นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้หญิงไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูกในอัตราที่สูง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กำหนดเป้าหมายในการลดจำนวนผู้ป่วยลง และสนับสนุนให้หญิงไทยที่มีอายุระหว่าง 30-59 ปี เข้าถึงบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีเอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์ (HPV DNA test) ซึ่งเป็นวิธีตรวจมะเร็งปากมดลูกโดยตนเองที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า สะดวก ช่วยให้สามารถตรวจพบผู้ป่วยในระยะแรกเพิ่มขึ้น และเข้าสู่การรักษาได้เร็วก่อนที่จะลุกลาม ทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลง กรณีไม่พบเชื้อจะเข้าสู่กระบวนการคัดกรองทุก 5 ปี และกรณีที่ตรวจพบเชื้อมะเร็ง จะทำการตรวจซ้ำเพื่อยืนยันผล และเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองอีกครั้งเพื่อเข้าสู่การรักษาต่อไป

คณะกรรมการการเคหะแห่งชาติให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และมอบหมายให้การเคหะแห่งชาติประสานความร่วมมือกับบริษัท แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 ให้กับผู้หญิงไทยที่มีอายุระหว่าง  30-59 ปี ที่อาศัยอยู่ในชุมชนของการเคหะแห่งชาตินำร่อง 5 โครงการ ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนดินแดง โครงการเคหะชุมชนรามอินทรา โครงการเคหะชุมชนห้วยขวาง โครงการเคหะชุมชนทุ่งสองห้อง และโครงการเคหะชุมชนยมราช (สิริสาสน์) เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมถึง ธันวาคม 2567 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ และจะขยายผลไปยังพื้นที่ชุมชนอื่น ๆ ของการเคหะแห่งชาติต่อไป 

นายทวีพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มองว่าการทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรก และให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพเป็นลำดับถัดมาหรือลำดับท้ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไปโรงพยาบาลจะต้องใช้เวลาทั้งวัน คนส่วนใหญ่จึงไม่ไปพบแพทย์หากไม่มีปัญหาด้านสุขภาพจริง ๆ การเคหะแห่งชาติขอขอบคุณ สปสช. และบริษัท แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) ในการให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการดูแลด้านสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติถึงที่ตั้งโครงการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น”