"ไทยสร้างไทย" จัดเวทีหาทางออกช่วยผู้ประกอบการ SMEs ชี้ สมรภูมิแข่งขันดุเดือด คนตัวเล็ก รายย่อยเผชิญความท้าทาย กลยุทธ์การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม  "สุดารัตน์" ประกาศดันช่วยผู้ประกอบการรายย่อย SMEs เป็นวาระเร่งด่วน ระบุ ต้องปลดล็อคกฎหมาย ที่เป็นอุปสรรคในการทำมาหากิน สนับสนุนให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงแหล่งทุน ไปพร้อมกับการแก้หนี้เติมทุน

เมื่อวันที่ 23 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคไทยสร้างไทย ได้จัดเสวนาในหัวข้อ"มาตรการปั๊มหัวใจ SMEs แก้หนี้เติมทุน" เพื่อร่วมกันระดมสมอง สรุปแนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิร่วมพูดคุย ประกอบด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ดร.โภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย นายไชยวัฒน์ หาญสมวงศ์รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายสุปรีย์ ทองเพชร ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย นายพงษ์เดช ศรีวชิรประดิษฐ์ กรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ นายภาวุธพงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เพย์ โซลูชั่น จำกัด

นายภาวุธ ชี้ให้เห็น ถึงสถานการณ์และความท้าทายของผู้ประกอบการไทยซึ่งต้องเผชิญ การแข่งขันทางการค้าอย่างดุเดือด โดยเฉพาะกลยุทธ์การแข่งขันด้านราคา ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยทั้งออนไลน์ออฟไลน์ ในปัจจุบันนั้นยากลำบากมาก ต้องช่วยกันเรียกร้องให้ รัฐเร่งแก้ไขปัญหาการเข้ามาของธุรกิจจีน ซึ่งเน้นการแข่งขันด้านราคาแต่สินค้าอาจไม่ได้มาตรฐาน และเห็นว่าต้องมีการออกแบบโมเดลสำหรับการรับแจ้งปัญหาธุรกิจต่างชาติ แรงงานต่างชาติหรือสินค้าต่างชาติที่ผิดกฎหมาย โดยระบบอาจคล้ายกับ Traffy Fondue เป็นเครื่องมือรับแจ้งปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ one stop service

นายสุปรีย์ มองว่าปัญหาของ SME ในปัจจุบันคือการแข่งขันที่ดุเดือด มีการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือจัดทำสินค้าที่เป็นรูปแบบเดียวกัน แต่ต้นทุนการผลิตสินค้าจากจีนนั้นต่ำกว่าของประเทศไทยมาก คนไทยจึงไม่อาจสามารถยืนระยะหรือสู้ได้ภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมาย ดังนั้นผู้มีอำนาจจึงต้องเร่งผลักดันกฎหมายสภา SME ที่คั่งค้างมานานให้แล้วเสร็จ แม้จะเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงินซึ่งรัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบก็ตาม เพื่อให้สามารถจัดสรรงบประมาณได้ตรงจุด ไม่ต้องซ้ำซ้อนในหลายกระทรวง และสามารถช่วยเหลือได้อย่างตรงเป้าหมาย

นายพงษ์เดช มองว่าความยากลำบากของผู้ประกอบการไทยในเวลานี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปลดล็อคและแก้ไขเรื่องใบอนุญาตที่ไม่จำเป็น การแก้ปัญหาต้องทำแบบบูรณาการ one stop service เพื่อช่วยผู้ประกอบการ ช่วยเหลือคนตัวเล็กได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างธุรกิจให้สามารถ เติบโตไปสู่เป้าหมาย และความสำเร็จได้จริง

ไม่ต่างจาก นายไชยวัฒน์ ที่มองว่าถึงเวลาที่จะต้องกำจัดอุปสรรคในการประกอบอาชีพของประชาชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย SMEs เรื่องการเข้าถึงแหล่งทุน ผ่านการจัดตั้งกองทุนต่างๆ ซึ่งจะเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ผู้ประกอบการ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำได้

ขณะที่ดร.โภคิน เห็นว่า การจะทำให้ SMEs ฟื้นตัว และพี่น้องประชาชนมีโอกาสทำมาหากินได้ จำเป็นต้องขจัดอุปสรรคสำคัญนั่นคือการ พักหรือแขวนการบังคับใช้ใบอนุมัติ อนุญาตกว่า 1,400 ฉบับ เพื่อให้คนไทยลุกขึ้นมาทำมาหากินได้ทันที เช่น กฎหมายหรือข้อบังคับต่างๆที่เป็นการเลือกปฏิบัติ เช่นกฏหมายที่ควบคุมในกลุ่มคราฟเบียร์

หลังการอภิปรายอย่างกว้างขวาง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวสรุปว่าพรรคไทยสร้างไทยจะเร่งเดินหน้าช่วยเหลือ ผู้ประกอบการรายย่อย SMEs และคนตัวเล็กเป็นวาระเร่งด่วนต่อไป เบื้องต้นได้มอบหมายคณะกรรมการชุดต่างๆ เร่งขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพื่อสร้างโอกาสในการทำมาหากินยั่งยืน ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาเพียงชั่วครั้งชั่วคราวโดยพรรคไทยสร้างไทย จะสนับสนุนการปลดปล่อยหรือ liberate ผู้ประกอบการ ด้วยการสนับสนุนกฎหมายสภา SMEs รวมถึงการปลดล็อค ใบอนุญาต อนุมัติ กฎหมายที่ไม่จำเป็นกว่า 1,400ฉบับ รวมถึงการ Empower ประชาชน ด้วยการสนับสนุนให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงแหล่งทุน ไปพร้อมๆกับการแก้หนี้เติมทุน เช่นในรายเล็กพรรคไทยสร้างไทย มีนโยบายกองทุนเครดิตประชาชน สามารถกู้ได้ตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อใช้เป็นทุนในการตั้งตัว อีกส่วนคือการช่วยเหลือกลุ่ม SMEs ทั้งในส่วนของ Start Up กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มการท่องเที่ยว หรือกลุ่มธุรกิจเงินร่วมลงทุน เป็นต้น โดยจะจัดตั้งกองทุนขึ้นมา เพื่อให้มีคนเหล่านี้มีลมหายใจเดินหน้าต่อไปได้