อดีตผู้ช่วย ผญบ.และชาวบ้านบุรีรัมย์  นำหลักฐานแจ้งจับสาวแสบหลอกเอาเล่มรถ เอกสารส่วนตัวและเงินคนละ 2,500 บาท ไปทำเรื่องโอนและต่อทะเบียนที่ขนส่งให้ เชิดหนีหายเกือบ 3 เดือน  แชทไปไม่ตอบโทรไม่รับ ให้เวลา 1 สัปดาห์ ถ้านำเอกสารและเงินมาคืนจะไม่เอาเรื่อง แต่หากยังเงียบ ยันเอาผิดตาม กม. 

วันที่ 22 ต.ค.67 นายสมหมาย คำพา อายุ 62 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านม่วงใต้ ต.พระครู อ.เมือง  จ.บุรีรัมย์ และนางทองสุข ชุมรัมย์ อายุ 50 ปี  ชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน  ได้นำเอกสารหลักฐานทั้งรูปถ่ายรถจักรยานยนต์ที่ซื้อมือสองต่อจากเจ้าของเดิม  ข้อความการแชทสนทนา  สำเนาเล่มทะเบียนรถจักรยานยนต์ และรูปโปรไฟล์ของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า “เอ็มขนส่ง”  เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.เอ็ม  ชาวอำเภอสตึก   

โดยนายสมหมาย  อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมา เคยใช้บริการ น.ส.เอ็ม  เป็นตัวแทนไปโอนรถต่อทะเบียนหลายครั้ง เพราะสะดวกไม่ต้องไปทำเอง ประกอบกับอายุมากแล้วไปมาไม่ค่อยสะดวก  เขาก็คิดค่าดำเนินการและค่าเสียเวลาไปด้วย ก็มีคนฝากเขาไปทำให้หลายคนก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่ล่าสุดตนและนางทองสุข เพื่อนบ้าน ซื้อรถจักรยานยนต์มือสองต่อจากเจ้าของเดิมเพื่อไว้ใช้งานในครอบครัว คันละ 15,500 บาท จ่ายเงินให้เจ้าของรถเรียบร้อยและเขาก็เซ็นเอกสารโอนลอยไว้แล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พอวันที่ 14 ส.ค.67 ได้ฝากเล่มทะเบียนรถจักรยานยนต์ตัวจริง พร้อมเอกสารส่วนตัว ทั้งของตนเองและของเพื่อนบ้าน ให้ น.ส.เอ็ม ไปดำเนินการโอนและต่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดให้ โดยจ่ายเงินให้ น.ส.เอ็ม คนละ 2,500 บาท เป็นค่าดำเนินการและค่าเสียเวลาด้วย แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไปเกือบ 3 เดือนแล้ว ก็ยังไม่มีการโอนหรือต่อทะเบียนรถให้เลย  แชทไปถามก็อ้างติดธุระสารพัด  ล่าสุดไม่อ่านแชทปิดมือถือหนี จึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกหรือเจตนาโกง จึงได้นำหลักฐานมาแจ้งความ  อย่างไรก็ตามก็ให้โอกาส น.ส.เอ็ม 1 สัปดาห์ หากนำเล่มรถ เอกสารส่วนตัวและเงินคนละ 2,500 บาท มาคืนจะถอนแจ้งความไม่เอาเรื่อง  แต่ถ้าไม่นำมาคืน ก็จะดำเนินการคดีตามกฎหมาย

ด้านนางทองสุข ผู้เสียหายอีกราย บอกว่า ตนซื้อรถจักรยานยนต์มือสองมาในราคา 15,000 บาท เพื่อมาต่อพ่วงขายผลไม้เลี้ยงหลาน ก็จ่ายเงินไปเรียบร้อยและคนที่ขายรถให้เขาก็เซ็นเอกสารโอนลอยไว้แล้ว  ก็ฝากเล่มรถ เอกสารส่วนตัวให้ น.ส.เอ็ม ไปโอนและต่อทะเบียนพร้อมกันกับอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน  เพราะเห็นว่าอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเคยใช้บริการเขาก็ไม่มีปัญหา  แต่ไม่คิดว่าเขาจะเอาเล่มรถ เอกสารส่วนตัว และเชิดเงินค่าดำเนินการหนีหายไป กลัวเขาจะเอาไปจำนำหรือทำผิดกฎหมาย จึงมาแจ้งความอยากได้เล่มรถ เอกสาร และเงินคืน เพราะกว่าจะหาเงินมาได้ก็ลำบาก  หากไม่นำมาคืนก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย