วันที่ 2 ต.ค.67 ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และตามนโยบายของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปราม คนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สํานักงานตํารวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.รอง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดําเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พํานักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทําผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทําให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทําความผิด

ล่าสุด ที่อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สตม. (เมืองทองธานี) ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1, พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2, พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3, พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.4, พล.ต ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม, พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม 5, พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร รอง ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดํารงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.อ.สําราญ กลั่นมา ผกก.สส.บก.ตม.4, พ.ต.อ.อภิเษก ปิศโน ผกก.ตม.จว.น่าน, พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเลขา ผกก.ตม.จว.ตาก, พ.ต.อ.ชินกร อัศวภูมิ ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน, พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.ตม.จว.สงขลา ร่วมแถลงข่าวผลการปฏิบัติของ "ปฏิบัติการรุกฆาตนักขนคน" เพื่อกวาดล้างจับกุมขบวนการ เครือข่าย นําพา ช่วยเหลือ คนต่างด้าวสัญชาติจีนให้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยตามแนวชายแดน ช่องทางธรรมชาติ โดยบางส่วนมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งการพนันออนไลน์ โรแมนซ์สแกม หรือคอลเซ็นเตอร์ หรืออื่นๆ ที่มีการหลอกลวงประชาชนในประเทศไทยและต่างประเทศ

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากทางการสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ร่วมมือกับทางการสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และทางการสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมเหล่าผู้กระทําผิดฐานดําเนินธุรกิจมืด เป็นแก๊งมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ และโกงเงินออนไลน์ ที่คนจีนก่อขึ้นในเมืองเล่าก์ก่าย ซึ่งเป็นเมืองเอกของเขตปกครองพิเศษโกก้าง ทางตอนเหนือของรัฐฉาน และการทลายแหล่งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในบริเวณ "คิงส์โรมัน" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคํา เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทําให้แก๊งมิจฉาชีพชาวจีนต้องหลบหนีย้ายฐานทํางานไปยังที่ใหม่ ซึ่งอยู่ตามแนวชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน และใช้เส้นทางผ่านประเทศไทยเพื่อออกไปยังฐานใหม่ ด้วยเหตุนี้จึงได้มีกลุ่มขบวนการนําพาช่วยเหลือให้กลุ่มคนจีนลักลอบเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ ตามแนวตะเข็บชายแดน จากภาคเหนือทางด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปยังพื้นที่ชายแดน อ.พบพระ อ.แม่สอด จ.ตาก หรืออาจเข้า-ออก ในพื้นที่ชายแดนด้าน จ.มุกดาหาร, จ.อุบลราชธานี, อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว, อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี, ด่านเจดีย์ สามองค์ จ.กาญจนบุรี, อ.สะเดา จ.สงขลา, อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นต้น ซึ่งช่วยเหลือคนจีนหลบหนีเข้าเมือง อย่างเป็นขบวนการ แบ่งพื้นที่และแบ่งหน้าที่กันทํา ครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศไทย

ด้วยเหตุนี้ สตม.จึงไดร้่วมกับ บช.ก., บช.ปส., ตชด.และ ภ.1 - 9 รวมทั้งหน่วยงานด้านความมั่นคง ทําการสกัดกั้น สืบสวนปราบปรามจับกุม ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2566 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2567 โดยสามารถจับกุมเครือข่ายนําพาช่วยเหลือ กลุ่มคนจีนเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จํานวน 78 คดี ผู้ต้องหาทั้งหมด จํานวน 89 คน, ยึดยานพาหนะ ได้จํานวน 69 คัน, จับกุมชาวจีนหลบหนีเข้าเมืองได้ จํานวน 287 คน และสามารถสืบสวนขยายผลขออนุมัติหมายจับ ผู้ร่วมขบวนการได้อีก 20 หมายจับ

ทั้งนี้ จากการสืบสวนขยายผลพบว่า การกระทําผิดเข้าลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับในความผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จํานวน 4 หมายจับ ซึ่งจะต้องดําเนินการยึดทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เบื้องต้น พบเงินในบัญชีธนาคารต่างๆ หมุนเวียนมากกว่า 600 ล้านบาท

