ปทุมธานี รักษาการผบ.ตร.ระบุสาเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้
วันที่ 1 ต.ค.2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ว่า ก่อนอื่นตนต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นายกรัฐมนตรีเสียใจมากและได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุและไปที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิตเพื่อดูเด็กและพบญาติเด็กที่ได้รับบาดเจ็บและเดินทางมาที่สำนักพัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำหรับสาเหตุเบื้องต้นที่เราได้สอบสวนพยานขณะสันนิษฐานว่าเกิดจากยางล้อรถยนต์ระเบิดขึ้นมาทำให้เกิดประกายไฟและมีถังแก๊สที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่ในรถดังกล่าวจึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วเข้าไปในห้องโดยสาร ส่วนตัวของคนขับรถ ขณะนี้เราให้เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งตรวจสอบข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับคนขับรถและบริษัทซึ่งเราจะนำมาประกอบการสอบสวนและออกหมายจับซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและติดตามซึ่งเรามีทีมและกำลังทุ่มกำลังไปเกี่ยวกับการกู้ภัย
ขั้นตอนหลังจากนี้สำหรับการตรวจอัตลักษณ์บุคคล เมื่อเรานำร่างผู้เสียชีวิตออกมาทั้งหมดซึ่งเมื่อสักครู่ตนทราบว่าไม่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ภายในที่เกิดเหตุจะนำร่างผู้เสียชีวิตไปที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจโดยสั่งการผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐานให้เราร่วมมือกับแพทย์นิติเวชในการเก็บดีเอ็นเอของร่างผู้เสียชีวิตและจะประสานกับทางญาติผู้ปกครองโดยสายเลือดเพื่อที่จะนำดีเอ็นเอไปเปรียบเทียบและตนได้สั่งการหากได้รับดีเอ็นเอของสองฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยต้องตรวจให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายในสองวัน ซึ่งทำให้ญาติผู้เสียชีวิตได้รับร่างไปดำเนินการตามประเพณีสำหรับการเก็บดีเอ็นเอของญาตินั้นต้องดูความสะดวกว่าเราจะให้แพทย์ที่จังหวัดอุทัยธานีเก็บได้หรือไม่แต่หากจะให้ทัวร์ 100% อาจจะประสานงานขอให้เดินทางมาที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเก็บดีเอ็นเอต่อหน้าแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ
รถบัสมีประตูฉุกเฉินแต่ทำไมเปิดไม่ได้ จากการสอบถามคุณครูทราบว่าเหตุที่เกิดขึ้นเร็วมากประกายไฟที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาเกิดได้อย่างรวดเร็วขณะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมายังไม่ทันส่วนประตูนั้นมีทั้งเด็กและครูลงมาได้นั่นหมายถึงว่าประตูเปิดได้และมีเด็กบางคนกระโดดออกทางหน้าต่างและส่วนที่เหลือคิดว่ายังอยู่ในอาการตกใจจึงไม่สามารถออกมาได้ทัน และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเด็กคนใดบ้าง
ส่วนรถคันที่ 2 ที่เกิดเหตุมีเด็กอยู่จำนวน 39 มีทั้งระดับอนุบาล และประถม มีทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ส่วนครู 6 คน สำหรับผู้สูญหายในรถคันที่ 2 มีครู 6 คน ขณะนี้พบครู 3 อีก 3 คนยังไม่พบส่วนนักเรียนมี 39 คนเจอที่โรงพยาบาล 3 คน และอยู่ที่ศูนย์ 16 ดังนั้นนักเรียนยังหาไม่เจอ 20 คน หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบว่าสภาพรถ เป็นอย่างไรและจะอยู่ในขั้นตอนความประมาทหรือไม่
สำหรับกระแสข่าวที่บอกว่าขับรถเป็นภารโรงไม่ใช่คนขับรถที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบให้มีความชัดเจนว่าเป็นพนักงานที่บริษัทรถส่งมาหรือไม่อย่างไร และรถที่ใช้เป็นของเอกชน ทั้งนี้ตนย้ำทางผู้การจังหวัดปทุมธานีว่าการสอบสวนต้องหาข้อเท็จจริงว่าเกิดจากความประมาทและบริษัทรถหรือไม่อย่างไรหากไม่มีอุปกรณ์ในการป้องกันแสดงว่าไม่มีความพร้อมในการแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุเบื้องต้น ซึ่งเข้าข้อกฎหมายเรื่องการประมาทหรือไม่ และตนย้ำว่าทั้งบุคคลและบริษัทจะต้องถูกดำเนินคดี และช่วงเกิดเหตุเรายังไม่ทราบข้อมูลว่าในขณะนั้นคนขับได้มีการช่วยเหลือเด็กและผู้ปกครองหรือไม่ ส่วนคนขับทราบว่าเป็นคน จ.สิงบุรี
สำหรับเรื่องการตรวจสอบสภาพรถนั้น มีมานานแล้วเป็นมาตรการทั้งขนส่ง ตำรวจ รวมถึงรถสาธารณะที่มีมาตรการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และในกระบวนการสอบสวนจะดูประเด็นพวกนี้ด้วยถ้าบริษัทเจ้าของผู้ขับขี่ละเลยถือว่าเป็นองค์ประกอบความผิด และยืนยันว่ากองพิสูจน์หลักฐานจะดูรายละเอียดทุกประเด็นทั้งเรื่องความเร็วของรถทั้ง 3 คัน เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้เกิดความเศร้า สลด การจะไปช่วยปกปิดเป็นไปไม่ได้
หมายเหตุ กำหนดการ โครงการศึกษาแหล่งเรียบรู้นอกสถานที่ วันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2567
เวลา 05.00 น. พร้อมกันที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม
เวลา 05.30 น. ออกเดินทางจากโรงเรียน
เวลา 07.00 น. รับประทานอาหารเช้า
เวลา 09.00 น. ถึงอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
เวลา 11.00 น. ออกจากอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธธยา
เวลา 12.00 น. ถึงศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ส่วนกลาง รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 น. เข้าชมนิทรรศการ ณ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ส่วนกลาง
เวลา 15.00 น. ออกจากศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ส่วนกลาง
เวลา 17.00 น. รับประทานอาหารเย็น
เวลา 20.00 น. เดินทางถึงโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม