LEO COLDBOTIC ศูนย์จัดเก็บและกระจายสินค้า (Logistics Center) ควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะสำหรับไวน์แห่งแรกของประเทศไทย และเป็นคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) ที่ได้รับ BOI ประเภทกิจการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยในการจัดเก็บสินค้าประเภทไวน์ ซึ่งล่าสุดทาง "LEO" ได้จัดงาน "THE WINE JOURNEY OF TOMORROW เส้นทางไวน์สู่ความเป็นเลิศ เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการจัดเก็บไวน์"  วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ณ Mellow Garden Restaurant & Bakery นำเสนอการเปิดตัวมิติใหม่แห่งการจัดเก็บไวน์ที่ดูแลตั้งแต่การขนส่งจาก Wineyard ในต่างประเทศทั่วโลกมายังประเทศไทย จนถึงการจัดเก็บด้วยระบบอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบ พร้อมส่งมอบคุณภาพไวน์ที่ดีที่สุดให้ผู้ประกอบการไวน์และไวน์เลิฟเวอร์ทุกระดับ ชูจุดขายใหม่ Wine Tasting Area ทั้งที่ LEO COLDBOTIC  ณ ท่าเรือสหไทย และ LEO WINE STORAGE บนถนนพระราม 4 ที่ออกแบบมาเพื่อเจาะกลุ่มไวน์เลิฟเวอร์โดยเฉพาะ มั่นใจต่อยอดธุรกิจ Non-freight และ Non-Logistics ช่วยสร้างรายได้เพิ่มจากการบริการจัดการด้าน Warehouse / Distribution Center

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) เปิดเผยว่า "LEO" ได้ต่อยอดธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics โดยได้ทุ่มงบ 160 ล้านบาท เพื่อเปิดตัว "LEO COLDBOTIC" การให้บริการคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า (Warehouse / Logistics Center) แบบครบวงจร ที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะด้วยคอมพิวเตอร์ และใช้หุ่นยนต์ทำงานแทนมนุษย์ด้วยระบบ 4-Ways Shuttle Automatic เพื่อใช้จัดเก็บสินค้าประเภท Wine & Spirit  รายแรกของประเทศไทย สามารถจัดเก็บสินค้าประเภทไวน์ ในระหว่างช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ 15-18 องศาเซลเซียสได้ถึง 1.2 ล้านขวด เทคโนโลยีที่ทันสมัยจะทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมได้อย่างแม่นยำ พร้อมการรักษาคุณภาพไวน์ภายใต้มาตรฐานระดับโลก ทำให้สามารถส่งมอบรสชาติไวน์ที่คงคุณภาพได้อย่างแท้จริง การใช้ระบบ  Automation & Robot นี้จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ในเรื่องของเรื่องการจัดหาบุคลากรในระดับแรงงานที่นับวันก็จะยิ่งหายาก และยังทำให้การจัดเก็บสินค้าในคลังมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับไวน์ที่มีมูลค่าสูง สามารถให้บริการอย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำ สนองตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดเด่นของ "LEO COLDBOTIC" คือ ตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือสหไทย จังหวัดสมุทรปราการ โดยสามารถนำเสนอบริการโลจิสติกส์ได้อย่างครบวงจรในลักษณะ End-to-End Global Logistics สามารถรับสินค้าจาก Wineyard ของผู้ผลิตจากต่างประเทศมายังประเทศไทยและเป็นคลังสินค้าที่ได้รับการอนุมัติจากทางกรมศุลกากรให้เป็นคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ในเรื่องภาษีนำเข้าและสรรพาสามิตของการใช้คลังสินค้าทัณฑ์บนทุกประการ และเป็น Bonded Cold Chain Logistics Center สำหรับไวน์  ที่ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจและการค้าของกรุงเทพมหานครมากที่สุด นอกจากนี้ LEO COLDBOTIC ได้รับสิทธิประโยชน์ BOI ประเภทกิจการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย (Distribution Center: DC)" อีกด้วย

