ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า กลุ่มผู้บริหารแบรนด์นาฬิกา ORIENT นำโดย คุณมาซาชิ ฮายาชิ Executive Officer, Wearable Products Operations Division, Seiko Epson Corporation ประเทศญี่ปุ่น และ คุณยุทธพล ตันติวงษากิจ กรรมการผู้จัดการบริษัทสหกรุงทองเทรดดิ้ง จำกัด พร้อมคุณคม สัจจวโรดม ผู้จัดการสินค้าแบรนด์ ORIENT และคณะ ได้มีโอกาสต้อนรับคณะสื่อมวลชน, ยูทูบเบอร์, KOL, ตัวแทนห้างสรรพสินค้า และร้านค้าผู้แทนจำหน่ายทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ซึ่งได้ให้เกียรติเดินทางเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตนาฬิกา เอปสัน (EPSON) แห่งแรกในประเทศไทย ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา

โดย EPTH (EPSON THAILAND) ได้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2013 และโรงงานผลิตนาฬิกาก่อตั้งขึ้นในปี 2019 ปัจจุบันมีพื้นที่ทั้งหมดคือ 48,804 ตารางเมตร ควบคุมการผลิตภายใต้มาตรฐานคุณภาพของเอปสันแบบเดียวกันทั้งหมด มีสำนักงานใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นถ่ายทอดมาตรฐานคุณภาพ กฎระเบียบด้านเทคโนโลยี และวิธีการผลิตไปยังฐานการผลิตแต่ละแห่งทั่วโลก สำหรับประเทศไทย จากการเปรียบเทียบและประเมินฐานการผลิตของเอปสัน โดยพิจารณาการจัดหาชิ้นส่วนและการขนส่ง จึงตัดสินใจว่า EPTH เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดและได้เลือกบริษัทดังกล่าว นอกจากนี้ ความไว้วางใจที่มีต่อคนไทยจากประสบการณ์อันยาวนานของ EPTH ในธุรกิจยังช่วยสนับสนุนการตัดสินใจในครั้งนี้อีกด้วย และสำหรับพนักงานคนไทยเมื่อเข้าทำงานในบริษัท พนักงานทุกคนจะต้องเข้ารับการฝึกอบรมการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐาน EPSON หลังจากนั้น พนักงานจะได้เรียนรู้หลักปฏิบัติผ่านเอกสารมาตรฐานการทำงานที่ระบุขั้นตอนและประเด็นสำคัญสำหรับงานที่ได้รับมอบหมายแต่ละงาน จากนั้นพนักงานจะได้รับทักษะและประสบการณ์ผ่านการฝึกอบรมในงาน (OJT) เฉพาะพนักงานที่แสดงให้เห็นถึงทักษะที่ได้มาในระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งได้รับการรับรองจากการสอบรับรองทักษะ จึงจะได้รับอนุญาตให้ทำงานในสายการผลิตได้

 

ในปัจจุบันนี้แบรนด์นาฬิกา ORIENT ได้อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ SEIKO EPSON CORPORATION ที่ดูแลในส่วนของแบรนด์นาฬิกา ORIENT และ ORIENT STAR โดยมี บจก.สหกรุงทอง (UKT) เป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์นาฬิกาทั้งสองอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และในปัจจุบันได้มีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั้งในกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัด รวมทั้งเคาน์เตอร์แบรนด์นาฬิกาทั้งสอง ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเช่นกัน

ซึ่งในการเยี่ยมชมครั้งนี้ทางผู้บริหารแบรนด์นาฬิกา ORIENT ได้จัดงาน “Pride of Thai Proud to be Orient” ขึ้นเพื่อเลี้ยงรับรองแขกผู้มีเกียรติ และคณะสื่อมวลชนทั้งหมด ท่ามกลางบรรยากาศภายในงานที่เต็มไปด้วยความสดชื่นและมีมิตรภาพที่ดี โดยมีคุณยุทธพล ตันติวงษากิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสหกรุงทองเทรดดิ้ง จำกัด และ คุณมาซาชิ ฮายาชิ ผู้บริหารชาวญี่ปุ่น ขึ้นกล่าวเปิดงาน และกล่าวต้อนรับผู้ร่วมงานทุกคนด้วยความยินดี โดยในตอนท้ายทางคุณคม สัจจวโรดม ผู้จัดการสินค้าแบรนด์ ORIENT ได้กล่าวเชิญ ดร.ปราโมทย์  เหรียญเจริญสุข ขึ้นมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษเพื่อร่วมพูดคุยกันบนเวทีถึงจุดเริ่มต้นของความชื่นชอบในนาฬิกา ORIENT

