โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ จัดงาน 1.2.3 READY FOR BETTER LIFE พร้อมเปิดตัว 3 ศูนย์บริการ ได้แก่ R.A.X  HOLISTIC CENTER, LASIK SUPER CENTER และ WOUND CARE CENTER ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ดีพร้อมดูแลสุขภาพที่ดีได้มากกว่า ป้องกัน ดูแล รักษา ในแบบบูรณาการ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ณ โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ สุขุมวิท 62

คุณอภิรักษ์ อภิสารธนรักษ์ กรรมการบริษัท กรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ เปิดเผยว่า การรักษาพยาบาลในอีก 10 ปีข้างหน้าคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ เพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการดูแลผู้ป่วย เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งเทคโนโลยี การวิจัยทางการแพทย์ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม จึงเป็นที่มาของการจัดงาน 1.2.3 READY FOR BETTER LIFE ในครั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ดีพร้อมดูแลสุขภาพที่ดีได้มากกว่า ป้องกัน ดูแล รักษา ในแบบบูรณาการ ผ่าน 3 ศูนย์บริการการแพทย์ใหม่ล่าสุดจากโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ ได้แก่

-R.A.X HOLISTIC CENTER การดูแลสุขภาพในรูปแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย และการแพทย์แบบบูรณาการ ด้วยศาสตร์การแพทย์มนุษยปรัชญา (Anthroposophic Medicine) ซึ่งเป็นปรัชญาการแพทย์ล่าสุดที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรอนามัยโลก (WHO)

-LASIK SUPER CENTER ดูแลสุขภาพ เฉพาะด้านการแก้ไขสายตา อีกหนึ่งอวัยวะที่มีความสำคัญ โดยทีมจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยา กระจกตา และการผ่าตัดแก้ไขสายตา ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงร่วมกับเทคโนโลยีทางการแพทย์และเครื่องมือที่ทันสมัยในการตรวจวินิจฉัยและการผ่าตัด

-WOUND CARE CENTER ดูแลบาดแผลทั่วไป บาดแผลเรื้อรัง โดยมีทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านการดูแลบาดแผลแบบซับซ้อนโดยเฉพาะ การลดความเจ็บปวดจากการทำแผล ลดจำนวนครั้งของการเปลี่ยนแผลโดยไม่จำเป็น การเลือกใช้วัสดุปิดแผลและตัวยารักษาแผลที่มีความทันสมัย


ภายในงาน มีนายแพทย์สุนทร  ศรีทา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ กล่าวต้อนรับเข้าสู่งานพร้อมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่าง ๆ มาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพทั้งในรูปแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย และการแพทย์แบบบูรณาการให้กับผู้ที่เข้าร่วมงาน โดยนพ. อธิวัฒน์ พรศิริวิวัฒน์ (ความเชี่ยวชาญแพทย์ : แพทย์ผู้ที่ได้รับประกาศนียบัตร ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยจากวู้ดซัม) เปิดเผยว่า R.A.X HOLISTIC CENTER คือ ศูนย์บริการทางการแพทย์ในรูปแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย และการแพทย์แบบบูรณาการ โดยผสมผสานในรูปแบบเยอรมัน-สวิส ด้วยศาสตร์การแพทย์มนุษยปรัชญา (Anthroposophic Medicine) เป็นปรัชญาการแพทย์ล่าสุดที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรอนามัยโลก (WHO) ที่มุ่งเน้นแนวคิดใหม่ในการดูแลสุขภาพ โดยออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล ผสานวิทยาการและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อพาคุณไปสู่การมีสุขภาพดีและยืนยาว

พญ.สาริศา ตั้งคุณชัยแสง (จักษุแพทย์) แพทย์ประจำศูนย์ LASIK SUPER CENTER กล่าวว่า ที่โรงพยาบาลรวมใจรักษ์เรามี SmartSight (ReLEx) เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ในละแวกนี้มีที่เราที่เดียว ซึ่งบริการด้านการทำ Lasik ครบวงจร ทั้ง SmartSurfACE (Trans PRK) / SmartLasik (FEMTO) / SmartSight (ReLEx) / ICL รวมถึงทางโรงพยาบาลมีการให้บริการการรักษาในด้านจักษุ หากพบว่าผู้ที่ต้องการทำเลสิกมีปัญหาเรื่องต้อ ตาแห้ง หรืออื่น ๆ ที่ทำให้ไม่สามารถทำเลสิกได้ ก็ยังสามารถดูแลรักษาอาการเหล่านี้ให้กลับมาทำเลสิกได้ และยังสามารถดูแลผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตาได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ

ด้านคุณอนุวัตร เลิศพิทักษ์สุนทร กรรมการบริษัท ฟิลเทค เอ็นเตอร์ไพรส์ 1994 จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเลเซอร์ (เครื่องทำเลสิก) ถูกพัฒนาให้มีความแม่นยำสูง ลดความเสี่ยงจากการใช้มีด บาดแผลเล็ก และรบกวนกระจกตาให้น้อยที่สุด และมีความปลอดภัยมาก ด้วยการผ่าตัดที่ใช้เวลาไม่นาน และฟื้นตัวได้เร็ว อย่างที่คุณหมอบอกบางรายทำวันนี้ พรุ่งนี้ก็สามารถกลับไปทำกิจวัตรปกติได้เลย

พญ. ฟ้ารุ่ง ภูษาทอง (ความเชี่ยวชาญ : แพทย์อายุรศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม) กล่าวถึงผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน มักมีโอกาสเกิดแผลจากภาวะต่าง ๆ เช่น การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ดี สามารถทำให้หลอดเลือดและระบบประสาทเสื่อมลง เพิ่มโอกาสการเกิดแผลและหายช้าได้ ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีอาจทำให้แผลติดเชื้อและเป็นแผลกดทับได้

นพ. อรุษ คุ้มแก้วพรหม (ความเชี่ยวชาญ : ศัลยศาสตร์ทั่วไป) เปิดเผยถึงประโยชน์ของศูนย์ WOUND CARE ว่าเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ หรือภาวะที่ซับซ้อน หรือยากต่อการรักษาในระดับพื้นฐาน นี่คือลักษณะของคนไข้ที่อาจต้องการการดูแลจากศูนย์เฉพาะทางนี้ เช่น แผลเรื้อรัง หรือแผลที่ไม่หายไปแม้ได้รับการรักษามานานเกิน 4-6 สัปดาห์ แผลจากโรคเบาหวาน แผลจากการกดทับ ฯลฯ โดยทางศูนย์ฯ มีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลแผลซับซ้อน และใช้เทคโนโลยี และวิธีการรักษาที่ทันสมัย เพื่อลดเวลาในการรักษาและเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวของผู้ป่วย

นพ. วันปรีดี ตันเสนีย์ (ศัลยแพทย์ อุบัติเหตุและเวชศาสตร์ความดันบรรยากาศสูง) กล่าวปิดท้ายว่าการทำงานของ Hyperbaric Oxygen  ที่จะช่วยรักษาโรคต่าง ๆ และสามารถทำควบคู่กับการรักษาโรคกลุ่มของบาดแผลเรื้อรัง, หูดับแบบไม่ทราบสาเหตุ, เนื้อเยื่ออักเสบจากการฉายรังสี, แผลที่มีเนื้อตายจำนวนมาก แผลไฟไหม้ อาการปวดเรื้อรัง และสามารถรักษาควบคู่กับการรักษาอื่น ๆ ได้ เพราะ HBOT เป็นการรักษาเสริม สามารถทำร่วมกับการรักษาปกติได้