ปทุมธานี แม่ร้องปวีณา ลูกสาวถูกเพื่อนรุมทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ และถูกข่มขู่

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 27 ก.ย.67 นางหมวย (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี พนักงานคลินิกแห่งหนึ่งใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอความช่วยเหลือน้องหมิว (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 15 ปี นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ปากช่อง ถูกเพื่อนล่อลวงไปทำร้ายตบตี กระทืบ จิกผม จับหัวโขกพื้น บังคับกราบเท้า ถ่ายคลิปและนำคลิปไปแชร์โซเชียล เกรงลูกสาวจะไม่ปลอดภัยเพราะถูกกระทำเป็นครั้งที่ 2 แล้ว แม่ต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยความเป็นธรรมให้

นางหมวย กล่าวว่า ลูกสาวมีเพื่อนต่างโรงเรียนหลายคนที่คุยกันในกลุ่มไลน์และเฟสบุ๊ค ถูกกระทำครั้งแรกเมื่อค่ำวันที่ 31 ส.ค.67 โดยน.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ไม่ได้เรียนหนังสือ กับแฟนหนุ่มขี่จักรยานยนต์พกปืนมาหาที่บ้านเพื่อนก่อนจะเรียกให้ขึ้นรถไปเคลียร์ปัญหากับ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นม.3 คนละโรงเรียน ที่แถวท่ามะนาว เรื่องที่มีการเข้าใจผิดว่ามีการด่าทอกับเพื่อนในแชตไลน์ ซึ่งน.ส.บีลักษณะจะเป็นหัวโจกมีเพื่อนในกลุ่มประมาณ 40 คน และมักจะออกตัวเป็นคนเคลียร์เรื่องต่างๆ ให้เพื่อน เมื่อลูกสาวไปถึงก็พบเด็กสาวกว่า 10 คน คุยกันได้ไม่นานน.ส.บี อายุ 15 ปี กับเพื่อนรวม 3 คน อายุระหว่า 14-16 ปี ได้รุมทำร้ายตบตี เตะกระทืบตามลำตัวและเตะเข้าที่ศีรษะ หลังจากทำร้ายเสร็จก็ปล่อยลูกกลับมาแต่ลูกสาวไม่ได้บอกแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น จนเช้าวันที่ 1 มีเพื่อนของลูกส่งคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาให้ดู แม่จึงพาลูกเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากช่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกเยาวชนที่ร่วมกันก่อเหตุและถ่ายคลิปรวม 4 คน แต่ยังไม่มีใครมาพบตำรวจ จากนั้นก็มาเกิดเหตุการณ์ครั้งที่ 2 ซ้ำอีก เป็นช่วง 5 ทุ่มของวันที่ 21 ก.ย.67 ที่ผ่านมา จู่ๆ แม่ตกใจลูกสาวโทรมาบอกแม่ว่า ถูกรุมทำร้ายอยู่ที่ย่านกองวัคซีน ซึ่งเป็นซอยเปลี่ยวให้ช่วยมารับด้วย เมื่อไปถึงแม่เจ็บปวดใจมากเห็นสภาพลูกบอบช้ำไปทั้งตัว ปากแตก เนื้อตัวใบหน้าเขียวช้ำ ศีรษะมีแผลถลอกเลือดออก จึงได้ถามเรื่องราวเป็นมายังไง

