จากกรณีคนร้ายบุกเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงพรุนเจ้าของฟาร์มวัวถึงในบ้านพักดับคาที่นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเมื่อ 3 วันก่อน จนมีอดีตภรรยาเดินทางมาพบแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีปัญหากับชาวบ้านเรื่องผู้ตายปล่อยวัวรุกล้ำเข้าไปกินพืชผลเกษตรของชาวบ้านหลายรายจนเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นโรงพักกันตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 30 ต.ค.67 นายสุนันท์ อายุ 62 ปี อยู่หมู่ 12 ตำบลครน อ.สวี จ.ชุมพร เดินทางมายัง สภ.สวี โดยนำอาวุธปืนสั้นขนาด.38 มม.(ลูกโม่) เพื่อเข้ามอบตัวรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงนายนิยม อายุ 62 ปี เจ้าของฟาร์มวัว ในพื้นที่หมู่ 12 ตำบลครน อ.สวี จ.ชุมพร เสียชีวิตเมื่อ วันก่อน โดยมีลูกชาย นักการเมืองท้องถิ่นและทนายความ ติดตามมาด้วย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนควบคุมตัวเข้าห้องสืบสวน สภ.สวี ก่อนจะเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ต.ชินวงศ์ อินทร์ทอง สว.(สอบสวน) โดยมีลูกชาย นักการเมืองท้องถิ่น และทนายความติดตามอย่างใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสาเหตุในการก่อเหตุแต่ผู้ต้องหาเพียงแค่ยิ้มให้และไม่ได้พูดอะไร

ด้าน พ.ต.อ.วิษณุ สุระวดี ผกก.สภ.สวี เปิดเผยว่า นายสุนันท์ รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากก่อนหน้าเกิดมีปากเสียงกับผู้ตายมาหลายครั้งเรื่องผู้ตายมักจะปล่อยปะละเลยให้วัวที่เลี้ยงไว้รุกเข้าไปกินพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะกัดกินต้นทุเรียนที่กำลังโตหลายครั้งอยู่ในระหว่าตกลงค่าเสียหาย และยังจ่ายเงินกันไม่ครบ จนกระทั่งคืนก่อนเกิดเหตุวัวของผู้ตายก็เข้าไปกัดกินต้นทุเรียนอีก ตอนเช้าผู้ก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์โดยนำอาวุธปืนติดตัวไปด้วยเข้าไปพูดคุยเจราจา อาจจะมีคำพูดทำร้ายจิตใจกัน จนกระทั้งเกิดบันดาลโทสะชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงจนนายนิยม เสียชีวิต ก่อนจะขับรถหลบหนีไป 

หลังจากนี้พนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ที่สาธารณะ  ส่วนอาวุธปืนที่ผู้ต้องหานำมานั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งยังต้องรอผลพิสูจน์จากโรงพยาบาลที่นำศพไปผ่าพิสูจน์ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลจังหวัดหลังสวน ซึ่งหลังจากนั้นทางญาติผู้เสียหายยื่นประกันตัวชั่วคราวอย่างไรก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาลต่อไป”

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดดอนทราย หมู่ 4 ตำบลวิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร เพื่อพบอดีตภรรยาและเป็นที่ตั้งสวดศพนายนิยม บรรยากาศเงียบเหงาแต่ไม่พบ พบเพียงญาติฝ่ายอดีตภรรยา โดยบอกว่าเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ได้เจอกับผู้ตายบ่อยนักหลังจากทั้งคู่เลิกกันมาหลายปี แต่รับว่าอดีตภรรยาผู้ตายยังไปเยี่ยมเยียนหากับข้าวไปให้ผู้ตายอยู่บ้างเป็นบางครั้งคราว ส่วนอุปนิสัยผู้ตายนั้นทางญาติฝ่ายอดีตภรรยาบอกว่าไม่รู้นิสัยใจคอเป็นอย่างไร