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่มาจัดเก็บไวน์ที่ "LEO COLDBOTIC"  และ "LEO WINE STORAGE" สามารถใช้บริการห้อง Wine  Tasting พื้นที่นำเสนอและชิมไวน์ในบรรยากาศหรูหรา รวมถึงมีห้องประชุมสำหรับจัดกิจกรรมพูดคุยเรื่องธุรกิจเพิ่มเติมด้วย เหมาะสำหรับลูกค้าในกลุ่มผู้นำเข้าไวน์ ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต โรงแรม ร้านอาหาร และไวน์เลิฟเวอร์เป็นอย่างยิ่ง

โดยภายในการจัดงาน "THE WINE JOURNEY OF TOMORROW เส้นทางไวน์สู่ความเป็นเลิศ เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการจัดเก็บ" จะมี Wine Expert ตัวจริง ในแต่ละด้านมาเป็นวิทยากร เพื่อให้ความรู้ในมิติต่างๆ เช่น การเก็บไวน์ให้มีคุณภาพที่เหมาะสม การลงทุนในไวน์ และมูลค่าของการจัดเก็บไวน์ในระยะยาว พร้อมการรักษาคุณภาพไวน์ในระดับพรีเมี่ยม โดยแนะนำและชูจุดเด่นของ  LEO COLDBOTIC & LEO WINE STORAGE ในการใช้เทคโนโลยีมาควบคุมอุณหภูมิและควบคุมความชื้นที่เหมาะสมได้อย่างแม่นยำ ให้กับลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการและไวน์เลิฟเวอร์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้นำเข้าไวน์ ผู้บริหารธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และผู้ลงทุนรายใหญ่ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการจัดเก็บไวน์อย่างถูกต้อง เนื่องจากการเก็บรักษาไวน์ที่ดีทำให้สามารถส่งมอบรสชาติไวน์ที่คงคุณภาพได้อย่างแท้จริง

ในช่วง CEO Talk: Why LEO COLDBOTIC & LEO WINE STORAGE? From Feature to Benefits โดย คุณเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ Chief-Executive Office/Founder ของ LEO Global Logistics ก็ได้กล่าวถึงบริการจาก LEO Global Logistics อย่าง LEO COLDBOTIC & LEO WINE STORAGE ที่ได้ชูจุดแข็งที่จะมาช่วยตอบโจทย์ให้กับเหล่าผู้ประกอบการและผู้ที่รักในการจัดเก็บไวน์ ทั้งในแง่ข้อได้เปรียบทั้งทำเลและเครือข่ายจากพาร์ทเนอร์ทั่วทั้งโลก รวมไปถึงในแง่ของประสิทธิภาพและประโยชน์ที่บริการนี้จะตอบโจทย์กับโอกาสทางตลาดไวน์หรืออุตสาหกรรมของร้านอาหารหรือโรงแรมในภาพรวม

บนเวทีเสวนา ได้ อ.ไพรัช อินทะพุฒ ผู้ก่อตั้งและนายกสมาคมซอมเมอร์ลิเย่แห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ระดับประเทศ , คุณกัปตันแหลม – นภสูร ชยันตรดิลก เจ้าของร้าน Bangkok Wine Bar ตัวแทนผู้ประกอบการผู้นำเข้าไวน์ และ อ.วงศ์สถิตย์ แก้วนาค ตัวแทนผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ระดับประเทศ มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากด้านไวน์โดยเฉพาะ โดยที่ดำเนินการเสวนานี้โดย คุณอนันต์ ลือประดิษฐ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ The People

