สกสค. ลงนามร่วมมือกับโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิฯ เพื่อเพิ่มช่องทางในการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพ ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา  ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยระบบการส่งต่อ (Referral System) ที่สะดวกรวดเร็ว ด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย  

ที่ โรงพยาบาลสถาบันไตโรคภูมิราชนครินทร์ ดร.พีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. พร้อมด้วย ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ยกระดับการจัดสวัสดิการและสวัสดิภาพให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีคุณภาพชีวิตที่ดี

โดยความร่วมมือดังกล่าว เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยระบบการส่งต่อ (Referral System) ซึ่งโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ มีศักยภาพสูงในการดูแลรักษาฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยโรคไต โรคตา และอื่น ๆ อีกทั้งสถานที่ตั้งใกล้กับโรงพยาบาลครูมีความพร้อมด้านเครื่องมือทางการแพทย์ ทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับความสะดวกรวดเร็วในการมารับบริการ

ดร.พีระพันธ์ เหมะรัต  เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. กล่าวว่า โรงพยาบาลครู ภายใต้การดำเนินการของ  สกสค. เป็นหน่วยให้บริการด้านสุขภาพอนามัยให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ขณะนี้ได้ยกระดับการจัดสวัสดิการให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าถึงสวัสดิการของ สกสค. เป็นการลดภาระให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยในปี 2567 สกสค. ได้มีการจัดสวัสดิการที่หลากหลาย เช่น  การตรวจสุขภาพเคลื่อนที่เชิงรุก Mobile hospital และการพัฒนาระบบการให้บริการปรึกษาการแพทย์ทางไกล        (Tele Medicine) ดำเนินการไปแล้ว 24 จังหวัด การตรวจตาและผ่าตัดต้อกระจกฟรี 77 จังหวัด มีผู้เข้ารับบริการมากว่าหมื่นราย  รวมทั้งการให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี และตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกฟรี ”

“สกสค. มุ่งเน้นการจัดสวัสดิการให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเป็นการลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ครูมีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ด้านการลดภาระครูของ พล.ต.อ. เพิ่มพูน  ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ”

ทั้งนี้ที่ผ่านมา  สกสค. ได้จัดสวัสดิการหลากหลายครอบคลุมทุกมิติ รวมทั้งด้านสุขภาพ ได้ดูแลครูที่อยู่ในสภาพติดเตียง หรือพิการในการเยี่ยมเยียนและมอบเงินช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการทำความร่วมมือของภาคีเครือข่ายจากหน่วยงานของรัฐและเอกชนในการ MOU ลงนามความร่วมมือให้บริการด้านต่าง ๆ  อาทิ บริษัท โปรเฟสชั่นแนล ลาโบราทอรี่ แมเนจเม้นท์คอร์ป จำกัด (มหาชน) ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด (ชสอ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และบริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด

เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2567 สกสค.       มีรายรับ 2,543.85 ล้านบาท รายจ่าย 2,322.75 ล้านบาท รายรับสูงกว่ารายจ่ายถึง 221.10 ล้านบาท มีการติดตามเงินจากคดี ปปง. 73 ล้านบาท ทำให้มีรายได้สุทธิ 148.10 ล้านบาท โดยปีนี้เป็นปีแรกในรอบ 10 ปี ที่ไม่เบิก/ขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนฯ      ซึ่งเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2566 แล้ว ปี 2567 มีรายได้สูงกว่า 3.2 เท่า

สกสค. จัดสวัสดิการหลากหลายครอบคลุมทุกมิติ สวัสดิการด้านสุขภาพ ได้ดูแลครูที่อยู่ในสภาพติดเตียง หรือพิการในการเยี่ยมเยียนและมอบเงินช่วยเหลือ สวัสดิการส่วนลดค่าครองชีพในการซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค จากร้านค้าและสถานประกอบการทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการกว่า 1,500 แห่ง

สวัสดิการที่พักราคาถูกที่ “หอพัก สกสค.” (หอพักสวัสดิการครู) สวัสดิการทุนการศึกษาให้แก่บุตรครู มูลนิธิทวี บุณยเกตุ ทุนละ 5,000 บาท สวัสดิการให้ทุนการศึกษาจาก CP ALL จำนวน 100 ทุน สร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครูภายใต้โครงการยกย่องผดุงเกียรติจากการมอบรางวัลพระพฤหัสบดี ดูแลครอบครัวครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นสมาชิก ช.พ.ค. - ช.พ.ส. ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 จ่ายเงินการฌาปนกิจช่วยเพื่อนครู/คู่สมรส จำนวน 10,343 ราย เป็นเงินจำนวน 7,587 ล้านบาท ซึ่งครูและบุคลากรทางการศึกษาจะได้รับรายละ 905,000 บาท และคู่สมรสได้รับ 373,000 บาท