“สจส.”ถก”อนุกรรมการฯ” กรมขนส่งฯ มีมติให้ย้ายป้ายรถประจำทางกลับจุดเดิมบริเวณหน้าหมู่บ้านพิบูลย์บางซื่อ ตามผลประชาพิจารณ์ คาดกลางกันยาฯ นี้ ส่วนศาลาที่พักผู้โดยสารรอหาข้อสรุปอีกครั้งก่อนย้ายตามภายหลัง
จากกรณีชาวหมู่บ้านพิบูลย์ บางซื่อ กรุงเทพมหานคร แจ้งร้องทุกข์ผ่านสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการย้ายป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง และศาลาที่พักผู้โดยสารบริเวณหน้าหมู่บ้านพิบูลย์ บางซื่อ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน ไม่สะดวกต่อการเดินทาง และเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตามที่หนังสือพิมพ์”สยามรัฐ” ได้นำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 ส.ค.67 นายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงแนวทางการย้ายป้ายหยุดรถโดยสารประจำทางและศาลาที่พักผู้โดยสารบริเวณหน้าหมู่บ้านพิบูลย์บางซื่อ เขตบางซื่อ ว่า จากการประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการพิจารณาที่หยุดรถโดยสารในเขตกรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เมื่อวันที่ 27ส.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นที่ประชุมมีมติให้ย้ายป้ายหยุดรถโดยสารประจำทางและศาลาที่พักผู้โดยสารกลับไปบริเวณเดิม โดยห่างจากจุดเดิมบริเวณก่อนถึงสะพานลอยประมาณ 10 เมตร การดำเนินการแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้ย้ายป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง ส่วนที่สอง สำนักการจราจรและขนส่งเป็นผู้ย้ายศาลาที่พักผู้โดยสารไปไว้ยังจุดเดียวกัน
นายสิทธิพร กล่าวว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างกรมการขนส่งทางบกรวบรวมรายงานการประชุม ทำหนังสือเวียนแจ้งมติแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยตามขั้นตอน เมื่อหนังสือดังกล่าวมาถึง สจส.จึงจะดำเนินการย้ายศาลาที่พักผู้โดยสารได้ โดยคาดว่ากรมการขนส่งทางบกจะย้ายป้ายหยุดรถโดยสารไปก่อนประมาณกลางเดือนก.ย.นี้ จากนั้น สจส.จึงจะนำรายงานการประชุมสรุปมติจากกรมการขนส่งทางบกมาประกอบการตั้งงบประมาณเพื่อย้ายศาลาที่พักผู้โดยสารตามขั้นตอนต่อไป
ในส่วนของศาลาที่พักผู้โดยสาร สจส.ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของพื้นที่ เนื่องจากหากเจ้าของพื้นที่ต้องการขออนุญาตเปิดทางเข้าออกกว้าง 6 เมตร ตามกฎหมายกำหนด เพื่อก่อสร้างหมู่บ้าน หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ใช่อาคารพาณิชย์ สจส.ต้องอนุญาตตามกฎหมาย ดังนั้นจะทำให้ไม่มีพื้นที่มากพอในการตั้งศาลาที่พักผู้โดยสาร หรือไม่สามารถตั้งศาลาที่พักผู้โดยสารขวางทางเข้าออกได้ แต่ถ้าเจ้าของพื้นที่ก่อสร้างอาคารพาณิชย์ ไม่ขออนุญาตเปิดทางเข้าออกก็สามารถตั้งศาลาที่พักผู้โดยสารได้ดังเดิม หรือหากติดขัดด้านพื้นที่ในการตั้งศาลาที่พักผู้โดยสารจริงๆ สจส.อาจพิจารณาย้ายศาลาที่พักผู้โดยสารไปยังพื้นที่อื่น เหลือไว้แต่ป้ายหยุดรถโดยสารเท่านั้น ขึ้นอยู่กับการตกลงกันกับคนในพื้นที่และเจ้าของที่ดินด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงข้อขัดแย้งของคนในพื้นที่ และเสียงบประมาณในการย้ายศาลาที่พักผู้โดยสารในภายหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังชาวหมู่บ้านพิบูลย์บางซื่อและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงทราบมติดังกล่าว ต่างแสดงความดีใจและขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนสพ.”สยามรัฐ” ที่ช่วยเป็นสื่อกลางนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริง จนทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นใจย้ายป้ายกลับมายังที่เดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีความขัดแย้งเรื่องการย้ายศาลาที่พักผู้โดยสารบริเวณหน้าหมู่บ้านพิบูลย์บางซื่อ สืบเนื่องจากเจ้าของพื้นที่มีการย้ายศาลาที่พักผู้โดยสารจากจุดเดิมที่เคยตั้งมากว่า 46 ปี ไปยังจุดใหม่ห่างกันประมาณ 30 เมตร จุดประสงค์เพื่อต้องการเปิดทางเข้าออกพื้นที่ โดยยังไม่ได้รับหนังสือเห็นชอบตอบกลับจาก สจส.อย่างเป็นทางการ ทำให้มีชาวบ้านร้องเรียนถึงการย้ายศาลาที่พักผู้โดยสารโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่สอบถามความเห็นชาวบ้าน เป็นเหตุให้สจส.แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน รวมถึงมีการทำประชาพิจารณ์ของชาวบ้านในพื้นที่ โดยมีผู้ลงชื่อเห็นชอบให้ย้ายกลับมาที่เดิมประมาณ 270 รายชื่อ ไม่เห็นชอบประมาณ 40 รายชื่อ
ส่วนสำนักงานเขตบางซื่อเห็นชอบให้ย้ายไปจุดเดิมตามมติเสียงข้างมากของชาวบ้าน นำไปสู่การพิจารณาของกรมการขนส่งทางบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลงมติย้ายป้ายหยุดรถโดยสารและศาลาที่พักผู้โดยสารกลับไปยังจุดเดิมที่เคยอยู่มากว่า 46 ปี ให้ถูกต้องตามกฎหมาย กระทั่งล่าสุดวันที่ 27 ส.ค.67 มีมติให้ย้ายกลับไปยังจุดเดิมตามผลประชาพิจารณ์ของชาวบ้านแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป