“สมศักดิ์” ลงพื้นที่ รพ.หลวงพ่อคูณ เป็นประธานพิธีประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ พร้อมเปิดอาคาร 100 ปีชาตกาล ชี้ เป็นการยกระดับบริการสุขภาพ ไม่ต้องให้ประชาชนเดินทางไปรักษาในเมือง ยัน ส่งเสริม อสม.เต็มที่ หลังถือเป็นหมอคนแรกของประชาชน เผย อาการป่วยเด็กนักเรียนรถบัสไฟไหม้ ดีขึ้นแล้ว ขณะที่ “นายกฯแพทองธาร” กำชับส่งจิตแพทย์ ลงพื้นที่ต่อเนื่อง
วันที่ 4 ต.ค.2567 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีประดิษฐานรูปหล่อพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) พร้อมเปิดอาคาร 100 ปีชาตกาล และเปิดสวนสุขภาพ 101 ปีชาตกาล โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นายรชตะ ด่านกุล สส.นครราชสีมา นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล สส.นครราชสีมา นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ สส.นครราชสีมา นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล สส.นครราชสีมา นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ สส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ผู้นำชุมชน และ อสม. รวมกว่า 1,500 คน เข้าร่วม ที่โรงพยาบาลหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน จากการบำเพ็ญทานบารมี สร้างอาคารโรงพยาบาลตามที่ต่างๆ ตนจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีประดิษฐานรูปหล่อ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) เปิดอาคารผู้ป่วยใน 100 ปีชาตกาล และเปิดสวนสุขภาพ 101 ปีชาตกาล เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณูปการอันยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อคูณในวันนี้ โดยตนขอร่วมอนุโมทนาบุญ กับท่านผู้ประกอบการภาคเอกชน และพี่น้องประชาชน ผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ที่สนับสนุนการจัดหาเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ช่วยเติมเต็มให้โรงพยาบาลหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ มีศักยภาพในการยกระดับ การดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน ในอำเภอด่านขุนทดและพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้ไม่ต้องลำบากเดินทางไกล เพื่อไปรับการรักษาพยาบาลในพื้นที่อื่น
“ผมขอขอบคุณพี่น้อง อสม. ที่มาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และขอให้เชื่อมั่นว่า กระทรวงสาธารณสุข จะดูแล อสม. ให้ก้าวหน้า มั่นคง และยั่งยืน ผ่านการผลักดัน พ.ร.บ.อสม. ซึ่งจะช่วยดูแล ทั้งในเรื่องค่าป่วยการ และสวัสดิการด้านต่างๆ โดยเรื่องสร้างความมั่นคงให้กับ อสม. สส.รชตะ ก็ได้ติดตามผมตลอดว่า กฎหมายถึงไหนแล้ว โดยกฎหมาย ได้ส่งถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ผมเข้าใจดีว่า อสม.กำลังรอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำด้วย ที่จะให้นำเงินฌาปนกิจมาค้ำประกัน แต่วันนี้ ดอกเบี้ยยังแพงไป ผมก็กำลังเร่งเจรจาให้ดอกเบี้ยถูกลง โดยผมพร้อมช่วยเต็มที่ เพราะ อสม. ถือเป็นหมอคนแรกของประชาชน และจะมีบทบาทสำคัญ ในการช่วยสื่อสารลดการป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังด้วย” รมว.สาธารณสุข กล่าว
จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปต่อที่ วัดบ้านไร่ ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นประธานพิธีเททองหล่อยอดฉัตรทองคำ เจดีย์ศรีปริสุทฺโธ พร้อมกล่าวว่า ตนมีความยินดีที่ได้มาร่วมพิธีเททองหล่อยอดฉัตรทองคำ“เจดีย์ศรีปริสุทฺโธ”ที่วัดบ้านไร่ ในวันนี้ เพราะหลวงพ่อคูณเป็นพระอริยสงฆ์ผู้มีเมตตา เป็นนักบุญแห่งที่ราบสูง โดยท่านสร้างคุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ ทั้งแก่วงการศาสนา การศึกษา รวมถึงการแพทย์และสาธารณสุข ที่ได้บำเพ็ญทานบารมีสร้างอาคาร และจัดหาเครื่องมือแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลต่างๆจำนวนมาก ตนจึงขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ที่ได้สานต่อการพัฒนางานต่างๆ ที่หลวงพ่อคูณ ได้เริ่มต้นไว้ เพื่อประโยชน์ให้กับประเทศชาติต่อไป
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ยังได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลเทพารักษ์ จังหวัดนครราชสีมา โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีความยินดี ที่ได้มาตรวจเยี่ยมหน่วยบริการสาธารณสุข ในเขตสุขภาพที่ 9 ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายที่จะเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ เพื่อให้พี่น้องประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับความสะดวกใกล้บ้าน ไม่ต้องลำบากเดินทางไกล ไปรับบริการในเมือง โดยตนเชื่อมั่นว่า โรงพยาบาลเทพารักษ์ มีความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพ และดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าวได้
นายสมศักดิ์ ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีอาการป่วยของเด็กนักเรียนที่ประสบเหตุรถบัสไฟไหม้ว่า ตนได้รับรายงานจากอธิบดีกรมการแพทย์ว่า ผู้ป่วยยังไม่ต้องใช้บัวหิมะ ในการฟื้นฟูสภาพผิวหนัง เพราะแพทย์ ได้นำผิวหนังส่วนอื่นมาปลูกถ่ายได้ ส่วนอาการป่วยของทั้ง 3 คน พบว่า อาการดีขึ้น ตอบสนองได้ ซึ่งแพทย์ ก็ดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ได้กำชับเรื่องจิตแพทย์ ให้ดูแลอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้บาดเจ็บ ญาติผู้เสียชีวิต ครูในโรงเรียน รวมถึงประชาชนด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ส่งทีม MCATT ลงพื้นที่ไปแล้วกว่า 100 คน
