นิด้าโพลเผยผลสำรวจพบประชาชนส่วนใหญ่หนุน อุ๊งอิ๊ง เป็นนายกฯ ขณะที่พรรคประชาชนได้รับการสนับสนุนมากที่สุด ตามด้วย เพื่อไทย ตามมาเป็นอันดับสอง ด้าน ณัฐพงษ์เมินผลโพลยกอุ๊งอิ๊งขึ้นแท่นนำอันดับหนึ่ง ยันไม่เป็นอุปสรรคทำให้เสียกำลังใจ  ขอลุยพบปะชาวบ้าน

     เมื่อวันที่ 29 ก.ย.67 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง "การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 3/2567" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 16-23 ก.ย.67 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง
   

 จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 31.35 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะ มีความเป็นผู้นำ และมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 23.50 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 ร้อยละ 22.90 ระบุว่าเป็น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (พรรคประชาชน) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ มีแนวคิด และทัศนคติที่ดี อันดับ 4 ร้อยละ 8.65 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ และมีประสบการณ์ด้านการบริหาร
   

 อันดับ 5 ร้อยละ 4.80 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะมีความสามารถและประสบการณ์ในการบริหาร รวมถึงมีจุดยืนในการต่อต้านอำนาจเผด็จการทุกรูปแบบ อันดับ 6 ร้อยละ 4.00 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะมีความเป็นกันเอง ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์สุจริต และมีจุดยืนในการทำงานที่ชัดเจน อันดับ 7 ร้อยละ 1.15 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) เพราะมีความเด็ดขาด และมีประสบการณ์ทางการเมือง ร้อยละ 2.80 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (พรรคประชาธิปัตย์) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง (พรรคประชาชาติ) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) นายกรณ์ จาติกวณิช และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ และร้อยละ 0.85 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
   

 ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 34.25 ระบุว่าเป็น พรรคประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 27.15 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 15.10 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 4 ร้อยละ 9.95 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 5 ร้อยละ 4.40 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 6 ร้อยละ 3.55 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 7 ร้อยละ 2.05 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 8 ร้อยละ 1.70 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 1.10 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคเสรีรวมไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา และร้อยละ 0.75 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
   

 ด้าน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงผลของนิด้าโพลที่ความนิยมของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาเป็นอันดับหนึ่ง และนายณัฐพงษ์มาเป็นอันดับสาม มีนัยยะอะไรหรือไม่ ว่า เรื่องผลโพลเป็นเรื่องปกติ และเรารับรู้เพื่อนำมาปรับปรุงทำงานให้ดียิ่งขึ้น และเดินหน้าทำงานในพื้นที่ต่อ ซึ่งคิดว่าไม่ได้มาเป็นอุปสรรค หรือเสียกำลังใจใด ๆ และบริบททางการเมืองที่ผ่านมา มีทั้งขึ้นทั้งลง รวมถึงมีสำนักไหนเป็นคนสำรวจ เชื่อว่าวิธีการเดียวที่จะทำให้คะแนนนิยมเรามั่นคงยิ่งขึ้น ดีวันดีคืนไปถึงการเลือกตั้งปี 2570 คือทำงานในพื้นที่อย่างเต็มที่
     

ผู้สื่อข่าวถามถึงการอภิปรายของฝ่ายค้านในสภาโดยเฉพาะเรื่องเมียนมาส่งผลต่อคะแนนนิยมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน การที่พรรคชี้แจงกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ทำความเข้าใจ รวมถึงทางการทำงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิดประชาชนเป็นส่วนสำคัญมากกว่า เมื่อถามว่า ปัจจัยที่ทำให้คะแนนนิยมของพรรคลดลงวัดจากอะไรบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดการยุบพรรคที่ผ่านมา ต้องยอมรับตามข้อเท็จจริงว่าหลายพื้นที่ที่ตนเองลงไปดู ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง หรือการลงพื้นที่อย่างแข็งขัน ชาวบ้านยังไม่รับทราบข่าวสาร บางคนยังไม่ทราบว่าตนเองกลายมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาชนแล้ว ซึ่งบางทีชาวบ้านไม่ติดตามข่าวสารขนาดนั้น เพราะฉะนั้นผลโพลที่ออกมาแล้วถ้าเกิดสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาของเรา ตอนนี้คือการเข้าหาประชาชน และทำงานในพื้นที่เพื่อให้รับทราบข่าวสารอย่างทั่วถึง
   

 เมื่อถามว่า ความนิยมมาจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ด้วยใช่หรือไม่  นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น คิดว่าตนเองพร้อมเดินหน้าทำงานต่อ และพิสูจน์การทำงานต่อจากนี้อีก 2 ปีกว่า และเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาชนจะได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่พี่น้องประชาชน แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นได้ ต้องยืนยันว่า เราคงไม่ได้คาดหวังว่าประชาชนจะมาด้วยกับเรา ถ้าเรายังไม่มีผลงาน ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรค ต้องสื่อสารต่อลูกพรรคทุกคนคือการเดินหน้าทำงาน และไม่ทิ้งพื้นที่แน่นอน
   

 ส่วนสัปดาห์หน้าจะมีการโปรดเกล้าฯ ผู้นำฝ่ายค้านนั้น เรื่องของผู้นำฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างแข็งขันเช่นเดิม คือภารกิจในสภา แต่ตนเองจะขอใช้เวลาส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญ ในการลงพื้นที่พบพ่อแม่พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ก็จะพยามจัดเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน และจะไปสัญจรในภูมิภาคต่าง ๆ และไม่ทิ้งการทำหน้าที่ในสภา การอภิปรายงบประมาณ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังคงต้องเข้าไปมีส่วนร่วมเหมือนเดิม
   

 สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตอนนี้มีการรวบรวมข้อมูลไว้หลายด้าน แต่ตัวข้อมูลอาจจะยังเปิดเผยไม่ได้ แต่ยืนยันว่ามีหลายกรณีที่เรารวบรวมเข้ามาแล้ว ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะยื่นญัตติประมาณช่วงต้นปีหน้า ภายในไตรมาสแรก ซึ่งมีหลายเรื่อง และนโยบายต่างๆ ด้วย แต่อันที่น่าสนใจคือการเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 แบบไม่ลงมติ ได้มีการหารือภายในพรรค ซึ่งอยู่ระหว่างการขอข้อสรุปจากที่ประชุม ส.ส. และมีความเห็นได้ว่าอาจจะยื่นก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นไปได้