ตามที่ปรากฏข่าวสารว่า “ชาวบ้านร้องเรียน เหตุพนังป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี ของกรมโยธาธิการและผังเมือง งบประมาณกว่า 40 ล้านบาท เกิดการทรุดตัวระยะทางยาวกว่า 120 เมตร ชาวบ้านผวาหวั่นเกิดการพังทลาย ในฤดูน้ำหลาก มวลทะลักท่วมพื้นที่การเกษตรและที่พักอาศัย เรียกร้องส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข”

วันที่ 25 พ.ย.2567 นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า โครงการที่ปรากฏในข่าว คือ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี (จุดที่ 1) บ้านคุยค้อ หมู่ที่ 6, หมู่ที่ 11, หมู่ที่ 17 ตำบลดินดำ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างค้ำประกันผลงานก่อสร้าง จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักสนับสนุนและพัฒนาตามผังเมือง พบว่า ความเสียหายในภาพข่าว เป็นทางเท้า ราวกันตกบนสันเขื่อน เกิดการทรุดตัวเสียหาย ความยาวประมาณ 120 เมตร ซึ่งเป็นองค์ประกอบส่วนบนของสัญญาจ้างโครงการก่อสร้างเขื่อนเรียงหินใหญ่ ซึ่งในช่วงเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุอุทกภัยจากพายุ “ดีเปรสชัน” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ระดับน้ำในแม่น้ำชีมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นท่วมเสมอแนวสันเขื่อน และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ด้านหลังบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ ช่วงเดือนต่อมาระดับน้ำในแม่น้ำชีได้ลดลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว จึงเป็นเหตุให้โครงสร้างเขื่อน ทางเท้า ราวกันตกเกิดการทรุดตัว จึงส่งผลกระทบต่องานส่วนบนเขื่อนให้ได้รับความเสียหายตามไปด้วย ปัจจุบันกรมฯ ได้ดำเนินการสั่งปรับพื้นที่ในส่วนดินถมหลังเขื่อนที่ประชาชนใช้เพื่อการเกษตรให้ใช้ได้ชั่วคราว และปิดกั้นพื้นที่โดยรอบบริเวณที่เสียหาย เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ สำนักสนับสนุนและพัฒนาตามผังเมือง ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่และผู้ออกแบบเข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่ เจาะสำรวจสภาพชั้นดิน เพื่อวิเคราะห์การพังเสียหายของเหตุการณ์ครั้งนี้ และจะทำการออกแบบแก้ไขพร้อมให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการซ่อมแซม เพื่อให้เกิดความมั่นคงแข็งแรงและสามารถใช้งานได้ดังเดิมให้ต่อไปโดยเร็ว