วันที่ 18 ต.ค. 2567  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม กล่าวถึงการดำเนินการต่อไปภายหลังเมื่อวันที่ 17 ต.ค. สภาสั่งปิดการประชุม ทั้งที่ยังพิจารณาผลการศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ ไม่แล้วเสร็จว่า ความตั้งใจตนอยากให้ผลศึกษาดังกล่าวเข้าสภา เพื่อพิจารณาให้แล้วเสร็จว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ตนก็พยายามอธิบาย แต่ยังมี สส.หลายคนเข้าใจไม่ถูก และเข้าใจผิดหลายประเด็น ซึ่งไม่เข้าใจจริงๆหรือแกล้งไม่เข้าใจ ตนไม่ทราบ เช่น เข้าใจว่ายกเลิก มาตรา 112 ตนว่าพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องคุยกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจ พร้อมยืนยันว่ามาตรา 112 ยังมีอยู่ แต่เราพิจารณาเรื่องนิรโทษกรรมเหตุการณ์ทางการเมือง ซึ่งดำเนินการมาแล้วหลายครั้ง และมีการอภิปรายไปว่าจะมีการก้าวล่วง ตนขอยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ไม่มีใครไปก้าวล่วงและไม่คิดแบบนั้นเลย

นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า มี สส.อภิปรายว่าไม่ให้นิรโทษกรรม มาตรา 110 และมาตรา 112 ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ชั้นร่างกฎหมายก็ต้องเสนอร่างกฎหมายเข้าไปว่าไม่มี 2 ประเด็นดังกล่าวถือเป็นสิทธิ และที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ไม่ใช่ชั้นดังกล่าว เพราะเป็นเพียงแค่รายงานการศึกษา

เมื่อถามว่า สรุปแล้วเรื่องที่ยังค้างอยู่ในสภาจะดำเนินอย่างไรต่อไป หรือจะถอนผลการศึกษาออกมา นายชูศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่ถอนร่างผลการศึกษาดำเนินการต่อไป เพื่อให้สภารับทราบว่ามีรายงาน ซึ่งรับทราบไม่ได้หมายความว่าเห็นด้วย และเมื่อรับทราบแล้วก็ต้องมีข้อสังเกตให้ส่งหน่วยงานต่างๆดำเนินการ หรือส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการก็ต้องลงมติ แต่ถ้าเห็นว่าไม่ควรส่งให้ ครม. ดำเนินการต่อ ก็ไม่ต้องลงมติ ซึ่งตนก็อยากให้การประชุมสัปดาห์หน้าดำเนินการต่อเพื่อจบกระบวนการ ตนอยากให้จบ แต่วิปรัฐบาลก็ยังไม่ได้ยืนยันว่าจะประชุมต่อได้วันไหน แต่ยืนยันก็ต้องพิจารณาให้จบ เพราะเรื่องมันค้างอยู่

เมื่อถามว่า หากสภาลงมติไม่ควรให้ส่งหน่วยงานดำเนินการต่อ ถือเป็นการปิดประตูออกกฎหมายนิรโทษกรรมเลยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็จะเป็นรายงานที่ค้างอยู่ในสภา ใครจะหยิบไปศึกษาหรือไปดูก็เป็นสิทธิของพรรคต่างๆ

เมื่อถามว่า ในการรับประทานอาหารพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 21 ต.ค. นี้ จะมีการพูดคุยประเด็นดังกล่าวหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า  เป็นเรื่องที่ผู้บริหารจะตัดสินใจว่าจะคุยกันหรือไม่