เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “พรรคประชาชนเปิดหน้าชนพรรคเพื่อไทย” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองในปัจจุบันระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทย เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
เมื่อถามประชาชนถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการวิวาทะระหว่างพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยที่ผ่านสื่อในขณะนี้ พบว่า
ร้อยละ 45.27 ระบุว่า เป็นแค่ละครทางการเมืองฉากหนึ่ง เพราะการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร
ร้อยละ 29.16 ระบุว่า เป็นแค่ความพยายามที่จะเพิ่มคะแนนเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น
ร้อยละ 17.10 ระบุว่า เป็นเรื่องจริงจังว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันแน่นอนในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ร้อยละ 8.47 ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สำหรับความเป็นไปได้ที่พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยจะจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า
ร้อยละ 36.72 ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลย
ร้อยละ 32.37 ระบุว่า ค่อนข้างเป็นไปได้
ร้อยละ 17.71 ระบุว่า เป็นไปไม่ค่อยได้
ร้อยละ 13.20 ระบุว่า เป็นไปได้มาก
ด้านความเชื่อที่ว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวที่สามารถต่อสู้กับพรรคประชาชนได้ พบว่า
ร้อยละ 27.86 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ
ร้อยละ 25.88 ระบุว่า เชื่อมาก
ร้อยละ 23.89 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ
ร้อยละ 20.69 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย
ร้อยละ 1.68 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สำหรับความเป็นไปได้ต่อคำกล่าวของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ สส. เกิน 200 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า
ร้อยละ 34.20 ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลย
ร้อยละ 27.25 ระบุว่า ค่อนข้างเป็นไปได้
ร้อยละ 24.58 ระบุว่า เป็นไปไม่ค่อยได้
ร้อยละ 12.29 ระบุว่า เป็นไปได้มาก
ร้อยละ 1.68 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นต่อบุคคลที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง (เช่น นายทักษิณ ชินวัตร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายชัยธวัช ตุลาธน) ขึ้นเวทีหาเสียงในฐานะผู้ช่วยหาเสียง พบว่า
ร้อยละ 46.49 ระบุว่า ไม่เป็นไรเพราะกฎหมายไม่ได้ห้าม
ร้อยละ 22.75 ระบุว่า ถึงกฎหมายไม่ห้ามก็ไม่สมควรขึ้นเวทีหาเสียง
ร้อยละ 14.35 ระบุว่า ควรแก้กฎหมายห้ามไม่ให้ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองขึ้นเวทีหาเสียง
ร้อยละ 12.29 ระบุว่า ควรแก้กฎหมายยกเลิกการตัดสิทธิทางการเมือง
ร้อยละ 4.12 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