วันที่ 9 ต.ค.2567 นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี   กล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ นายจตุพร พรหมพันธ์ุ  แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ประกาศนัดหมายชักชวนให้ประชาชนออกมาชุมนุมเพื่อต่อต้านรัฐบาลของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่า เรื่องนี้ที่จริงไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย เพราะทั้งสองคนเป็นขาประจำที่โจมตีพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด แต่เชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะสามารถแยกแยะได้ว่าใครทำเพื่อประโยชน์ประชาชนและใครต้องการแสงเพื่อประโยชน์ส่วนตัว 

“ผมบอกตรงๆ ครับ ผมก็เคยเป็นแกนนำมวลชนมาก่อน ต้องรู้ว่าสถานการณ์ไหนจุดติดจุดไม่ติด ครั้งนี้ขาประจำตัวพ่อทั้งคู่หยิบเอาเรื่องการแต่งตั้งตัวบุคคลหรือนโยบายของรัฐบาลมาเป็นเชื้อไฟปลุกระดม แต่ก็ยังผิดเวลาไปมาก เหมือนคนอ่านอารมณ์ประชาชนไม่ออก อ่านการเมืองไม่ขาด นี่ไม่ใช่การดูแคลน แต่เราก็เคยทำงานมวลชนมาด้วยกันทั้งนั้น

วันนี้พี่น้องประชาชนลำบากยากแค้นและเพิ่งมีหวังกับรัฐบาลใหม่ที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และปัญหาภัยธรรมชาติที่พี่น้องประชาชนจะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติสุข แต่คนพวกนี้มาปลุกระดมเพื่อขับไล่ โดยผู้คนในสังคมต่างตั้งข้อสังเกตเคลือบแคลงสงสัยในวาระซ่อนเร้นส่วนตัว ผมเชื่อว่าทั้งสองคนก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางจุดติด แต่ก็พยายามดันทุรัง ยิ่งตอกย้ำว่าวาระที่ถูกซ่อนเร้นอยู่คืออะไร” นายพายัพ กล่าว 

นายพายัพ กล่าวว่า ที่ต้องพูดอยากนี้เพราะประเทศชาติและประชาชนยังบอบช้ำจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ และปัญหาน้ำท่วม ก็ทำให้พี่น้องประชาชนเสียหาย สินค้าเกษตรและบ้านเรือนประชาชนต้องได้รับการฟื้นฟู เงินทองหายาก ชาวบ้านยากจน ยังมีคนดันทุรังทำตัวเป็นตุ้มถ่วงความเจริญของประเทศ จึงอยากแนะนำคุณสนธิและคุณจตุพรให้ใจเย็นๆ เห็นแก่บ้านเห็นแก่เมือง เห็นแก่พี่น้องประชาชนดีกว่าเอาอารมณ์และความต้องการส่วนตัว ทำตัวเป็นคนอกหักรักคุด มุดน้ำดำดินไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่ดูสถานการณ์ของประเทศและพี่น้องประชาชนในภาพรวม