ด้านลูกสาว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีเพื่อนชื่อน.ส.ซี (นามสมุติ) อายุ 14 ปี แชตมาล่อลวงให้ลูกสาวออกไปเจอก่อนที่จะมีด.ญ.หนึ่งกับด.ญ.สอง (นามสมุติ) อายุ 14 ปีเท่ากันมารับลูกสาวออกไปที่ย่านกองวัคซีน เมื่อไปถึงก็เจอกับน.ส.บี ที่เป็นหัวโจกเคยทำร้ายลูกครั้งที่แล้วกับกลุ่มเพื่อนเด็กสาวอีกกว่า 10 คนรออยู่ จากนั้นน.ส.บี ก็ได้ด่าทอกล่าวหาว่าลูกสาวไปแย่งแฟนเพื่อน และเนรคุณที่เคยช่วยไม่ให้ถูกเพื่อนทำร้าย ก่อนลงมือทำร้ายตบตีลูกสาว กระทืบ จิกผมลากไปกับพื้นจับศีรษะโขกกับพื้นหลายครั้ง บังคับกราบเท้า แต่ลูกสาวไม่ได้ต่อสู้ขัดขืนแต่อย่างใด ระหว่างนั้นคนอื่นๆ ก็ยืนดูและถ่ายคลิปกัน น.ส.บี ยังประกาศอีกว่า Xไปแจ้งความ Xก็ไม่กลัว มีดอยู่ไหน ๆ จะแทงมันให้ตาย หลังจากบ.ส.บีทำร้ายลูกสาวจนหนำใจก็ให้เพื่อมารุมตบตีอีก หลังจากแม่ไปรับลูกกลางดึกวันที่ 21 ก.ย.67 ก็ได้พาลูกเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากช่องทันที จนวันที่ 23 ก.ย. ได้มีเพื่อนของลูกส่งคลิปที่เกิดเหตุคืนนั้นมาให้แม่ดูอีก แม่ก็ส่งหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย แล้วจู่ ๆ วันที่ คืนวันที่ 26 ก.ย. คลิปได้ถูกโพสต์ในเพจดังของเมืองปากช่อง และเป็นข่าวทางทีวี แม่คิดว่าเด็กกลุ่มนี้ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และห่วงมาลูกจะเป็นอันตรายจึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

หลังรับเรื่อง นางปวีณาได้ประสาน พ.ต.อ.วีระพล ระเบียบโพธิ์ ผกก.สภ.ปากช่อง เพื่อนัดหมายให้แม่ลูกผู้เสียหายไปพบให้ข้อมูลเพิ่มเติมและเร่งสอบสอบวิชาชีพเด็กหญิงผู้เสียหายเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมกันนี้ นางปวีณา ยังได้ประสาน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ สพฐ.) กระทรวงศึกษา ขอให้ตรวจสอบกลุ่มเด็กสาวที่ก่อเหตุซึ่งเป็นเด็กนักเรียน เพื่อดูแลในเรื่องการป้องปรามและปรับพฤติกรรมความรุนแรงของเด็กนักเรียนและเยาวชนเพื่อป้องกันไม่ให้ก่อเหตุบานปลายไปกว่านี้อีก

นางปวีณา กล่าวว่า กรณีนี้ผู้ก่อเหตุเป็นเด็กเยาวชนและเป็นนักเรียนอายุ 14-16 ปี จากคลิปที่เห็นมีพฤติกรรมที่รุนแรง มีมีดง้าวอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นต้องเร่งปรับพฤติกรรมของน้องๆ เหล่านี้ ให้มีพฤติกรรมที่ไม่ก้าวร้าวแบบนี้อีก โดยนางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.วีระพล ระเบียบโพธิ์ ผกก.สภ.ปากช่อง และดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ สพฐ.) กระทรวงศึกษา โดยมอบหมายให้ นายเอกภาพ หงสกุล ผู้อำนวยการมูลนิธิปวีณาฯ พาแม่และลูกสาวผู้เสียหายเดินไปพบที่สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาในวันพรุ่งนี้ 28 ก.ย.67 เวลา 13.00 น. และขอให้ ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ สพฐ. ตรวจสอบเหตุดังกล่าวที่ โดยจะมอบรายชื่อเด็กๆ ที่กระทำผิดและน้องที่ถูกกระทำให้ เพื่อให้โรงเรียนปรับพฤติกรรม เพราะถ้ามีพฤติกรรมรุนแรงเช่นนี้ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด อยากให้คุณพ่อคุณแม่ทุกๆ ท่านช่วยกันดูแลลูกหลานไม่ให้มีพฤติกรรมก้าวร้าวเพราะเด็กและเยาวชนเป็นอนาคตของชาติ เพราะหากปล่อยเป็นเช่นนี้จะเกิดปัญหาในสังคมต่อไป