วันที่ 9 ต.ค.67 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายกฤษฎา อินทามระ ฉายาทนายปราบโกง พร้อมอดีตพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำนวน 99 คน เดินทางมาพร้อมกระเช้าแสดงความขอบคุณ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมี ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีฯ และ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ “กองคดีฮั้วประมูล” กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับมอบ
นายกฤษฎา ทนายปราบโกง กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้มาสอบถามขอทราบความเคลื่อนไหวคดีพิเศษที่ 37/2561 เมื่อ 13 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดทาง ดีเอสไอ ได้แจ้งกลับมาว่า กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินคดีพิเศษดังกล่าวโดยสรุป 1.คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับคำร้องทุกข์จากการท่าเรือแห่งประเทศไทยขอให้สอบสวนดำเนินคดีกรณีพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยทุจริตเบิกจ่ายค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุดและค่าล่วงเวลาในวันหยุดโดยนำเอกสารเบิกจ่ายค่าล่วงเวลาไปฟ้องต่อศาลแรงงานกลางและมีความประสงค์ให้ดำเนินคดีอาญาโดยระบุชื่อบุคคคล คือ นายจงเด่น บุตรสุทธิวงศ์ กับพวกรวม 32 คน จากการสอบสวนพบมีผู้กระทำความผิดในกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมอีก 5 ราย รวมมีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 37 ราย และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สรุปสำนวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา จำนวน 34 ราย และมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง จำนวน 3 ราย (ผู้ต้องหาเสียชีวิต) ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง 2.การพิจารณาสำนวนของ พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และ สำนักงานปราบปรามการทุจริต สำนักงานอัยการสูงสุด ไม่ปรากฏคำสั่งหรือคำแนะนำให้มีการดำเนินคดีผู้ต้องหาเพิ่มเติม นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้ง 34 รายดังกล่าวแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 การท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งผลการดำเนินการและตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยที่มีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแต่ละคดี รวม 10 กลุ่ม จำนวน 1,325 คดี แจ้งว่า "การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดคำพิพากษาอันถึงที่สุดของแต่ละคดี ไม่ปรากฏข้อมูลเข้าข่ายการกระทำความผิดทางอาญา"
กรณีดังกล่าวจึงถือว่าการท่าเรือแห่งประเทศไทยไม่ประสงค์ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการฟ้องคดีดังกล่าวอีกต่อไป ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของคดีฮั้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีที่มีการสื่อสารเข้าใจกันคลาดเคลื่อน วันนี้เห็นรอยยิ้มของพนักงานฯ ก็ยืนยันสรุปได้ว่าเป็นการเข้าใจผิดการสิบเนื่องกันมายาวนาน ทางทนายกฤษฎาได้มีหนังสือสอบถามมาได้มีการประสานระหว่างหน่วยงาน เนื่องจากบ้านเรากฎหมายเป็นระบบกล่าวหา เป็นที่ยุติว่ามีการดำเนินคดีเหลือ 34 คน เป็นที่ยุติเพียงเท่านี้ ทั้งหมดถือว่าเสร็จสิ้นแล้วเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่คณะกรรมการคดีพิเศษรับไว้เป็นคดี สรุปว่าวันนี้คดีจบสิ้นไม่มีการกล่าวหาใครอีกต่อไปแล้ว หลังจากมอบกระเช้าดอกไม้ให้กับตัวแทน อธิบดีดีเอสไอแล้วพอดีพนักงานทั้งหมดต่างร้องไชโยด้วยความดีใจ