ถือเป็นคู่รัก LGBTQ (ยูริ) ที่ประสบความสำเร็จ สำหรับ "เรย่า- รัชยา นิลกรรณ์" เจ้าของธุรกิจ Rayya Tax Agent จากประเทศออสเตรเลีย และ “แทม - ณัฐฐิมณฐ์ แสนยามาศ” ที่กล้าออกมากแสดงจุดยืนจับมือจัดพิธีมงคลสมรสศักดิ์สิทธิ์ นำร่องก่อนประกาศใช้ พ.ร.บ. สมรสท่าเทียม ปลุกกระแสให้กับคู่รัก LGBTQ โดยในงานยังได้รับเกียรติจาก “ซัน” สิทธวีร์ ธีรกุลชน ผู้ก่อตั้งกลุ่มลำธารสีรุ้ง ตัวแทนกลุ่มคริสเตียน LGBTQIA+ เป็นประธานในการทำพิธี พร้อมด้วย นางสาววาดดาว - อรรณว์ ชุมาพร ประธาน และผู้ก่อตั้ง นฤมิตไพรด์ผู้จัดงาน “Bangkok Pride” (บางกอกไพรด์) และกรรมาธิการสมรสเท่าเทียมภาคประชาชน และ “ลูกนัท” นงนภัส จรเจริญ ตัวแทนคู่รัก LGBTQ เข้าร่วมอวยพรพร้อมอัพเดทความคืบหน้าของพ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมที่เตรียมประกาศใช้ในวันที่ 22 มกราคม 2568 ณ ห้องจูปีเตอร์ 11-13 ชั้น 1 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
"เรย่า- รัชยา นิลกรรณ์" เผยว่า “ สำหรับพิธีการแต่งงานครั้งนี้ได้จัดเตรียมมาหลายเดือน เป็นพิธีมอบแหวานตามแบบคริสเตียน เนื่องจากเรานับถือพระเจ้าและเชื่อว่าความรักจากพระเจ้าเป็นความรักแบบไม่มีเงื่อนไข เราอยากให้พระเจ้าเป็นสักขีพยานและปกป้องความรักของเราให้อยู่เป็นนิรันดร์ ซึ่งการที่เราจัดพิธีครั้งนี้ไม่ได้ทำตามกระแสของสมรสเท่าเทียม แต่เป็นความบังเอิญจริงๆ และที่ประเทศออสเตรเลียก็ยอมรับมานานแล้ว แต่เป็นการดีที่เราถือโอกาสได้เป็นคู่ตัวอย่างให้กับคนไทยได้กล้าออกมาแสดงความรักกับคู่รักของตัวเอง โดยเราได้จัดงานครั้งนี้แบบถูกต้องทั้งในด้านพิธีกรรม จิตวิญญาณ และเร็วๆนี้จะมีเรื่องของกฎหมายมารองรับด้วย หลังจากแต่งงานเรามีแพลนที่จะไปอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เพราะที่นั่นยอมรับเรื่องทะเบียนสมรสของประเทศไทยด้วยถือเป็นสากลทั้งโลก ทำให้เรากล้าที่จะพาเจ้าสาวแทมมี่บินไปอยู่ที่นั่นและขอสัญชาติออสเตรเลียได้จากการที่เราจดทะเบียนสมรสในประเทศไทย
แทม - ณัฐฐิมณฐ์ แสนยามาศ เผยต่อว่า” เราอยากเป็นตัวแทนให้กับคู่รักของคนไทยที่กล้าออกมาแสดงความรัก เพราะความรักเป็นสิ่งสวยงาม การที่เรามีความรักมอบให้กันอยากดูแลและสร้างครอบครัวไปด้วยกัน ไม่ใช่สิ่งที่ผิด ไม่ใช่สิ่งที่น่าละอาย เราไม่ต้องกลัว ขอแค่เรามีความมั่นใจและกล้ายืนหยัดในความรักของคนสองคนค่ะ