จากรวบรวมข้อมูลขยายผล พบข้อมูลความเชื่อมโยงทางการติดต่อสื่อสาร/ทางการเงิน ของหลายเครือข่าย มีความเชื่อมโยงกัน ลักษณะทําเป็นขบวนการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งนี้ พบเครือข่ายใหญ่ จํานวน 5 เครือข่ายใหญ่ และพบสมาชิกระดับสั่งการ ซึ่งมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจน จึงขออนุมัติหมายจับได้ จํานวน 7 หมายจับ รวมทั้งหมายจับการมีส่วนร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติด้วย สตม.จึงได้เปิดปฏิบัติการภายใต้ชื่อ "ปฏิบัติการรุกฆาตนักขนคน" เพื่อระดมจับกุมสมาชิกระดับสั่งการตามหมายจับทั้ง 7 หมายจับ ในระหว่างวันที่ 21 - 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 7 หมายจับ โดยมีรายละเอียดเครือข่าย ดังนี้

1.เครือข่ายนายวีระพลฯ มีการจับกุมสมาชิกในเครือข่ายในความผิดฐานช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพ้นจากการจับกุม หรือลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จํานวน 7 คดี ผู้ต้องหา จํานวน 9 คน ขยายผลขออนุมัติออกหมายจับและจับกุมได้รวมจํานวน 6 คน, จับกุมชาวจีนหลบหนีเข้าเมือง จํานวน 51 คน และตรวจยึดยานพาหนะได้รวม 7 คัน จากการสืบสวนขยายผล พบว่ามีนายวีรพลฯ ทําหน้าที่เป็นผู้ประสานงานแนวชายแดน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย / จัดหารถ และหัวหน้าทีมขนในเส้นทาง อ.เชียงแสน - อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

2.เครือข่ายนายก้านฯ มีการจับกุมสมาชิกในเครือข่ายในความผิดฐานช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพ้นจากการจับกุม หรือลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จํานวน 4 คดี ผู้ต้องหา จํานวน 6 คน ขยายผลขออนุมัติออกหมายจับและจับกุมได้ จํานวน 1 คน, จับกุมชาวจีนหลบหนีเข้าเมือง จํานวน 3 คน และตรวจยึดพาหนะได้ 1 คัน ทําการตรวจค้นบ้านนายก้านฯ สามารถตรวจค้นยึดอาวุธปืน จํานวน 1 กระบอก จากการ สืบสวนขยายผล พบว่ามีนายก้านฯ เป็นนายหน้าประสานงานชายแดนฝั่ง อ.พบพระ จ.ตาก และนําพาชาวจีนข้ามแดน เข้า - ออกประเทศไทยกับเมียนมา รวมทั้งเป็นหัวหน้าทีมขนในเส้นทางระหว่าง อ.พบพระ - อ.แม่สอด จ.ตาก

3.เครือข่ายนายวงศกรฯ มีการจับกุมสมาชิกในเครือข่ายในความผิดฐานช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพ้นจากการจับกุม หรือลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จํานวน 7 คดี ผู้ต้องหา จํานวน 10 คน ขยายผลขออนุมัติหมายจับและจับกุมได้รวม 5 หมายจับ ผู้ต้องหา 3 คน, จับกุมชาวจีนหลบหนีเข้าเมือง จํานวน 23 คน และตรวจยึดยานพาหนะได้รวม 8 คัน และอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล จํานวน 7 คดี จากการ สืบสวนขยายผล พบว่ามีนายวงศกรฯ เป็นตัวการสําคัญระดับสั่งการ เป็นนายหน้าประสานงานแนวชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก พบความเชื่อมโยงกับนายหน้าต่างประเทศฝั่ง สปป.ลาว / เมียนมา ในการว่าจ้างทีมขนและนําพาคนจีนลักลอบเข้า - ออกฝั่ง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย - อ.แม่สอด จ.ตาก และยังพบข้อมูลความเชื่อมโยงในการนําพาชาวจีน เข้า - ออกตามแนวชายแดนฝั่งพื้นที่อีสานตอนบน / ฝั่งภาคตะวันออก ด้านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว และทางใต้ จ.สงขลา

