ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. พร้อมพวกรวม 8 คน พนักงานอัยการปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ในคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ร่วมกันช่วยเหลือปรับความเร็วรถยนต์ที่นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาขับรถเฟอร์รารี่ด้วยความเร็ว พุ่งชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 ก.ย.55 โดยจำเลยทั้ง 8 ได้รับการประกันตัว ด้วยหลักทรัพย์เงินสดคนละ 2 แสนบาท ซึ่งในวันนี้จำเลยทั้ง 8 คนจะต้องเดินทางมาศาลตามนัดเพื่อสอบคำให้การด้วยตนเอง

เมื่อเวลา 09.20น.วันที่ 10 ก.ย.67  พล.ต.อ.สมยศ เดินทางด้วยรถตู้สีดำ มาถึงศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังจากถูกซักถามในการมาสอบปากคำวันนี้ ก่อนจะเดินขึ้นไปยังบัลลังก์ศาล ทั้งนี้จากการสังเกต จำเลยอีก 7 ราย ไม่ปรากฏตัวให้สื่อมวลชนเห็น จนกระทั่งถึงเวลาตามนัดของศาล คาดว่าจะมีการเดินทางมาถึงศาลก่อนหน้านี้แล้ว

ต่อมาเวลา 09.30 น. ศาลฯเริ่มพิจารณา ระบุว่าสำหรับคดีนี้ตั้งกรอบเวลาพิจารณาไว้ที่ไม่เกิน 7 เดือนจากปกติแล้วกรณีที่ศาลฯให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยจะมีระยะเวลาพิจารณา 1 ปี ทั้งนี้ เหตุที่ต้องมีการกำหนดระยะเวลาให้รวดเร็วขึ้นเนื่องจากคดีความดังกล่าวเป็นที่สนใจของสาธารณชน โดยตัวคดีความและคู่ความมีความสำคัญ แต่ทั้งนี้ศาลจะมีการพิจารณาทำคำพิพากษาอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงขอความร่วมมือให้คู่ความทั้งสองปฏิบัติตามกำหนดระยะเวลาของศาลอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้ระยะเวลายืดเยื้อออกไป

อย่างไรก็ตามในคดีนี้ด้วยคดีความมีความสำคัญจากนี้เป็นต้นไปจึงขอให้จำเลย โจทก์ ทนายจำเลยไม่ให้สัมภาษณ์ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เพื่อโน้มน้าวสาธารณชนให้เกิดผลกระทบต่อการพิจารณาของศาล โดยไม่ให้ข้อมูลต่อสื่อสารมวลชนในทุกช่องทางรวมทั้งช่องทางออนไลน์จนกว่าการพิจารณาคดีของศาลจะแล้วเสร็จ

สำหรับพยานหลักฐานที่ฝ่ายโจทก์ได้ยื่นต่อศาลมีทั้งหมด 344 พยาน ประกอบด้วย เอกสารทั้งหมดประมาณ 30,000 หน้า 15 ลัง 75 แฟ้ม พยานบุคคล 21 ปาก นอกนั้นเป็นพยานวัตถุ ซึ่งในกำหนดการต่อไปที่เป็นการตรวจพยานหลักฐานกำหนดนัดวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ในครั้งแรกศาลตั้งใจนัดภายใน 30 วันแต่ด้วยฝ่ายจำเลยและทนายมีเหตุขัดข้องมีธุระอื่นจึงต้องเลื่อนไปเป็นเดือนธันวาคม

สำหรับฝ่ายจำเลยวันนี้จำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 8 ทั้งหมดเดินทางมาศาล ได้ให้การต่อศาลปฏิเสธคดีและขอต่อสู้คดีต่อไป ภายหลังการตรวจพยานหลักฐานจะเป็นการจัดทำคำแถลงศาลภายใน 30 วันหลังจากนั้นศาลจะทำคำพิพากษาทันทีสำหรับคดีนี้ที่มีเวลาระยะยาวนานมากว่า 12 ปีฉะนั้นศาลจึงกำหนดใช้ระยะเวลา 7 เดือนเพื่อเร่งรัดตามนโยบาย ของประธานศาลฎีกาและอธิบดีผู้พิพากษาศาลทุจริตฯ ในส่วนของฝ่ายโจทก์ได้ยื่นขอแก้คำฟ้องเนื่องจากยังเห็นข้อบกพร่องโดยจะจัดทำให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 13 กันยายนนี้