กลุ่มผู้ผลิตข้าวอินทรีย์เกษตรรวมใจ ดึงสมาชิกกว่า 2 พันคน ร่วมทำปุ๋ยชีวภาพ ผลิตข้าวปลอดสารพิษ เพื่อสุขภาพ มุ่งยกระดับสู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูง
นายสังข์ทอง มะลิซ้อน ประธานนาแปลงใหญ่ หมู่ 1 ตำบลหนองห้าง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ (ผู้ผลิตข้าวอินทรีย์เกษตรรวมใจ) เปิดเผยถึงการรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ข้าวว่า ครั้งแรกได้มีการประชุมหารือกันว่าจะทำอย่างไรเพื่อกลุ่มของเราให้เกิดความเข้มแข็ง หลังจากหารือร่วมกันจึงเกิดเป็นกลุ่มผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ขึ้นมา โดยเป็นการรวม 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตเมล็ดข้าวอินทรีย์ตีนภู กลุ่มผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ตามรอยพ่อ และกลุ่มผู้ผลิตข้าวอินทรีย์เกษตรรวมใจ ในปี 2561 หลังจากรวมกลุ่มแล้วได้มีการเสนอให้แต่ละกลุ่มหาสมาชิกมาร่วมกลุ่มกัน จนมีสมาชิกทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นกลุ่มใหญ่ ทำให้ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 2,000 กว่าคน ผู้นำแต่ละกลุ่มร่วมด้วยช่วยกัน มีการระดมหุ้น ๆ ละ 100 บาท โดยไม่จำกัดเพดาน และมีการปันผลทุก ๆ ปี ทำให้กลุ่มมีความเข้มแข็ง
สำหรับจุดเด่นและความเข้มแข็งของกลุ่ม จะเป็นการร่วมมือร่วมใจกันทำปุ๋ยชีวภาพ และนำไปจำหน่ายในราคาต้นทุนให้กับคณะกรรมการ และสมาชิกเพื่อนำไปใช้ในพื้นที่ของตนเอง สำหรับปุ๋ย 1 กระสอบ มีน้ำหนัก 30 กิโลกรัม พื้นที่ 1 ไร่ จะใช้ปุ๋ย 3 กระสอบ (ปุ๋ยชีวภาพ 90 กิโลกรัม ต่อข้าว 1 ไร่) ส่วนข้าวที่ปลูกในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวเหนี่ยวพันธุ์ กข. 6 ข้าวหอมมะลิ 105 จุดเด่นข้าวเหนียว กข. 6 เป็นพันธุ์ข้าวเหนียวหอม ไวต่อช่วงแสง เป็นพันธุ์ข้าวเหนียวที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ข้าวเจ้าพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ตอนนี้ข้าวในพื้นที่มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ ได้เมล็ดพันธุ์ข้าวดี ไม่ค่อยมีเมล็ดลีบ น้ำหนักเยอะ ที่สำคัญทำให้ขายข้าวได้ราคาดี นอกจากนี้ยังมีการส่งออกไปยังต่างประเทศในหลายประเทศ โดยมีพ่อค้าคนกลางมารับถึงที่ คนไหนที่สั่งมาแล้วเขาก็มารับเอง ส่วนร้านค้าเล็ก ๆ เราก็ไปส่งให้ ทำให้สะดวก สบาย ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
ประธานนาแปลงใหญ่ หมู่ 1 ตำบลหนองห้าง กล่าวถึงโครงการสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง” ว่า ถือว่าเป็นโครงการฯ ที่ดีสำหรับสมาชิกได้ร่วมด้วยช่วยกันผลิตข้าวปลอดสารพิษ ถ้าเราอยากกินข้าวปลอดสารพิษ เราจะต้องมีความรักความสามัคคี และร่วมด้วยช่วยกัน จึงเกิดเป็นกลุ่มผู้ผลิตข้าวอินทรีย์เกษตรรวมใจผลิตข้าวปลอดสารพิษ ทำให้สุขภาพคนในชุมชนเปลี่ยนแปลงเป็นดีขึ้น และปลอดภัย นอกจากนี้ตนได้ห้ามไม่ให้เกษตรกรในพื้นที่ ใส่ปุ๋ยเคมี พ่นยา เพราะจะส่งผลกระทบต่อผืนนาเป็นวงกว้าง ส่วนการต่อยอดผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ จะมีทั้งการต่อยอดเมล็ดพันธุ์ข้าว ซึ่งมีหลากหลายพันธุ์ ทั้งข้าวพันธุ์กลาง กข. 24 แต่จะเน้นเป็นข้าวอินทรีย์ทั้งหมด รวมถึงการต่อยอดปุ๋ยชีวภาพ โดยจะขยายให้กับสมาชิก คนไหนอยากจะทำปุ๋ยชีวภาพเป็นของตัวเองก็สามารถมาเรียนรู้ได้ โดยเราได้บอกวิธีทำไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนผสมเตรียมให้เรียบร้อย
“ต้องขอขอบคุณกรมการข้าวที่ ได้เข้ามาช่วยเหลือให้คำแนะนำเอาความรู้เข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของหุ้นของเราให้คงไว้ รวมถึงคำแนะนำเรื่องข้าว ซึ่งมีหลายพันธุ์ ถ้าหากเราอยากเปลี่ยนใหม่ ก็สามารถเปลี่ยนได้ แนะนำในเรื่องการบริหารจัดการ ถือว่าประสบความสำเร็จทุกอย่าง ทำให้เกษตรกรในชุมชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นมีรายได้ที่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิต มีสุขภาพที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” นายสังข์ทอง กล่าว