วันที่ 5 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางประไพ อายุ 61 ปี อยู่ ม.6 ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.คุณิตา จุโฬทก พงส.สภ.เมืองลพบุรี ว่า ตนเองเป็นเจ้าของบ้านเช่า เดินทางมายังโรงพักเมืองลพบุรี เพื่อจะแจ้งความกับนายเอ (นามสมมุติ) สามีผู้เช่าห้องพักของตนเองหลัง ได้ทำร้ายร่างกาย นายสงกรานต์ อายุ 35 ปี อยู่หมู่ 6 ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี  ตนได้ว่าจ้างมาทำการซ่อมประปา และเป็นหลานชายของนางประไพ เจ้าของบ้านเช่า ตามให้มาซ่อมประปาที่ห้องเช่าที่ทางภรรยาของนายเอ เช่าอยู่ แต่เกิดเข้าใจผิดกันคิดว่าช่างซ่อมประปาเป็นชู้กับภรรยาเลยทำร้ายร่างกายจนสบักสบอม วิ่งหนีออกมาได้

จากนั้น จนท.ตำรวจตามตัวนายเอ มาทำการสอบสวนนายเอ รับสารภาพว่า ได้ทำร้ายช่างจริง นายเอ กล่าวอีกว่าตนกับภรรยาของตนเองได้เช่าห้องพักอยู่ที่ห้องพักที่มีเรื่องดังกล่าว ตนเองได้พยายามโทรหาภรรยาหลายครั้งแต่ภรรยาไม่รับสายเลยขับรถจักรยานยนต์เข้ามาดูที่ห้องเช่าพบนายสงกรานต์ อยู่ที่ห้องด้วยตนเกิดความหึงหวงเลยได้แตะทำร้ายนายสงกรานต์ คิดว่ามีอะไรกับภรรยา 

นายเอ กล่าวอีกว่า ตนเองเมื่อทราบความจริงก็ได้กราบขอโทษเจ้าของหอพักและนายสงกรานต์ในเรื่องที่ตนเองเข้าใจผิดและใจร้อนเกินไป ซึ่งทางเจ้าของหอและทางนายสงกรานต์ ก็ยกโทษให้พร้อมไม่แจ้งความเอาเรื่อง

ด้านนางประไพ เจ้าของบ้านเช่า เปิดเผยว่า ผู้เช่าห้องได้แจ้งว่าน้ำประปาเสีย ตนเองจึงได้โทรตามให้หลานชายคือนายสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่างซ่อมน้ำประปามาทำการซ่อมให้ที่ห้องดังกล่าว แต่สามีเจ้าของห้องมาพบและเกิดหึงห่วงคิดว่าหลานชายเป็นชู้กับภรรยาของนายเอ และไม่พูดอะไรเข้าแตะหลานชายตนเองหลายครั้งและไม่ฟังคำพูดของหลานชาย ขนหลานชายวิ่งหนีมาฟ้อง แต่เมื่อผู้ก่อเหตุสำนึกผิดไหว้ขอโทษตนเองก็ไม่ติดใจเอาความและไม่แจ้งความเอาผิด แต่มีข้อแม้ว่าไห้นายเอย้ายไปอยู่ที่อื่นและ ห้าม เข้าไปเหยียบในซอย บ้านเช่าของตนเองอีกหากเข้าไปตนเองจะจัดการให้หนัก ซึ่งตำรวจเองก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนไป ทำให้เรื่องจบลงด้วยดี