เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ต.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามคดีดิไอคอน กรุ๊ป โดยมีพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าชุดทำคดีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  (ผบช.ก.) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค  (ผบก.ปคบ.) และคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมประชุม

 

จากนั้นเวลา 11.05 น. นายภูมิธรรม แถลงภายหลังประชุมว่า วันนี้ที่เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำคดีดิไอคอนกรุ๊ป ทั้ง ตร. ดีเอสไอ ปปง. เป็นเครื่องมือของรัฐบาล ในการที่จะอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในคดีที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน  ทั้งนี้จากรายงานของตำรวจถือว่า เราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ รับเรื่องราวร้องทุกข์จากทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด โดยทั้งหมดจะเข้าสู่เงื่อนไขที่จะต้องมอบอำนาจให้ดีเอสไอไปดำเนินการ 

 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เรามีความกังวล และอยากให้สื่อช่วยชี้แจง คือ นี่ไม่ใช่การยกคดีไปให้ดีเอสไอ แล้วผู้ที่ดำเนินการตั้งแต่ต้นจะทิ้งคดี แต่เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการสอบสวนในขณะนี้สำนวนใกล้เสร็จแล้วทั้งหมด และพร้อมยื่นให้ดีเอสไอ ซึ่งเราได้คุยกันแล้วว่าทั้ง 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือกันทำงานต่อไป ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายที่ถูกต้อง 

 

“ในวันที่ 28 ต.ค. ตำรวจจะยื่นคดีทั้งหมดให้กับดีเอสไอ ส่วน ปปง.จะดูแลเรื่องการยึดทรัพย์ต่างๆ ซึ่งคดีนี้จะเป็นคดีพิเศษ เพราะมีความเสียหายที่มีมูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท และมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก ตนขอยืนยันให้เกิดความมั่นใจกับประชาชนว่า การเปลี่ยนผ่านมือ ไปสู่อีกส่วนหนึ่งเป็นแค่การทำตามกฎหมาย แต่ทั้ง 3 หน่วยงานจะยังทำงานร่วมกัน ทั้งนี้หากติดขัดอะไร ทางฝ่ายการเมืองก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วย” นายภูมิธรรม กล่าว

 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนในการทำงานของ  สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ชี้แจงกับที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เป็นตัวแทนเข้าร่วมการประชุมในวันนี้ว่า สคบ. ถูกกล่าวหาว่ามีบุคคลเกี่ยวข้องคดี จึงไม่ให้เข้ามาเป็นคณะทำงานในเรื่องของการสอบสวน แต่จะสนับสนุนให้การสอบสวนเกิดความยุติธรรม

 

เมื่อถามว่า เมื่อมอบคดีให้กับดีเอสไอแล้วจะทำให้คดีเร็วขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า  ต้องไปดูรายละเอียดในวันที่ 28 ต.ค. แต่ยืนยันจะทำคดีให้เร็วที่สุด เชื่อว่ากระบวนการจะไม่มีอะไรสะดุด ช่วงเปลี่ยนผ่านแค่ตำรวจส่งมอบดีเอสไอ ทั้งนี้เพียงแค่วันเดียวหลังการส่งมอบดีเอสไอ จะสามารถชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการที่ได้ดำเนินการไปแล้ว   

 

เมื่อถามว่า สำหรับผลการสอบสวนจะจบเพียงแค่นี้ หรือจะมีการสอบสวนบุคคลอื่นที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มบอส นายภูมิธรรม กล่าวว่า เบื้องต้นเราได้ดำเนินการแล้ว แต่จะดูข้อกฎหมายอีกครั้ง อย่างไรก็ตามยืนยัน ถ้ายังมีส่วนใดที่เกี่ยวข้องจะไม่มีการนิ่งนอนใจ โดยจะสามารถปิดคดีได้ เพื่อให้ประชาชนจะได้รับประโยชน์ ดังนั้น ปปง.จึงจะติดตามทรัพย์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง และตำรวจจะสนับสนุนการทำงานของดีเอสไอ ขอย้ำอีกว่าการเปลี่ยนผ่านเป็นแค่กระบวนการตามกฎหมาย