สยามรัฐ ยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยืนหยัดรับใช้สังคมด้วยจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ …*…
เส้นทางการเมืองของนายกฯหญิงวัยละอ่อน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เติบใหญ่มาด้วย “บารมีพ่อ” ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความขรุขระ ยังไม่ทันเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการ ก็เจอสารพัดข้อกล่าวหาประเคนใส่ มีโอกาสกระเด็นตกเก้าอี้นายกฯได้ง่ายๆ ซ้ำรอยนายเศรษฐา ทวีสิน …*…
ไล่ตั้งแต่นักร้องสายบ้านป่ารอยต่อย นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ตรวจสอบน.ส.แพทองธารว่ายังคงอยู่ในตำแหน่งรองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ รองประธานกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ และประธานกรรรมการพัฒนาซอฟต์เพาเวอร์ หรือไม่ เพราะทั้ง 3 ตำแหน่งดังกล่าวควรนับเป็น “เจ้าพนักงานของรัฐ”ตามความในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 4 …*…
โดยนายเรืองไกรได้พุ่งเป้าไปที่การตั้งคำถามว่าในขณะที่น.ส.แพทองธารดำรง 3 ตำแห่งดังกล่าว ได้มีการฝ่าฝืนมาตรา 128 ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตไหม ด้วยการอ้างถึงภาพข่าวเหตุการณ์ที่น.ส.แพทองธารได้ปรากฏตัวร่วมงานเลี้ยง และการตีกอล์ฟ กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มีนักการเมืองระดับชาติ และนักธุรกิจใหญ่เข้าร่วมด้วย …*…
“ขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่า การตีกอล์ฟนั้นเกิดเมื่อวันที่ใด มีการจ่ายค่ากรีนฟี แคดดี้ฟี ค่ารถกอล์ฟ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม เป็นจำนวนเท่าใด ใครเป็นผู้จ่าย และงานเลี้ยงที่เป็นข่าว เกิดขึ้นที่ใด มีการจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มเท่าใด ใครจ่าย และยังมีเจ้าพนักงานของรัฐผู้ใด ได้รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด อันเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 128 หรือไม่ เพราะมีการบัญญัติห้ามมิให้เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคํานวณ เป็นเงินได้จากผู้ใด นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย”นายเรืองไกรระบุ …*…
ตามมาด้วย “ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม”เข้าร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย และดำเนินคดีกับน.ส.แพทองธารในฐานะหัวพรรค เนื่องจากปล่อยให้นายทักษิณเข้าครอบงำ กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีในสมัยนายกฯเศรษฐา นำไปสู่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้นายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกฯมาแล้ว …*…
“ยังมีอีก 3 คดีที่มีข่าวว่ากำลังจะดำเนินการ แต่ยังไม่ปรากฏตัวเจ้าภาพคือ 1)การร้องให้ยุบพรรคร่วมรัฐบาลที่ประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้าในยามพลบของวันที่ 14 สิงหาคม เพื่อจัดตั้งรัฐบาลในข้อหาว่ายินยอมให้บุคคลภายนอกครอบงำพรรค 2) การร้องขอให้ถอดถอนนายกฯอุ๊งอิ๊งในข้อหาว่าขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรงในกรณีการสอบเมื่อครั้งเป็นนิสิตจุฬาฯ โดยหาว่าทุจริตในการสอบ 3)กรณีปลุกผียายเนื่อมมากล่าวหานายกฯอุ๊งอิ๊งโกงที่ธรณีสงฆ์ของวัด เป็นการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง”ข้อมูลจากนายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมายที่ได้เผยแพร่ผ่านไลน์ส่วนตัว …*…
พร้อมกันนี้ในไลน์ส่วนตัวเดียวกันนี้ของนายไพศาลยังให้ความเห็นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า “การเมืองไทยวันนี้ ไม่ใช่เรื่องเย็บปักถักร้อย หรือการเดินแฟชั่นหรูอีกต่อไป แต่เป็นยุคสมัยที่ทุ่มทำลายกันสุดตัวชนิดที่ไม่ให้เหลือกซาก เถา เหล่า กอกันอีก แล้วจะทำฉันใด” …*…
ต้องรอดูกันต่อไปว่าน.ส.แพทองธารจะฝ่าฟันข้อกล่าวหาเหล่านี้เป็นไปได้อย่างไร โดยเฉพาะในประเด็นที่ปล่อยให้นายทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทย เพราะในความเห็นประชาชนคนทั่วไปที่สะท้อนผ่านศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เรื่อง "บทบาท อดีตนายกฯ ทักษิณ ในรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง"เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่าส่วนใหญ่ร้อย 59.01 เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่น.ส.แพทองธารจะบริหารประเทศโดยปราศจากนายทักษิณ …*…
ฉะนั้น เป็นเรื่องของน.ส.แพทองธาร และนายทักษิณ รวมถึงทีมงานจะวางบทบาทนายทักษิณแบบไหนที่จะไม่กลายเป็นเป้าให้ถูกโจมตีว่าเข้าครองงำรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย จนต้องเผชิญชะตากรรมอันไม่พึงประสงค์ ที่ไม่ต่างอะไรกับการรูดม่านปิดฉากตระกูลชินวัตรในทางการเมืองไทย …*…
ที่มา:เจ้าพระยา (29/8/67)