งานนี้ “ซัน” สิทธวีร์ ธีรกุลชน ผู้ก่อตั้งกลุ่มลำธารสีรุ้ง ตัวแทนกลุ่มคริสเตียน LGBTQIA+ เข้าร่วมเป็นนายพิธีทางศาสนา เผยถึงการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับกลุ่ม LGBTQIA+ ที่มีความเชื่อในพระเจ้า สนับสนุนให้คริสตจักรหันมาทำความเข้าใจเรื่องเพศหลากหลาย และศึกษาพระคัมภีร์ในมุมมองใหม่ว่า “ส่วนตัวผมไม่ค่อยได้รับเป็นนายพิธีให้กับคนที่ไม่รู้จัก แต่สำหรับเรย่าผมทราบว่าเขาได้เคยขอจัดพิธีในโบสถ์แต่ถูกปฎิเสธ เพราะเป็นงานสมรสเพศเดียวกัน พอผมได้ฟังทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจ และหนักใจอย่างมาก และคิดว่านี่ไม่ใช่งานแต่งงานทั่วไปผมคิดว่าพระเจ้าเรียกร้องให้ผมตอบรับและนี่ไม่ใช่งานแต่งงานแบบธรรมดา ผมมาเพื่อเป็นสักขีพยานเป็นตัวแทนของศาสนาคริสต์ ผมอยากจะมายืนยันว่าการแต่งงานแบบนี้ ความรักแบบนี้เป็นความรักที่พระเจ้าชอบใจและผมคิดว่าพระเจ้าจะอวยพรให้กับงานแบบนี้ สำหรับกลุ่มลำธารสีรุ้งของเรา เป็นกลุ่มคริสเตียนที่เชื่อว่า เราเป็น LGBTQIA+ ไปพร้อมกับการเป็นคริสเตียนได้ 100% เราไมได้มีข้อกังขาว่าเราเป็นไมได้ แล้วเราอยากยืนยันว่าการเป็น LGBTQ ไม่ได้เป็นความผิดปกติ ความชั่วร้าย ไมได้เป็นการตีความพระคัมภีร์ที่ผิดแต่อย่างไร แต่ว่าเราพยายามเข้าใจและสร้างความเข้าใจใหม่ว่าเรามีการตีความพระคัมภีร์ตามแบบวิชาการ อ้างอิงตามวิทยาศาสตร์ อ้างอิงหลักฐาน มันสามารถตีความใหม่มีมุมมองใหม่ เราอยากเป็นตัวแทนของคริสเตียนว่าพระเจ้าของเรารัก LGBTQมาก สุดท้ายผมอยากสื่อสารถึงคนทางศาสนา ว่าผมเองทำงานในวงการศาสนามานาน หนึ่งสิ่งที่ช่วยได้มากคือการที่เรามีความสัมพันธ์กับพี่น้อง LGBTQ หลายคนถ้าได้รู้จักกับพี่น้องเหล่านี้เป็นส่วนตัว เป็นเพื่อนสนิท ผมเชื่อว่าคุณจะได้เห็นความรักในมุมมองใหม่ เขาเป็นคนที่มีจิตใจดีมาก หลายครั้งที่เรามองเค้าทางศาสนาด้วยเลนส์ตรรกกะ โลว์จิกส์ต่าง ๆ ในการตัดสิน แต่ถ้าเรามองด้วยเลนส์ของความสัมพันธ์เชื่อว่าเราจะได้เห็นในเลนส์ของมุมมองใหม่ว่าชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างไร และมีความรักที่เหมือนคริสเตียนได้มากแค่ไหน หลายครั้งที่องค์กรศาสนาทำร้ายจิตใจของคนมาก และครั้งนี้ผมอยากเป็นตัวแทนในการกล่าวคำขอโทษ และอวยพรให้กับความรักของทุกคู่ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานคริสตจักรจะเปิดรับมากขึ้น และทางกลุ่มของเราจะช่วยกันขับเคลื่อนเรื่องนี้ด้วย และความรักของเรย่าและคุณแทมจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายคู่ที่คิดจะเปิดตัวรวมทั้งจดทะเบียนสมรสและแต่งงานครับ”
ด้าน วาดดาว - อรรณว์ ชุมาพร ประธาน และ ผู้ก่อตั้ง นฤมิตไพรด์ ในฐานะผู้จัดงาน “Bangkok Pride” (บางกอกไพรด์) และกรรมาธิการสมรสเท่าเทียมภาคประชาชน เผยถึงความคืบหน้าของการจัดงาน เฉลิมฉลองงาน “แต่งงาน คู่รัก LGBTQIAN+” และจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม Celebration of Love ประกาศชัยชนะวันแห่งประวัติศาสตร์ ว่า “จริง ๆ เราเคลื่อนไหวเรื่องนี้มา 10 กว่าปี อยากจะเห็นภาพวันนี้ค่ะ เห็นภาพที่มีความหมายความรักของทั้งคู่จริง ๆ การที่เราเคลื่อนไหวทาง สว.