4.เครือข่ายนายต๊กกีฮง มีการจับกุมสมาชิกในเครือข่ายในความผิดฐานช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพ้นจากการจับกุม หรือลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จํานวน 4 คดี ผู้ต้องหา จํานวน 5 คน ขยายผลขออนุมัติหมายจับและจับกุมได้รวม 10 คน, จับกุมขาวจีนหลบหนีเข้าเมือง จํานวน 6 คน ตรวจ ยึดยานพาหนะได้รวม 3 คัน จากการสืบสวนขยายผลพบว่ามีนายต๊กกีฮง เป็นนายหน้าประสานงานฝั่งชายแดนไทย- มาเลเซีย ร่วมกับนายตันชินจิน ชาวมาเลเซีย ที่มีการติดต่อกับนายหน้าต่างประเทศฝั่งกัมพูชา ในการนําพาชาวจีน ลักลอบเข้ามา โดยประสานงานกับนายหน้าชายแดนไทย - เมียนมา (เชียงแสน / แม่สอด) - กัมพูชา (อรัญประเทศ) เข้ามายังพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางไป อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเดินทางออกไปยังประเทศมาเลเซีย ผ่านช่องทางธรรมชาติฝั่ง อ.สะเดา จ.สงขลา และ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

5.เครือข่ายนาย ต. มีการจับกุมสมาชิกในเครือข่ายในความผิดฐานช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าว หลบหนีเข้าเมืองพ้นจากการจับกุม หรือลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จํานวน 4 คดี ผู้ต้องหา จํานวน 16 คน ขยายผลขออนุมัติหมายจับและจับกุมได้รวม 4 คน, จับกุมชาวจีนหลบหนีเข้าเมือง จํานวน 19 คน และตรวจยึด ยานพาหนะได้รวม 5 คัน จากการสืบสวนขยายผล พบว่ามีนาย ต. ทําหน้าที่เป็นนายหน้าต่างประเทศฝั่ง สปป.ลาว ประสานงานกับ นางพร นายหน้าแนวชายแดนฝั่ง อ.เขมราฐ - ช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ในการว่าจ้างทีมขนและนําพาชาวจีน เข้า - ออกประเทศ โดยใช้เส้นทางลักลอบไปยังฝั่ง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว / อ.แม่สอด จ.ตาก

รวมทั้ง 5 เครือข่ายใหญ่ มีการจับกุมความผิดฐานช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนี เข้าเมืองพ้นจากการจับกุม หรือลักลอบขนคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จํานวน 26 คดี ผู้ต้องหารวม 63 คน ขยายผล ขออนุมัติหมายจับและจับกุมได้รวม จํานวน 20 หมายจับ ผู้ต้องหารวม จํานวน 18 คน อยู่ระหว่างการหลบหนี จํานวน 2 คน, จับกุมชาวจีนหลบหนีเข้าเมือง รวมจํานวน 102 คน และตรวจยึดยานพาหนะ รวมจํานวน 25 คัน ทั้งนี้ ยังพบพยานหลักฐานเป็นความผิดลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วม องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 และศาลอนุมัติหมายจับในความผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในองค์กร อาชญากรรมข้ามชาติ จํานวน 4 หมายจับ นอกจากนี้ ยังมีผู้ร่วมขบวนการที่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อขอ อนุมัติหมายจับและนําตัวมาดําเนินคดีตามกฎหมาย และดําเนินการตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อดดําเนินการตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อไป

ทั้งนี้ จากการจับกุมผู้ต้องหาระดับสั่งการจาก 5 เครือข่ายใหญ่ ที่มีความเคลื่อนไหวครอบคลุมทั่วประเทศไทย เป็นการทําลายเครือข่ายขบวนการขนคนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีน ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ที่ต้องการเดินทางผ่านประเทศไทยไปยังฐานทําการใหม่ในประเทศเพื่อนบ้าน อันเป็นการป้องกันยับยั้งขบวนการคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงผู้คนได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ดี สตม.ยังคงรวบรวมข้อมูล และสืบสวนขยายผลจับกุมปราบปรามขบวนการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายต่อไปอย่างต่อเนื่อง