดยเฉพาะระบบเครื่องยนต์ ยางรถยนต์ เติมน้ำมันให้พร้อม ที่สำคัญ ร่างกายต้องพร้อม ไม่ดื่ม ไม่ง่วงแล้วขับ รวมถึงวางแผนการเดินทางว่าเส้นทางที่จะเดินทางนั้นมีสภาพการจราจรเป็นอย่างไร ควรจะออกเดินทางช่วงไหน มีเส้นทางเลี่ยงหรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบการจราจรที่เพจ ตำรวจทางหลวง หรือผ่านระบบ Google maps หากพี่น้องประชาชนมีปัญหาการเดินทาง หรือต้องการความช่วยเหลือต่างๆบนท้องถนน สามารถติดต่อตำรวจทางหลวงที่หมายเลข 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”