ปทุมธานีคุมตัวเฒ่าฆ่ารัดคอสาวใหญ่ ส่งศาล 

เมื่อเวลา 11.00 น.​ วันที่ 21 ก.ย. พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รองผกก.สอบสวนสภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันคุมตัวนายฐานันตร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 62  ปี อยู่บ้านม.6  ต.แควอ้อม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ไปส่งศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง สามารถติดตามจับกุมได้ที่ ย่านกองบิน 4  อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์  ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ฆ่านางดารุณี (สงวนนามสกุล)อายุ 53 ปี หมกห้องพักที่โครงการบ้านเอื้ออาทรกม.44  ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งทางเจ้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยระหว่างนำตัวออกจากห้องขังเพื่อนำไปขึ้นรถ โดยทางผู้ต้องหา ไม่ยอมพูดอะไรแต่อย่างได้ทำเพียงยิ้มแล้วก็โบกมือเป็นการปฎิเสธว่าจะไม่ยอมพูดอะไร ก่อนที่จะนำตัวส่งศาลจังหวัดธัญบุรีทันที 

ทางด้าน พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า  ซึ่งจากการสอบสวนนายฐานันตร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 62  ปี(ผู้ต้องหา) ให้การรับสารภาพว่าตนเองคบกับผู้ตายมาได้7 เดือนขายของหรือทำอะไรตนเองก็ลงทุนให้เขาหมดซึ่งตนเองก็คิดว่ามันน่าจะไดกำไร แต่ก็ไม่มีกำไรจากนั้นผู้ตายก็บอกกับตนเองว่าป้าข้างบ้านโทรศัพท์มาว่าแม่ข้างบ้านป่วยซึ่งการไปดูแลพ่อแม่นั้นก็ควรจะเอาแต่เสื้อผ้าไป แต่นี่เขาเอาข้าวของไปทั้งหมด ผมก็บอกว่าก็ได้ซึ่งของที่จะเอาไปนั้นอันไหนที่ผมให้ก็เอาไป อันไหนที่ผมไม่ให้ก็ไม่ต้องเอาไป ซึ่งเขาก็ขโมยของไปจากนั้นตนเองก็ติดต่อเขาไม่ได้เลย และก็มารู้ชื่อจริงเขาว่าชื่อนางดารุณี แสงอากาศ และตนเองก็ตามหาเขาจนเจอ ซึ่งเขาหนีผมมาและรู้ความจริงว่าไม่ได้เฝ้าแม่จากนั้นเขาก็โทรศัพท์มาขอยืมเงินตนเอง5พันบาท ตนเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาไปอยู่ไหนกันแน่และคิดว่าจะเจอผู้หญิงคนนี้ได้อย่างไร จึงได้ไปแจ้งความที่สภ.อัมพวาว่าผู้ตายลักทรัพย์ไป และไม่คิดอะไรเพียงแต่อยากเจอตัวเขาเท่านั้น

 

จนวันที่ 15 ก.ย.67 ก็นัดเจอกันที่สภ.อัมพวาเพื่อจะถอนแจ้งความแต่ร้อยเวรที่รับคดีไปเรียนต่อแล้วและยังไม่ทราบว่าเขาโอนคดีไปให้ไคร ซึ่งให้เขานั่งรถมาโดยเขาบอกว่าว่าจ้างรถมา1พันบาทโดยให้รถที่ว่าจ้างมาไปจอดที่วัดแห่งหนึ่งตรงข้ามโรงพักซึ่งเขายังไม่รู้ว่าผมจะมาด้วย พอไม่เจอร้อยเวรก็พากันกลับมาซึ่งตนเองก็ขึ้นรถกลับมาด้วย 

แต่ทางผู้ตายบอกว่าขอเข้าห้องน้ำก่อนซึ่งก็เป็นห้องน้ำวัดแต่ไปห้องน้ำผู้ตายเอาโทรศัพท์ไปด้วย ซักพักหนึ่งคนขับรถก็รับโทรศัพท์ซึ่งตนเองมองเห็นว่าเป็นรูปของคนตาย และตนเองก็ได้ยินว่าให้ลงจากรถไปคุยข้างนอกซึ่งตนเองคิดว่าเขาเป็นชู้กันหรือเปล่า แต่ตนเองก็ยังไม่คิดอะไร ซึ่งตนเองบอกกับผู้ตายว่าซื้อทองให้1 บาทและเอาให้เขาดูซึ่งเขาก็จะคว้าไปซึ่งทองนั้นเป็นทองปลอมเพราะตนเองรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเอาอย่างเดียว ซึ่งเมื่อถึงห้องพักวันที่ 15 กันยายน2567 ซึ่งเขาไม่ยอมให้ตนเองไปให้เพียงแต่ออกมาสูบบุหรี่ที่หน้าตึกเท่านั้น จากนั้นตนเองถูกหวยก็ได้ให้เงินเขาไป1หมื่นบาทและก็พากันไปกินไปซื้อของหมดไปเกือบ1 หมื่นบาท ซึ่งตนเองก็ยังระแวงว่าเขาคบคนอื่น และวันที่18กันยายน2567 ตนเองต้องไปตรวจสุขภาพ และก็ไม่ได้ทะเลาะกันเลยเมื่อนอนอยู่ด้วย ตนเองก็บอกกับผู้ตายว่าแมวพี่ขออย่างหนึ่งได้ไหมรับปากได้ไหมจะไม่มีอีก เดือนร้อนอะไรก็โทรศัพท์มาซึ่งเขาก็ไม่รับปากตนเองก็ขึ้นเลยขณะที่เขานอนคว่ำหน้าอยู่มองไปเห็นเตารีดก็ได้ตัดสายไปเตารีดมามัดคอโดยที่ตนเองนั่งคล่อมเขาอยู่รัดจนแน่นและก็บอกกับเขาว่าที่เธอตายนั้นเพราะเธอเอง จากนั้นก็ได้พันอีก 1รอบ จากนั้นตนเองก็ไปเอาสายไฟมาอีก 1 เส้นมัดมือมัดเท้าเขา ซึ่งตนเองก็ยังไม่มั่นใจว่าเขาจะตายที่เอาสายไฟมามัดมือมัดเท้านั้นเกรงว่าเขาอาจจะสลบไปและมือมาแกะสายเตารีดได้ ส่วนที่ขึ้นแท็กซี่นั้นก็ผู้ตายเป็นคนนัดมาเพื่อที่จะให้ตนเองกลับบ้าน ส่วนโทรศัพท์ของผู้ตายนั้นก็อยู่ในถังน้ำในห้องน้ำเพราะจะมีคนโทรศัพท์เขามาตลอดเวลาเมื่อถึงสมุทรสาครตนเองก็ไปเอารถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟไอสีน้ำเงินหมายเลขทะเบียน 1กข 5178 กรุงเทพมหานคร หนีไปที่ราชบุรีจากนั้นก็ขับไปนครสวรรค์เพื่อที่จะไปเชียงใหม่