ทั้งสองท่านได้กล่าวสรุปถึงแบรนด์นาฬิกา ORIENT ไว้ว่า นาฬิกาโอเรียนท์มีหลายรุ่นที่ได้รับความนิยม อย่างเช่น Bambino, Sunandmoon, Diver Design แต่ละรุ่นจะมีดีไซน์คอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกัน เริ่มจากซีรี่ส์ซันแอนด์มูน แน่นอนว่าจุดเด่นคือ การใช้ฟังก์ชั่นซันแอนด์มูนมาร่วมกับงานดีไซน์ในหลากหลายรูปแบบทั้งรุ่นที่เป็นกระจกซัพไฟร์รุ่นกระจกโดม ส่วนซีรีส์ Diver Design หรือที่หลายคนเรียกว่า มาโก้ (Mako) จะเป็นนาฬิกาในกลุ่มดีไซน์แบบดำน้ำ จะมีหลากหลายดีไซน์ ขนาด และกลไกนาฬิกา ที่มีทั้งออโตเมติกและโซล่าพาวเวอร์

สำหรับ แบมบิโน่ ชื่อทางการคือ Classic and Simple Style แต่แฟนๆ โอเรียนท์เรียกว่า “แบมบิโน่” เอกลักษณ์ของรุ่นนี้จะเป็นกระจกและหน้าปัดแบบโค้ง ก็จะออกมาหลายเวอร์ชั่น รุ่นล่าสุดที่น่าสนใจคือ รุ่นที่มีขนาดตัวเรือน 38 มม. และรุ่นที่มีการนำฟังก์ชั่น “ซันแอนด์มูน” เข้ามาใส่   รวมถึงมีการเลือกใช้สีสันใหม่ๆ เข้ามาเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับกลุ่มลูกค้าใหม่ และทุกๆ รุ่นที่กล่าวมาก็จะอยู่ในไลน์การผลิตทั้งหมดที่ประเทศไทย ตั้งแต่การประกอบเครื่องกลไกต่างๆ จนเป็นนาฬิกาที่สมบูรณ์ประทับตรา “Made in Thailand” เพื่อส่งจำหน่ายไปยังประเทศต่างๆ ในมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น

อีกทั้งในช่วงท้ายของการพูดคุยทางคุณคม สัจจวโรดม ผู้จัดการสินค้าแบรนด์ ORIENT มีการประกาศเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ ที่มีไลน์การผลิตนาฬิกาโอเรียนท์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ  โดยทางบริษัทสหกรุงทองร่วมกับทางญี่ปุ่นร่วมกันรังสรรค์นาฬิกาในรุ่นพิเศษออกมาถือเพื่อเป็นที่ระลึก และเป็นความทรงจำครั้งพิเศษกับความเป็นนาฬิกาแบรนด์แรกที่มีฐานการผลิตในประเทศไทยอย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้ชื่อรุ่น Pride Of  Thailand Limited Edition โดยกำหนดให้มีจำนวนการผลิตในแบบจำกัดที่ 500 เรือนพร้อมหมายเลขประจำเรือนที่สลักบนขอบฝาด้านหลัง พร้อมตราสัญลักษณ์ Pride of Thailand และข้อความ “A NEW MILESTONE OF QUALITY DEFINITION” ที่บ่งบอกได้ถึงความพิเศษสุดในนาฬิกาเรือนนี้

