ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 ต.ค.67 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีดิไอคอน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ว่า ขณะนี้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน แต่ยังไม่ได้กระทำความผิดตามพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)การกู้ยืมเงิน หรือแชร์ลูกโซ่ ซึ่งจะมีความแตกต่างกัน ที่หวังเอาผู้สมัครสมาชิกมาเอาเงิน สินค้ามีบ้างหรือไม่มีบ้าง แต่ในคดีฉ้อโกงประชาชน เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ แต่ถ้าหากเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ก็จะมีเกณฑ์

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอชื่นชมตำรวจที่ทำคดีได้เร็ว พร้อมเป็นห่วงเรื่องการสอบสวน ซึ่งนำมาเป็นคดีพิเศษได้ แต่ขอให้ตำรวจได้ทำงาน เพราะทราบว่าขณะนี้ ใช้พนักงานสืบสวนทำคดีนี้กว่า 50 นาย เชื่อว่ามีประสิทธิภาพพอ แต่คดีลักษณะนี้ เราจะต้องเอาทรัพย์สินมาคืนให้ผู้เสียหาย โดยดีเอสไอได้สั่งการให้ดูเกี่ยวกับเรื่องการฟอกเงินอยู่แล้ว หากจำนวนเงินเกินกว่า 800 ล้านบาท จะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และถ้าหลักฐานเป็นประโยชน์ก็จะส่งให้เป็นคดีพิเศษ เช่น การเอาอัยการมาร่วมสอบสวน ซึ่งจะเข้าถึงข้อมูลได้ แต่ขณะนี้เราต้องการช่วยเหลือประชาชน ในการดำเนินการทางแพ่ง โดยฟ้องคดีเป็นกลุ่ม หรือคดีคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อติดตามทรัพย์สินมาคืนผู้เสียหาย

ทั้งนี้ ได้มอบให้ดีเอสไอ เป็นผู้ติดตามทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหาย เบื้องต้นทราบว่า ทรัพย์สินอยู่ในถาวรวัตถุ ซึ่งอาจจะขอคืนเงินได้มากกว่า 700 ล้านบาท แต่ในรายละเอียดต้องสอบถามทางตำรวจ

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้เสียหายมีความกังวลว่าผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทมีทั้งอัยการและตำรวจ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในทุกคดี ความเชื่อมั่นของประชาชนคือคนทำงานต้องไม่อคติ อคติเพราะความชอบ อคติเพราะความผูกพัน ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลนี้พยายามยกระดับไม่อคติกับทุกเรื่อง เราจะให้พยานหลักฐานเป็นผู้พูด

 

#ดิไอคอน #ดีเอสไอ #กระทรวงยุติธรรม #บอสพอล