วันที่ 25 พ.ย.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหารบริษัทดิไอคอน พาพยานทั้ง 200 คน พามาสอบปากคำที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อหาความบริสุทธิ์ให้ บอส ดิ ไอคอน ทั้ง 18 คน โดยจำนวน 200 คนนี้ ถือเป็นพยานล็อตแรก ที่ถูกแบ่งมาจากพยานฝั่งดิ ไอคอน ทั้งสิ้น 2,000 คน ตามที่นายวิฑูรย์ ได้เปิดเผยเอาไว้กับสื่อมวลชน
นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า พยานที่นำมาวันนี้ เป็นพยานที่จะมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของ บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป และผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ว่าบริษัทและบอส ไม่เคยมีพฤติกรรมฉ้อโกงประชาชน และตัวแทนที่มาวันนี้เป็นตัวแทนที่ยังขายสินค้าอยู่ แต่ได้รับผลกระทบจากคดีที่เกิดขึ้น ทำให้ขายสินค้าไม่ได้ทั้งยังมีพยานในต่างจังหวัดที่ไม่ได้เดินทางมา แต่ส่งมาเป็นเอกสาร ประมาณ 1 ลัง และก็จะมีมาเรื่อยๆ จากทั่วประเทศส่วนในต่างประเทศอาจจะส่งเอกสารตามมา แต่คงไม่เดินทางเข้ามา แต่หากใครจะบินมาก็ยินดีทั้งนี้ยอมรับว่า ไม่รู้ว่า จะสอบสวนเสร็จทันสรุปสำนวนวันที่ 3 ธันวาคม หรือไม่
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า เราต้องนำข้อเท็จจริงดีๆ และเป็นประโยชน์กับผู้ต้องหาทั้ง 18 คน เข้าไปบ้าง ไม่อย่างนั้นสำนวนจะมีแค่ฝั่งของผู้กล่าวหา เพราะชั้นสอบสวน ทางดีเอสไอ จะต้องวางตัวเป็นกลาง ต้องพิจารณาทั้งความผิด และความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา ตนจึงพยายามนำความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาเข้าไปบ้างเพื่อให้เกิดการช่างน้ำหนัก ไม่อย่างนั้นภาระจะไปตกอยู่ที่ศาลอย่างเดียว ส่วนการสอบสวน ทางดีเอสไอ ก็ไม่ได้รับปากว่า จะมีการเตรียมพนักงานสอบสวนไว้ อย่างไรหรือไม่ ตนจึงพาพยานบุกเข้ามาเลย หากวันนี้สอบไม่ครบ 200 คน พรุ่งนี้ และวันต่อไป ก็จะนำมาอีก จนกว่าจะถึงวันที่ 3 ธันวาคม
ถามว่า มีอะไรมายืนยันความบริสุทธิ์ได้บ้าง นายวิฑูรย์ เผยว่า ตนได้ให้การไปในบันทึกแล้วว่า บริษัทไม่ได้บังคับให้ซื้อสินค้าไปขายและไม่ได้หลอกลวงให้ซื้อสินค้าไปขาย และสินค้าก็ได้มาตรฐานบางคนขายได้ บางคนขายไม่ได้ แต่วันนี้สังคมฟังความเพียง 10,000 คน ใน 100,000 คนที่มาแจ้งความ คนที่ขายได้ มีมากกว่า และสินค้าไม่มีค้างสต๊อก ส่วนพยาน 20 ปากที่เคยพามาก่อนหน้านี้ ขณะนี้ก็ยังไม่ได้สอบปากคำ เพราะทางดีเอสไอ บอกให้ไปทำบัญชีพยาน ซึ่งขณะนี้ตนทำบันทึกไว้และเตรียมจะส่งกลับ 449 คน แล้ว เพราะมีการทยอยมาเรื่อยๆ ซึ่งตนต้องตัดเป็นยอดรายวัน
ส่วนพยานที่มาสอบปากคำกับดีเอสไอ และมีการอัดเสียงไว้ นายวิฑูรย์ บอกว่า กลุ่มนั้นเป็นพยานที่ทางดีเอสไอ ออกหมายเรียกเป็นกลุ่มพวกแม่ทีม และถูกทางเจ้าหน้าที่ชี้นำในการตอบ ซึ่งพยานกลุ่มนั้นได้มีการอัดเสียงไว้ และขณะนี้ยังไม่มีผู้ใหญ่คนไหนติดต่อมาขอคลิปดังกล่าว ซึ่งตนกำลังทำเรื่องส่งคลิปไปยัง 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้ตรวจการแผ่นดิน และสุดท้าย รอส่งอัยการ ตอนที่ส่งคำร้องขอความเป็นธรรม
แอนนี่ อายุ 42 ปี ชาวบุรีรัมย์ เป็นหนึ่งในตัวแทนของพยานดิไอคอน ที่มาเป็นพยานในวันนี้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ได้เข้าร่วมธุรกิจดิไอคอนตั้งแต่ปี 2562 ยืนยันว่าเป็นระบบการเรียนรู้สอนให้คนทำมาหากิน ให้มีความประสบความสำเร็จ ในทางออนไลน์ ก่อนหน้านี้ตนเป็นแม่ค้าในตลาด จึงมีความสนใจธุรกิจออนไลน์จึงเข้าร่วมกับดิไอคอน รายได้ล่าสุด ต่อเดือนอยู่ประมาณ 30,000 บาท ในแต่ละเดือนจะได้ไม่แน่นอน แต่พอมีคดีความก็ทำให้สินค้าขายได้น้อยลงเพราะคนไม่เชื่อใจทำให้ตนได้รับผลกระทบ