สำหรับการตัดสินใจเลือกรุ่น “แบมบิโน่” มาใช้เป็นรุ่น Thailand Limited นั้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์ โดยมีสีสันบนหน้าปัดในโทนสีคอปเปอร์ผิวสัมผัสแบบซันเบิร์ด  สื่อให้เห็นถึงแสงยามรุ่งอรุณ ณ ประเทศไทยให้เช้าวันใหม่เต็มไปด้วยความสดใส และแสดงให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ของแบรนด์นาฬิกาโอเรียนท์ ที่เริ่มต้นในการนำเสนอนาฬิกาที่ออกมาจากฐานการผลิตในประเทศไทยเป็นครั้งแรก และยังทำให้นึกไปถึงสีของชาไทยได้อีกด้วยซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ขึ้นชื่อเป็นเอกลักษณ์ของไทย  ซึ่งทุกประเทศทั่วโลกก็รู้จักและชื่นชอบจนติดอันดับเครื่องดื่มที่มีความอร่อยของโลก  ขนาดตัวเรือนจะอยู่ที่ 38 มม. สามารถใส่ได้ทั้งสุภาพบุรุษและสตรี ช่องหน้าปัดย่อยที่แสดงค่าวินาทีตรงจำแหน่ง 6 นาฬิกาจะเป็นสีซิลเวอร์ (เหมือนน้ำแข็งสะท้อนแสงของน้ำ)

ส่วน สายนาฬิกาจะมีให้แบบสองสาย นาฬิกาจะมาพร้อมสายนูบัค และแบบสายสตีล มาในกล่อง Box Set ที่ถูกดีไซน์ขึ้นมาใหม่  ซึ่งภายในกล่องจะบรรจุทั้งนาฬิกา สายสตีล พร้อมเข็มที่สามารถเปลี่ยนสายได้เอง สามารถเปลี่ยนลุคการใช้งานในแต่ละวัน โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่เรือนละ 13,800 บาท ท่านที่สนใจสามารถ Pre-Order อย่างเป็นทางการครั้งแรก ในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ ที่โชว์รูมสำนักงานใหญ่ 02-255-8822 หรือ เฟสบุ๊ก Orient Watch Thailand Forum และเคาน์เตอร์ ORIENT ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงร้านค้าผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

 

ขณะที่ แนวคิดของ SEIKO EPSON ในการย้ายฐานการผลิตนาฬิกา ORIENTจากประเทศญี่ปุ่นมาสู่ประเทศไทยอย่างสมบูรณ์แบบเป็นครั้งแรกนั้น ก็เพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้นของไลน์การผลิตนาฬิกา ORIENT ในทุกคอลเลคชั่นสำหรับจัดจำหน่ายไปทั่วโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการผลิตของโรงงานแห่งนี้ จากการควบคุมคุณภาพอย่างจริงจัง ตามมาตรฐานของโรงงาน EPSON ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้นาฬิกา ORIENT ที่ผลิตในประเทศไทยเป็นนาฬิกาที่มีคุณภาพระดับโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อีกทั้งยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับแรงงานไทยในระยะยาว และที่สำคัญเป็นการสร้างสกิลชั้นสูงในการผลิตนาฬิกาให้กับแรงงานไทย โดยเฉพาะในนาฬิการูปแบบออโตมาติกที่ต้องใช้ทักษะโดยเฉพาะและความปราณีตสูง ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในฝีมือแรงงานไทยที่มีความสามารถทัดเทียมไปทั่วโลก โดยการผลิตจากโรงงาน EPSON ในประเทศไทยนั้นจะมีข้อความ “Made in Thailand” ระบุไว้ที่ฝาหลังทุกเรือนด้วยความภาคภูมิใจ ซึ่งคำว่า Made in Thailand สามารถบอกความหมายได้ถึงหลายอย่าง และมีความเกี่ยวข้องกับวงการนาฬิกาในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่ประเทศไทยมีแรงงานที่มีคุณภาพ รวมถึงความพร้อมในหลายด้าน จนทำให้เกิดงานที่เกี่ยวข้องกับวงการนาฬิกา ในหลากหลายผลิตภัณฑ์มานานหลายสิบปีแล้ว ซึ่งรวมไปถึงงานด้านการผลิตและประกอบชุดกลไก จนเป็นนาฬิกาที่สมบูรณ์แบบพร้อมส่งออกจำหน่ายทั่วโลก ทั้งภายใต้แบรนด์หรือในแบบโออีเอ็ม แต่ก็ยังไม่เคยมีแบรนด์นาฬิกาใดที่ตั้งฐานการผลิตนาฬิกาทั้งไลน์ได้อย่างครบถ้วนแบบนี้ขึ้นในประเทศไทย