ผ่าน นั่นหมายถึงหน้าที่ของเราเสร็จสิ้นในวันนั้น และต่อไปคือหน้าที่ที่ทุกคนจะต้องพิสูจน์ให้สังคงเห็นว่าไม่ว่าใคร เพศไหนก็มีสิทธิ์ที่จะแต่งงานกัน สามารถสร้างความรัก สร้างครอบครัวได้ เหมือนที่คุณเรย่าบอกว่ากฎหมายสำคัญมากที่จะคุ้มครองคู่รักของเค้าไปถึงเมืองนอก ซึ่งหัวใจของกฎหมายที่สำคัญ คือทำให้พวกเรามีศักดิ์ศรี ของความเป็นมนุษย์ อย่างเมื่อก่อนการที่เรากล้าจัดงานแต่งงาน กล้าเช่าสถานที่ กล้าแจกการ์ด มันไม่ใช่แบบวันนี้ เราเป็น LGBTQ มาตลอดชีวิตเราไม่ได้เป็นตอนกฎหมายผ่าน มันคือศักดิ์ศรีทั้งหมด ซึ่งเราขอแสดงความยินดีด้วยคุณเรย่าและคุณแทมถือเป็นคู่ตัวอย่างคู่แรก ๆ หลังจากที่กฎหมายผ่าน ได้แต่งงานหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจ เคยไหมคะหลายคนเคยจับมือ และแอบปล่อยมือเพราะกลัวว่าคนจะมองเราแต่หลังจากนี้แหละก็จะกล้าจับมือกันสร้างความรัก สร้างสังคม สร้างครอบครัวไปด้วยกันค่ะ หัวใจสำคัญของการต่อสู้มา 12 ปีเพื่อที่จะเห็นภาพวันนี้ค่ะ
สำหรับวันที่ 23 มกราคม 2568 จะเป็นวันสำคัญมาก เพราะก่อนหน้านี้เมื่อคนเพศเดียวกันจับมือไปที่อำเภอเพื่อขอจดมทะเบียนสมรสจะถูกปฏิเสธ แต่หลังจากนี้ อำเภอทั้งหมด 878 อำเภอ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานครจะไม่มีเงื่อนไขนี้อีกต่อไป ตั้งแต่วันนี้ไม่ว่าคำนำหน้านามว่าอะไรก็จะสามารถจดทะเบียนสมรสได้ เป็นวันแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่อนุญาตให้ทุกคนจดทะเบียนสมรสได้ เราเลยมีความตั้งใจว่าจะจัดงานและจะเชิญทุกคู่ มาร่วมยืนยันและเฉลิมฉลองความรักร่วมกันจะจัดตั้งแต่ 8.30 – 16.00 น. โดยเราจะจัดยิ่งใหญ่ที่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีท่านผู้ว่ากรุงเทพมหานคร และนายกรัฐมนตรีมาร่วมงานด้วย เพื่อที่จะประกาศประวัติศาสตร์ของวันนี้ เราคาดหวังว่าจะมีมากกว่า 1,000 คู่ และหลังจากนั้นทุกสำนักงานเขต และทุกอำเภอจะจัดงานขึ้นพร้อมกัน และจะมีการจัดยิ่งใหญ่ที่จังหวัดภูเก็ต บริเวณป่าตอง รวมทั้งภาคเหนือ และภาคอีสานอีกด้วย
ด้าน ลูกนัท- นงนภัส จรเจริญ ตัวแทนของชาว LGBTQ ได้มอบแง่คิดด้านความรักปิดท้ายว่า “การที่เราจะคบกันได้ยาวๆ เราต้องยอมรับกันและกันได้แม้ในวันที่เค้าไม่น่ารัก เราต้องหาตรงกลางของกันและกันวันนี้อาจจะเป็นตรงกลางของเรา และอีกวันอาจเป็นตรงกลางทางฝั่งเค้า แต่สุดท้ายถ้าเราหาตรงกลางระหว่างกัน และยอมรับซึ่งกันและกันจะทำให้ชีวิตรักของเรายืนยาว”
ทั้งนี้ร่วมลงชื่อในแบบฟอร์มรับสมัครคู่รักสมรสเท่าเทียม ในเพจบางกอก ไพรด์ ผ่านแบบฟอร์ม https://www.support1448.org/lovewins/ เพื่อร่วมสร้างประวัติศาสตร์จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมหมู่ครั้งแรกของประเทศไทยไปด้วยกัน