หลังมีข่าวว่า เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตปลัดมหาดไทย ปัจจุบัน รมว.ท่องเที่ยวฯ จะข้ามมาเป็น รมว.กลาโหม ทำให้ ผบ.เหล่าทัพ เริ่มขยับ ในการเร่งจัดโผโยกย้ายทหาร
จากเดิมที่ข่าวว่าจะรอจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และ รมว. กลาโหมคนใหม่ เพราะไม่รู้แนวทางของ เสริมศักดิ์ ในการทำงานว่าจะเป็นอย่างไร
อีกทั้งกว่าจะได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และ ถวายสัตย์ปฏิญาณฯ และ แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เริ่มปฎิบัติหน้าที่ได้ ก็อาจจะเลย 15 กันยายน ซึ่งเป็นกำหนดเดทไลน์ ที่ต้องส่งบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารเพื่อเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ
จนมีกระแสข่าวว่าผู้บัญชาการเหล่าทัพ พอใจที่จะอยากให้ สุทิน คลังแสง เป็น รมว.กลาโหม ต่อ เพราะจากการทำงานร่วมกันมาเกือบหนึ่งปีพูดคุยกันง่ายและเข้าใจกองทัพรวมทั้งสามารถทำให้ประชาชนใกล้ชิดและเข้าใจกองทัพมากขึ้น อีกทั้งตัว สุทิน เองก็เข้าใจเรื่องทหารได้รวดเร็ว
มีรายงานว่าถ้าไม่ใช่ สุทิน เป็น รมว.กลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกับ ภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่จะควบ กลาโหมแม้จะมีกระแสข่าว ต่อต้านเรื่องที่เคยเป็น คนเดือนตุลาในยุคคอมมิวนิสต์ก็ตาม แต่ก็น่าจะคุยได้ง่ายกว่า เสริมศักดิ์
แต่ในระหว่างที่รอ โผคณะรัฐมนตรีลงตัว สุทิน ได้หารือกับ “บิ๊กหนุ่ม” พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกลาโหม ในเรื่องอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีกลาโหมรักษาการที่สามารถทำได้ทุกเรื่องรวมถึง การร่วมประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล ของกระทรวงกลาโหม หรือบอร์ด 7 กลาโหม ที่ปัจจุบันมีแค่ 6 เสือกลาโหม เนื่องจากไม่มี รมช. กลาโหม
จึงมีการนัดส่งโผโยกย้ายทหาร ของทุกเหล่าทัพเมื่อ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีการหารือนอกรอบของ สุทิน และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ก่อนที่จะนัดประชุมบอร์ด 6 เสือกลาโหม อย่างเป็นทางการ 3 กันยายนนี้
ประกอบกับการที่ “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.จะเดินทางไปเยือน ทบ. ออสเตรเลียในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ด้วยจึงต้องเร่งหารือให้เสร็จเรียบร้อย
อีกทั้ง ได้ไฟเขียว จาก ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้ สุทิน จัดโผทหารไปตามกรอบเวลา เพราะจะต้องให้เสร็จ ก่อน 15 กย. นี้ ที่ต้องเตรียมนำขึ้น ทูลเกล้าฯ
บัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้าย ตัวจริง ถูกส่งให้ สุทิน แล้ว และมอบให้ พล.อ.สนิธชนก เก็บรักษา และนำเข้าขั้นตอนเพื่อเตรียมประชุมบอร์ด 6 เสือกลาโหม เพื่อลงมติจบให้ทุกตำแหน่งลงตัว
แม้ว่า พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. จะ เสนอชื่อ “บิ๊กปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ เสธ.ทบ. (ตท.26) เป็น ผบ.ทบ.คนใหม่
แม้ว่าเตรียมทหารรุ่น 24 จะไม่สามารถยึดเก้าอี้ผบ. ทบ.ได้ แต่สำหรับ “บิ๊กหนุ่ย” พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ ผช.ผบ.ทบ. แคนดิเดท ผบ.ทบ. ( ตท.24 ) แม้จะไม่ได้เป็น ผบ.ทบ. แต่ก็ได้ข้ามไป บก.ทัพไทย นั่ง รองผบ.ทหารสูงสุด เพื่อเตรียมจ่อเป็น ผบ.ทหารสูงสุด คอแดง คนที่ 3 ต่อจาก “บิ๊กอ๊อบ” พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ที่จะเกษียณ ต.ค.2568
โดย พล.อ. ธราพงษ์ ซึ่งเป็นบูรพาพยัคฆ์คอแดงมีอายุราชการถึงตุลาคม 2569 แล้วก็ถือเป็นเตรียมทหารรุ่น 24 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ทรงวิทย์ ที่จะยังทำให้เตรียมทหารเรื่อง 24 ยังเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพต่ออีก
ท่ามกลางการจับตามองว่า นอกจากเรื่องความเหมาะสมและเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองแล้วการที่ พล.อ.พนา สายวงศ์เทวัญคอแดง น้องรัก “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผบ.ทบ. ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. เกี่ยวข้องกับ ดีล หรือไม่
เพราะในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการ รมว.กลาโหมในยุคของ สุทิน เพื่อนรักเตรียมทหาร 20 ของ พล.อ.อภิรัชต์ ก็ได้มาเป็นรัฐมนตรีช่วยกลาโหม หลังจากที่รอมานานเป็นปี
อีกทั้งการที่ พล.อ.พนา มีอายุราชการถึง 2570 สามารถนั่งได้นานถึง 3 ปีจะทำให้อำนาจเข้มแข็งและทำงานได้ต่อเนื่อง ในการทำงานร่วมกับรัฐบาลของ นางสาวแพรทองทา ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนใหม่จนกว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2570
เพราะตราบใดที่ดีล ยังคงทำงานอยู่ กองทัพก็จะยังคงทำหน้าที่ผู้ช่วยนางเอก ดูแลรัฐบาลต่อไปในการสู้กับขบวนการล้มล้างสถาบันฯ