ในแง่มุมของอายุไวน์ (Wine Aging) ที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนารสชาติและคุณภาพของไวน์โดย อ. ไพรัช อินทะพุฒ ก็ได้อธิบายถึงปีนี้ ในฐานะปีที่เป็นขาขึ้นของอุตสาหกรรมไวน์ แต่ถ้าจะยกระดับโอกาสในครั้งนี้ไปยิ่งกว่าเดิม การเก็บรักษาและการมองไวน์ในฐานะ ‘สิ่งมีชีวิต’ ก็ถือเป็นกระบวนการที่สำคัญยิ่ง โดยเฉพาะการจัดเก็บไวน์อย่างสมดุลเพื่อเอื้อต่อการเจริญไวน์และหลีกเลี่ยงต่ออันตรายทั้ง 5 ที่จะทำให้คุณภาพของไวน์เสื่อมถอย ตั้งแต่แสง อุณหภูมิ การสั่นสะเทือน กลิ่น และความชื้น ดังนั้นการจัดเก็บไวน์แบบมีคุณภาพและห่างจากภัยเหล่านี้ได้ ไวน์ในขวดก็จะเติบโตไปอย่างมีคุณภาพและไม่เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

ในส่วนของกิจการร้านอาหารอย่าง คุณกัปตันแหลม – นภสูร ชยันตรดิลก ที่ได้ว่าด้วยเรื่องของไวน์ในมิติของการลงทุนและตลาดของไวน์ในไทย ก็ได้กล่าวว่าในยุคสมัยนี้คึกคักขึ้น เพราะคนรุ่นใหม่เริ่มหันมาดื่มไวน์มากขึ้น ซึ่งเป็นทั้งประโยชน์และโอกาสต่อตลาดของไวน์และผู้ประกอบการเองด้วย และเมื่อพูดถึงการลงทุนในไวน์ (Wine Investment) การจัดเก็บไวน์ในโกดังที่มีทำเลที่เหมาะสมและได้เปรียบในเชิงเก็บรักษา ก็จะนำไปสู่ความเชื่อใจในการลงทุนมากกว่าเดิม โดยเฉพาะการลงทุนในไวน์ที่มีราคาสูง ที่ตามมาด้วยความละเอียดอ่อนที่ต้องใส่ใจไม่น้อย นอกจากนั้น คุณกัปตันแหลมก็ได้แบ่งเทคนิคในการลงทุนในไวน์เป็นสามประเภทที่ประกอบไปด้วย ไวน์กิน ไวน์เก็บ และไวน์บูชา ซึ่งทั้งไวน์เหล่านั้นก็ล้วนอาศัยการจัดเก็บที่มีคุณภาพ

สำหรับ อ.วงศ์สถิตย์ แก้วนาค ที่ได้กล่าวถึงความสำคัญของการมีโกดังเก็บรักษาไวน์ในธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม ก็ได้กล่าวไปในทางเดียวกันว่าตลาดของไวน์กำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสให้กับผู้ประกอบการไวน์ โดยเฉพาะในแง่ของการนำเข้าไวน์จากประเทศอื่น ๆ ที่มักไม่ถูกนำเข้ามาในประเทศมากนัก แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือฟังก์ชั่นในการเก็บไวน์ที่เป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมากในการยกระดับคุณภาพของร้านอาหาร อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อกลไกดำเนินธุรกิจหลังบ้าน โดยเฉพาะในการรักษาคุณภาพและการประหยัดต้นทุน  

สำหรับงานในครั้งนี้ เพื่อให้บุคคลในวงการไวน์ ทั้ง ผู้นำเข้าไวน์,กลุ่มธุรกิจลูกค้าโรงแรม,ร้านอาหาร HoReCa (Hotels Restaurants & Catering) และ นักสะสมไวนในกลุ่ม Fine Wine ที่ได้มารวมตัวกันครั้งสำคัญ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กลุ่มเป้าหมายหรือผู้มีความสนใจด้านไวน์ ได้รับรู้ถึงความตั้งใจในการเปลี่ยนโฉมมาตรฐานให้อุตสาหกรรมไวน์และพัฒนา Wine Community ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการเก็บรักษาไวน์ที่ดีที่สุดในประเทศของ LEO COLDBOTIC  และ LEO WINE STORAGE อย่างแท้จริง